คารวะด้วยใจฮีโร่นอกจอ...ผู้ปิดทองหลังพระ!

 

          ใครจะลืม!! กับอีกกลุ่มคนที่ต้องบอกว่าเป็นฟันเฟืองแม้น้อยนิด แต่ยิ่งใหญ่มหาศาลในปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัย 13 ชีวิตหมูป่าที่หายไปในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

          พวกเขาคือบรรดาฮีโร่หลังฉาก ม้านอกสายตา จิตอาสาจำนวนมาก!

          ซึ่งที่สุดพวกเราต่างยอมรับกันแล้วว่าพวกคุณปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด! เต็มกำลังที่สุด! ทุ่มเทเสียสละไม่ต่างจากฮีโร่หน้าฉาก!!

 

 

          และยังทำให้เราได้รู้ว่าแม้ธรรมชาติอาจเป็นสิ่งที่มนุษย์เอาชนะไม่ได้ แต่ถ้ามีเทคนิคดี บวกใจใหญ่ๆ บางทีธรรมชาติก็เผลอตามพวกเราไม่ทันเหมือนกัน!

          ว่าแต่พวกเขาเป็นใครกันบ้าง?

          ฮีโร่ผู้ปิดรูหลังถ้ำ
          อย่างที่รู้กันว่าปัญหาหลักที่ใหญ่ยิ่งกว่าเทือกเขาแห่งขุนน้ำนางนอน คือบรรดามวลน้ำที่เอ่อท้นอยู่ในถ้ำส่งผลให้การช่วยเหลือกู้ภัยทั้ง 13 ชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบากยิ่ง

          ดังนั้นกลุ่มคนที่มาทำหน้าที่ในการปิดรูน้ำซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายองค์กร เช่น กู้ภัยสยามรวมใจ, ทหารจาก มทบ.37, ทหารค่ายทหารเสือพ่อขุนจอมธรรม, ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฯลฯ จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้การทำงานของฮีโร่หน้าฉากดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นหรือดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

 

          หน้าที่ของฮีโร่กลุ่มนี้คือต้องเดินเท้าสำรวจเส้นทางน้ำไหลผ่านจากห้วยน้ำดั้นฝั่งทิศเหนือของถ้ำหลวง ตั้งแต่ต้นน้ำยังปลายน้ำ ยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร ท่ามกลางสภาพพื้นที่สูงชันและสภาพของอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย และเมื่อสำรวจจนพบแล้วซึ่งต้องมีการนำท่อเข้าวางด้านบนต้นน้ำที่มีความสูง 689 เมตรจากระดับน้ำทะเล เพื่ออุดหลุมน้ำที่ซึมลงถ้ำหลวง หรือที่เรียกว่า “ซิงค์โฮล” 

 

 

          ซึ่งในที่สุดแม้ว่าแต่ละวันพวกเขาต้องเจอบรรดาอุปสรรคต่างๆ ทางเทคนิคและทางสภาพอากาศที่พบรายวัน แต่พวกเขาสามารถซิงค์โฮล ได้ไม่น้อยกว่า 20 จุด ทางทิศเหนือของถ้ำหลวงได้

 

 

          ที่สำคัญงานนี้จะไม่มีวันจบหากว่าทั้ง 13 ชีวิตและบรรดาทีมกู้ภัยในถ้ำยังไม่ออกมา กลุ่มคนเหล่านี้จะต้องทำภาคกิจนี้ไปเรื่อยๆ เช้าจรดค่ำ

          ถามว่าต้องใช้แรงกายของมนุษย์มากมายกี่ชีวิตและต้องมีหัวใจใหญ่แค่ไหนถึงทำภารกิจนี้ได้!

          น้ำนอง ต้องพญานาค
          ฮีโร่กลุ่มนี้คือบรรดาทีมสูบน้ำหลายกลุ่ม ผู้มีจิตอาสาเข้ามาช่วยสนับสนุนการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ที่ติดถ้ำหลวง   เช่น ทีมของธวัชชัย ฟุ้งขจร ทีมท่อสูบน้ำซิ่งที่มาจากนครปฐม-บ้านแพ้ว สมุทรสาคร ที่ได้รับการสนับสนุนมาจากทีมจาก จ.นครปฐม และสมุทรสาคร เช่น พี่เอกท่อซิ่ง, ท่อสูบน้ำดอนยายหอม และทีมงานป๊อปบ้านแพ้ว

 

 

          นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม “พี่ทอม” หรือ ชวินชยาทิต ภาณุหสตัง ไทรแก้ว อดีตนายก อบต.นิลเพชร อ.บางเลน จ.นครปฐม และทีมงาน

          หน้าที่ของพวกเขาคือ แบกขนท่อพญานาค 3 ตัว มาติดตั้งบริเวณนอกถ้ำทรายทอง อ.แม่สาย จ.เชียงราย และเดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา และคอยสูบน้ำในแอ่งน้ำหน้าถ้ำทรายทองเพื่อทำให้ถ้ำทรายทองซึ่งอยู่ใต้ถ้ำหลวงเป็นเหมือนอ่างเก็บน้ำ และรับน้ำแทนถ้ำหลวง

          ต้องนับว่าเป็นอีกงานที่มีความสำคัญเพราะภารกิจของพวกเขาก็ต้องทำต่อเนื่องๆ ในการระบายน้ำออก เพราะทุกๆ วินาทีมีค่าต่อชีวิตของทุกคนในถ้ำ!

 

 

          น้ำหลาก เราเจาะ
          นอกจากอุด สูบ แล้ว ยังมีทีมเจาะผนังที่ถือเป็นอีกกลุ่มฮีโร่กู้ภัยถ้ำ ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้

          อย่างทีมเจาะผนังถ้ำของสุรทิน ชัยชมพู นายกสมาคมน้ำบาดาลไทย ที่ได้นำรถขุดเจาะขนาดใหญ่พร้อมกำลังคนนับ 100 ชีวิตเดินทางมาที่หน้างานทันที เช่นเดียวกับทีมงานเจาะบาดาลของ อบจ.เชียงราย และบริษัทบาดาลไทยที่มาร่วมภารกิจ

          งานของพวกเขาคือการเจาะเพื่อระบายน้ำใต้ดินที่จะช่วยลดปริมาณน้ำในถ้ำได้ และยังมีการเจาะทะลุทะลวงหน้าปากถ้ำและหลังถ้ำเพื่อสกัดน้ำป่าไม่ให้ไหลหลากเข้าถ้ำเพิ่มไปอีก

 

 

          ที่เป็นภาพแห่งความประทับใจคือทีมเจาะกับทีมสูบพญานาคทำงานเข้าขากันอย่างดี จนภาพของน้ำบาดาลที่พวยพุ่งขึ้นฟ้าแล้วไหลลงไปที่จุดรับน้ำ ทำให้รู้สึกได้ว่าคนกลุ่มนี้ คือ ฮีโร่แห่งการเบี่ยงสายน้ำตัวจริง

          สำหรับ สุรทิน ชัยชมพู นายกสมาคมน้ำบาดาลไทย เรียกว่าได้รับเสียงชื่นชมจากคนไทยจำนวนมากเมื่อเขาได้กล่าวความตอนหนึ่งต่อสื่อมวลชนเชียงราย ขณะที่ยังไม่พบทั้ง 13 ชีวิตว่า

          “ผมหวังกับค่าจ้างครั้งนี้ซึ่งมันสูงมากก็คือเด็ก 13 คนที่อยู่ในถ้ำ ผมไม่ต้องการเงิน”

          วันนี้แม้ล่าสุดโลกออนไลน์แชร์ข่าวว่า งานนี้ลุงหมดไปเกือบ 3 แสนบาท แต่ค่าแรงที่ลุงได้กลับไปฝากภรรยาเป็นทั้ง 13 ชีวิตนั้น มากเกินกว่าจะประเมินได้ ซึ่งทีมเจาะทุกๆ คน ก็คิดแบบนี้เช่นกัน!

 

 

          ผาสูง ใจสูง
          อีกหนึ่งกลุ่มที่ต้องยกนิ้วให้คือ ทีมเก็บรังนกจากเกาะลิบง จ.ตรัง ที่อาสามารับภารกิจปีนสำรวจภูเขาแห่งขุนน้ำนางนอน

          พวกเขาคือฮีโร่ผู้มีความแคล่วคล่องว่องไวในการปีนป่ายถ้ำบนภูเขาสูงต่างๆ ในท้องทะเลอันดามัน เพื่อเก็บรังนกนางแอ่น

          สำหรับรายชื่อของพวกเขา เช่น 1.ร่อหีม คงเหลา อายุ 44 ปี 2.สัมพันธ์ ผอมเขียว อายุ 30 ปี 3.สมรักษ์ จิเหลา อายุ 44 ปี 4.อะลิเฟน เทศนำ อายุ 50 ปี 5.นายรอหมาน คงเหลา อายุ 46 ปี 6.สัณฐิติ จิเหลา อายุ 23 ปี 7.วิโรจน์ คงเหลา อายุ 40 ปี 8.มะแอน คงเหลา อายุ 51 ปี และคนอื่นๆ ที่ไม่ได้เอ่ยนาม

          พวกเขามาเพื่อร่วมกับทีมกู้ภัยในการปีนขึ้นไปสำรวจหาโพรง หรือช่องต่างๆ ของถ้ำหลวง เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสามารถนำพาน้องทั้ง 13 ชีวิตออกให้ได้

 

 

          งานนี้เรียกว่ามาด้วยจิตอาสาไม่ต้องพูดถึงค่าใช้จ่าย หรือค่าแรงใดๆ จากหน่วยงานหรือบุคคลใดทั้งสิ้น เพราะมืออาชีพเขาไม่พูดเยอะ!

          วันนี้พวกเขากลับถึงบ้านเกิด จ.ตรัง ท่ามกลางการต้อนรับของชาวตรัง ที่ทำให้พวกเขาใจฟูฟ่อง สูงไกลยิ่งกว่ายอดผาทั้งปวง

          แต่ก็ไม่ลืมที่จะสัญญาว่าพวกเขาจะกลับมาทักทายถ้ำหลวงอีกครั้งในหน้าแล้งที่จะถึง!

          กองหนุนที่ขาดไม่ได้
          นอกจากบรรดาฮีโร่อกใหญ่กล้ามโตที่ว่ามาแล้วยังมีบรรดาทีมงานหลังห้องตัวจริง ทั้งกลุ่มจิตอาสาที่คอยทำความสะอาดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของบรรดาทีมกู้ภัย

          พวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็เป็นคนท้องถิ่นลูกหลานของชาวแม่สายที่ยอมสละเวลาและรายได้มาเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการอยู่เบื้องหลัง

          โดยเฉพาะ รวินท์มาศ ลือเลิศ และสามี รวมทั้งพนักงานที่ร้านซักรีดของเธอ ก็ปักหลักทำงานใหญ่นี้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งไปรับชุดเสื้อผ้าที่ใช้แล้วของเจ้าหน้าที่เพื่อนำมาทำความสะอาดรวมทั้งนำไปส่งตามจุดต่างๆ ที่รับมา

 

 

          ที่สำคัญทุกอย่างก็ทำงานแข่งกับเวลาไม่แพ้หน้าที่อื่น โดยพวกเขาต้องไปส่งผ้าที่เสร็จแล้วในช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีในรุ่งเช้า

          คงไม่ต้องบอกว่างานของพวกเขาจะหนักหนาขนาดไหนเมื่อนึกถึงจำนวนของเจ้าหน้าทีทีมต่างๆ กี่ร้อยชีวิต

          นอกจากนี้ยังมีบรรดากลุ่มก้นครัวคอยทำอาหารเลี้ยงทุกๆ ชีวิตหน้างานตลอดจนกลุ่มมอเตอร์ไซค์ที่งานนี้ซิ่งช่วยชาติ รับขนส่งฟรีทุกคน!

          อีกสักทีกับพี่ซีล
          ตามที่มีผู้กล่าวไว้ว่า ทุกภารกิจที่ซีลได้รับมอบหมายภารกิจนั้นต้องสำเร็จในโลกของซีล ไม่มีผี ไม่มีปีศาจมีแต่สิ่งที่ต้องทำและทำให้ลุล่วง!

          ดังนั้นนับแต่วันแรกของการค้นหา กลุ่มมนุษย์กบเหล่านี้ก็ถูกนึกถึงทันที...ว่าจะเป็นผู้ทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้นี้ ให้เป็นไปได้!

          และไม่ว่าจะสดุดีน้ำใจของฮีโร่กลุ่มไหน สุดท้ายต้องกลับมาที่กลุ่มพี่ซีลทุกครั้งเพราะพวกเขาคือทีมงานผู้ลุยน้ำ เจอน้ำ สู้กับน้ำ ตัวจริงเสียงจริง!

 

จากเฟซบุ๊ก พล วัชรดล

 

          วันนี้กลุ่มซีลส่งต่อภารกิจลุล่วง ดังนั้นวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลเรือเอกรังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้เป็นผู้แทนกองทัพเรือต้อนรับชุดปฏิบัติการพิเศษนักทำลายใต้น้ำจู่โจมของกองทัพเรือ (Thai Navy Seal) โดยหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการและกำลังพลของกองทัพเรือในส่วนต่างๆ รวมทั้งหมด 159 นาย

          นำโดยพลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ท่ามกลางการต้อนรับและรอยยิ้มแห่งความปลื้มปีติจากทุกคนที่มาต้อนรับจำนวนมาก ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

          อย่างไรก็ดีแน่นอนยังมีอีกหลายชีวิตที่ไม่ได้เอ่ยนาม ณ ที่นี้ แต่ขอให้ระลึกไว้ว่าพวกคุณคือ “ยอดมนุษย์” ผู้ทำภารกิจใหญ่ที่โลกจะจดจำไปชั่วกาล!

          และไม่ต้องลังเลเลยว่า พวกคุณนี่แหละคือ “ของจริง”!