ความน่าสนใจของ "เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูฯ" ก็ตรงแกนนำชื่อ "อวยชัย วะทา" นี่แหละ ที่ว่ากันว่า ยุทธวิธีอาจเป็น ขอแก้หนี้ครู แต่ยุทธศาสตร์ คือ เรื่องอื่น!
ร้อนไปทั้งโซเชียล กรณี “ปฏิญญามหาสารคาม” ของคณะครูกลุ่มหนึ่งที่ขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างเร่งด่วน แต่กลับถูกมองว่าเป็นการประกาศชักดาบธนาคารออมสิน
ความน่าสนใจของ “เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย” นั้นอยู่ตรงแกนนำชื่อ “อวยชัย วะทา” ในฐานะประธานเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครู
ส่วนผู้ที่มารับหนังสือร้องเรียนในวันนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคือ “ตวง อันทะไชย” สมาชิก สนช. และประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ในยุทธจักรนักเคลื่อนไหวสายครูล้วนทราบดีว่า “อวยชัย วะทา” กับ “ตวง อันทะไชย” เป็นสหายร่วมรบกันมายาวนาน ตั้งแต่สมัยต่อสู้ปลดแอกครูประชาบาลจากมหาดไทย
“อวยชัย” เป็นคนร้อยเอ็ด แต่มามีบทบาททางการเมืองภาคประชาชนในมหาสารคาม หลังเรียนจบวิทยาลัยครูมหาสารคาม ก็เข้ารับราชการครูใน จ.มหาสารคาม
ปี 2520-2522 อวยชัยเข้าร่วมกับชมรมครูประชาบาลแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้ครูประชาบาลปลดแอกจากกระทรวงมหาดไทยจนเป็นผลสำเร็จ อันนำมาสู่การตั้งสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) ผู้นำครูยุคนั้น อาทิ สุชน ชาลีเครือ, นิพนธ์ ชื่นตา, ปรีดา บุญเพลิง, เยี่ยมยอด ศรีมันตะ ฯลฯ
ไม่เพียงแต่เคลื่อนไหวในนามขององค์กรครูเท่านั้น อวยชัยยังได้เข้าร่วมขับเคลื่อนสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน (สกย.อ.) โดยเขาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสมัชชาดังกล่าว
การเคลื่อนไหวของสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสานเวลานั้น ได้สร้าง “ผู้นำมวลชน” ขึ้นมาหลายคน อาทิ สน รูปสูง, บำรุง คะโยธา, อวยชัย วะทา, นคร ศรีวิพัฒน์, เขื่อนเพชร โพนรัมย์ ฯลฯ
ต้นปี 2549 อวยชัยนำองค์กรครูอีสานเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชูธงขับไล่ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า อวยชัยสนิทสนมกับสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ ในเวลานั้น
หลังรัฐประหาร 2549 อวยชัยเป็นรวมพลแกนนำสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน (สกอ.), สมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน (สกย.อ.), สหพันธ์สหกรณ์การเกษตรภาคอีสาน (สสอ.) และมูลนิธิเกษตรกรไทย ก่อตั้งองค์กรใหม่ “สภามนตรีความมั่นคงเกษตรกรอีสาน” แต่ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากมายนัก
ปลายปี 2550 ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ชวนอวยชัยและพรรคพวกไปสังกัดพรรคชาติไทย แต่สะดุดปัญหาการบริหารจัดการในพื้นที่ อวยชัยเลยยกทีมออกจากพรรคป๋าเติ้ง
หลังจากนั้นอวยชัยก็ปลีกตัวจากยุทธจักรไปเรียนหนังสือจนจบปริญญาเอกและได้เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาวิชาปรัชญา ศาสนา และวัฒนธรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม โดยอวยชัยเพิ่งเกษียณอายุราชการเมื่อกันยายน 2560
เมื่อปี่กลองเลือกตั้งดังขึ้นมีรายงานข่าวว่า อวยชัยได้เดินสายไปแลกเปลี่ยนกับสหายร่วมอุดมการณ์ ว่าด้วยเรื่องการตั้งพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของครูและเกษตรกร
รวมถึงการพูดคุยกับ “ปรีดา บุญเพลิง” อดีตเลขาธิการชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ร่วมต่อสู้ปลดแอกครูประชาบาลมาแล้ว ซึ่งเมื่อปี 2554 ปรีดาได้ยื่นจดทะเบียน “พรรคครูไทยเพื่อประชาชน”โดยตัวเขาเองเป็นหัวหน้าพรรค และปัจจุบันพรรคนี้ยังมีการเคลื่อนแจ้งข่าวให้สมาชิกพรรคยืนยันสิทธิ์ตามระเบียบของ กกต.
การออกแบบ “ปฏิญญามหาสารคาม” ของอวยชัย ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายของนักเคลื่อนไหวภาคประชาชน โดยยุทธวิธีนั้นแก้หนี้ครู แต่ยุทธศาสตร์คือการตั้งพรรคการเมืองของครูและเกษตรกร
/////////
เครดิตภาพ เฟซบุค ดร. อวยชัย วะทา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง