คนไทยเฮ! 13 หมูป่าออกจากถ้ำจบภารกิจหินโลกตะลึง!

 

          ในที่สุดภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ ก็เป็นไปได้ เมื่อปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยถ้ำหลวง ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 13 ชีวิต ซึ่งเป็นนักเตะเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอล “หมูป่า อะคาเดมี่” เราเรียกกันว่าปฏิบัติการหมูป่าต้องรอด! ติดภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประสบความสำเร็จ สามารถช่วยพวกเขาออกมาได้ทั้งหมด

          ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีกับเด็กๆ และโค้ช ก็ยังมีความสุดทึ่ง ที่เมื่อย้อนไปดูตั้งแต่เกิดเหตุ กับปฏิบัติการสุดหินในครั้งนี้

 

 

          ต่อไปนี้คือสรุปปฏิบัติการทั้ง 18 วันระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน-8 กรกฎาคม 2561 ที่ไม่เพียงคนไทย แต่ทำเอาคนทั่วโลกลุ้นระทึก เกาะติด และเอาใจช่วยไปตามๆ กัน โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงสำคัญ ตามลำดับต่อไปนี้

          สูญหาย-ค้นหา
          23 มิถุนายน ช่วงเวลาบ่าย เมื่อทีมฟุตบอลเยาวชนในท้องถิ่น จ.เชียงราย พากันเข้าไปในถ้ำ แต่โชคร้ายเกิดมีฝนตกหนักจนน้ำเข้าท่วมถ้ำทั้งหมด ทำให้ 13 ชีวิตออกมาไม่ได้ ที่สุดทีมกู้ภัยของ จ.เชียงราย จึงประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจในพื้นที่ เข้าไปตรวจสอบทันที

 

 

          24 มิถุนายน การค้นหาได้เริ่มขึ้นต่อเนื่องจากตี 1 ไปจนตี 3 ทีมกู้ภัยพบรองเท้าแตะและข้าวของบนพื้นถ้ำ จนรุ่งเช้าจึงกลับไปค้นหาต่อ แต่ระดับน้ำภายในถ้ำสูงขึ้นจึงมีการพยายามสูบน้ำออก จากนั้นช่วงเวลา 18.00 น. ได้มีการขอความช่วยเหลือจากหน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจมที่ได้ส่งทีมประดาน้ำชุดแรกเข้าไป พบรอยนิ้วมือคนตามผนังถ้ำ

 

 

 

          25 มิถุนายน หลายหน่วยงานทั้งทหารและตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และอื่นๆ มารวมพลังกัน โดยได้สำรวจไปถึงโถงที่ 3 จากปากถ้ำซึ่งมีระยะทาง 3 กม. ไปถึงสามแยกซ้ายและขวา จากนั้นมุ่งไปทางทิศใต้อีกประมาณ 300 เมตร จนถึงเนินดินที่สูงพ้นระดับน้ำของถ้ำ จนช่วงเวลา 17.30 น. ได้พบรอยเท้าจำนวนมากและเชือกสายผูกเปล แต่พวกเขาต้องถอนกำลังออกจากถ้ำเนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นจนถึงระดับอันตราย

          วันนี้เองที่ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ขณะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และรับหน้าที่ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายฯ หรือ ผบ.ศอร. แถลงข่าวกับสื่อครั้งแรก ถึงแผนความช่วยเหลือ คือ 1.สูบน้ำจากบ่อเก็บน้ำที่อยู่ต่ำกว่าถ้ำหลวง 2.อาจต้องใช้วิธีเจาะทะลุ (ถ้ำ) โดยจะสั่งการให้ลุยหาตำแหน่งเพื่อเจาะถ้ำ ตั้งแต่ช่วงเช้าของ 26 มิถุนายน

 

 

          26 มิถุนายน ปฏิบัติการค้นหาทั้ง 13 ชีวิต เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่เวลา 01.20 น. กระทั่งช่วงเที่ยง หน่วยซีลเข้าไปถึงโถง 4 ห่างหาดพัทยา 400 เมตร แต่อุปสรรคคือน้ำที่มีความขุ่น มองเห็นได้แค่ระยะ 10-15 ซม. จึงต้องหยุดการค้นหา และปรับแผนกินและนอนกันภายในถ้ำ เนื่องจากระยะทางภายในถํ้ายาวหลายกิโลเมตร

          27 มิถุนายน ฝนยังคงตกหนักต่อเนื่อง ท่วมถึงโถง 3 ขณะที่ด้านนอก ยังเพิ่มการสำรวจโพรงของถ้ำต่างๆ จนพบดอยผาหมี แต่ปล่องถ้ำตันไม่สามารถลงไปได้ ขณะที่ซีลยังคงเดินหน้าค้นหาต่อไป โดยมีการใช้เชือกทำแนวตามผนังถ้ำเพื่อให้การค้นหารวดเร็วขึ้น ขณะที่ทีมดำน้ำในถ้ำที่ดีที่สุดชาวอังกฤษ 3 คน ได้เดินทางมาสมทบในวันนี้

 

 

          28 มิถุนายน ฝนยังคงตกลงมาเช่นเคย หน่วยซีลในถ้ำต้องย้ายขึ้นที่สูง จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยุติการทำงานชั่วคราว และตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย เวลา 15.50 น. ทีมนักดำน้ำอังกฤษ ได้ดำน้ำค้นหาน้องๆทั้ง 13 คน เป็นเวลาเกือบ 2 ชม. แต่ยังคงผิดหวัง ไม่พบทั้ง 13 ชีวิต

          29 มิถุนายน ยังคงสูบน้ำออกจากถ้ำเป็นภารกิจหลัก ช่วงสายมีการวางแผนหย่อนกล่องลงไปในโพรงดอยผาหมีที่พบก่อนหน้า ในกล่องมีข้อความ ดินสอ, น้ำดื่ม, อาหาร, ขนม แต่ต่อมาเกิดไฟดับ และมีเจ้าหน้าที่ถูกไฟช็อตต้องนำส่งโรงพยาบาล ต่อมาผู้ว่าฯ เชียงราย แถลงว่าเป็นลมเท่านั้น ช่วงค่ำครูบาบุญชุ่ม เดินทางถึงถ้ำหลวง

 

 

          30 มิถุนายน รวมพลังหน่วยผู้เชี่ยวชาญแต่ละประเทศ เข้าร่วมภารกิจทั้ง ไทย, ลาว, อังกฤษ, อเมริกา (กองทัพเรือ), ออสเตรเลีย, พม่า, ญี่ปุ่น และจีน ขณะเดียวกัน ผู้ว่าฯ เชียงราย หรือ ผบ.เหตุการณ์ สั่งให้มีรถพยาบาลเตรียมจำลองสถานการณ์ซ้อมแผนช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำนำส่งโรงพยาบาล จนช่วงเย็นหน่วยซีลสามารถตั้ง บก.ที่โถง 3 ได้

          1 กรกฎาคม ทีมสนับสนุนเร่งอัดอากาศใส่ถังส่งให้ปฏิบัติการภายในถ้ำ แผนงานยังคงเน้นการสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง และมีการพบ 2 โพรงที่ต้องตรวจสอบ ระดับน้ำในถ้ำลดลงเฉลี่ย 15 ซม. ในรอบ 24 ชม. ขณะที่ทีมดำน้ำชาวอังกฤษ 2 นาย ดำน้ำถึงโถง 3 โดยมีการเร่งอัดอากาศในถังกันอย่างเต็มที่และทยอยนำเข้าสู่ห้องโถง 3 ภายในคืนนี้

 

 

          ค้นพบ เพิ่มพลัง
          2 กรกฎาคม ข่าวดีที่สุดเกิดขึ้นในวันที่ 10 ของการค้นหา ช่วงเวลา 21.38 น. นักประดาน้ำชาวอังกฤษ 2 คนได้ค้นพบผู้รอดชีวิตทั้ง 13 คน บริเวณบนเนินนมสาว เลยจากหาดพัทยาไป 400 เมตร ห่างจากปากถ้ำ 4 กม. ผู้พบคือ ริชาร์ด สแตนตัน และจอห์น โวลันเธน หากแต่ยังคงนำหมูป่าทั้งหมดออกมาไม่ได้ ด้วยปัจจัยของระดับน้ำและสภาพร่างกายของทั้ง 13 ชีวิต

          3 กรกฎาคม ทั่วโลกตีข่าวพบหมูป่า และเฟซบุ๊ก Thai NavySEAL โพสต์คลิปการพูดคุยโต้ตอบกันทั้งภาษาไทยและอังกฤษของทีมดำนำชาวอังกฤษกับ 13 ชีวิต มีการรับชม ส่งต่อจำนวนมหาศาล นอกจากนี้ได้มีการส่งทีมแพทย์ พร้อม พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน เข้าดูแลฟื้นฟู และมีการลำเลียงอาหารเหลว อุปกรณ์จำเป็นต่างๆ ไปให้ทั้ง 13 ชีวิต

 

 

          4 กรกฎาคม ระดับน้ำยังสูง มีการเร่งสูบเต็มที่ ยังคงมีดูแลปฐมพยาบาลเช็กร่างกายทุกคนต่อไป ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ เผยว่าน้ำลดลง ชม.ละ 1 ซม. ถือว่ามาก คนไทยได้เห็นคลิปทีมหมูป่ารายงานตัว ในด้านสุขภาพอยู่ในเกณฑ์สีเขียว คือ “ปกติ” มีเพียงโค้ชเอก และน้องตี๋ที่ยังอ่อนเพลีย และพวกเขายังต้องรอกันต่อไปในถ้ำ เพื่อให้พร้อมที่สุด!

          5 กรกฎาคม สถานการณ์ยังทรงตัว คือยังไม่สามารถออกมาจากถ้ำได้เนื่องจากระดับน้ำยังสูง แต่เด็กและโค้ชยังกำลังใจดี โดยมีการฝึกดำน้ำให้หมูป่า และเดินหน้าค้นหาโพรงที่จะทะลุถึงโถงในถ้ำเพื่อเพิ่มทางเลือกให้มากที่สุด ขณะเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสขอบใจ ชื่นชม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน

 

 

          6 กรกฎาคม เกิดข่าวร้าย จ.อ.สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ วัย 38 ปี หมดสติขณะดำน้ำกลับและเสียชีวิตช่วงเวลา 01.00 น. คนไทยร่วมไว้อาลัยพร้อมกันทั่วประเทศ ขณะที่อีกด้านหนึ่ง “อีลอน มัสก์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทคโนโลยีอวกาศระดับโลก บริษัท สเปซเอ็กซ์ ผู้บริหารและสถาปนิกผลิตภัณฑ์ของเทสลามอเตอร์ส ทวิตข้อความจะส่งทีมวิศวกรมาร่วมปฏิบัติภารกิจในวันรุ่งขึ้น

          7 กรกฎาคม เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL เผยแพร่ข้อความบนแผ่นกระดาษของทีมหมูป่า ระบุว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง แข็งแรงทุกคน ออกไปอยากกินอาหารหลายอย่าง ออกไปอยากกลับบ้านเลย คุณครูอย่าให้งานเยอะ” สถานการณ์วันนี้เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ระดับน้ำภายในโถง 2-3 ลดลงอย่างมาก และสภาพอากาศไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม

 

 

          โอกาสมา พาหมูออก
          8 กรกฎาคม ดีเดย์มาถึง ผบ.ศอร.แถลงข่าวปฏิบัติการพาทีมหมูป่าออกจากถ้ำ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยระบุ The Best Situation ทั้ง สภาพอากาศ สภาพร่างกาย และระดับน้ำในถ้ำ ทุกด้านพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมผนึก 13 ผู้เชี่ยวชาญดำน้ำชาวต่างชาติแถวหน้าระดับโลก กับ 5 หน่วยซีลสุดแกร่ง รวม 18 คน โดย 2 คนประกบเด็ก 1 คน อย่างไรก็ดี มีการเปลี่ยนแผนให้นำเด็กที่อ่อนแอที่สุดออกมาก่อน เพื่อความปลอดภัย

          ในที่สุดเวลา 17.45 น. 2 หมูป่าได้ออกมาจากถ้ำหลวง จนถึงเวลา 19.35 น. หมูป่าคนที่ 3 ก็ออกจากถ้ำ กระทั่งเวลา 19.47 หมูป่าคนที่ 4 ก็ออกมาครบ 4 คน ทุกคนปลอดภัยดี หากแต่มีการกันนักข่าวไม่ให้เข้าไป เพื่อความสงบเรียบร้อยและให้ภารกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นรวดเร็ว จากนั้น ผบ.ศอร.แจ้งว่า จะเริ่มปฏิบัติการถัดไปภายใน 10–20 ชั่วโมง

 

 

          9 กรกฎาคม ภารกิจนำหมูป่าออกจากถ้ำวันที่สอง เริ่มขึ้นเวลา 11.00 น. โดยในวันนี้ทั้งสภาพอากาศ น้ำ ความแข็งแกร่งของทีมหมูป่าดีกว่าภารกิจครั้งแรก และเวลา 16.23 น. ข่าวระบุหมูป่าคนที่ 5 ออกจากถ้ำแล้ว ต่อมาเวลา 18.40 น. หมูป่าคนที่ 6 ก็ได้ออกมา จนกระทั่งเวลา 19.13 น. หมูป่าคนที่ 8 ก็ตามมาติดๆ ทั้งหมดถูกนำส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์

          10 กรกฎาคม คนไทยยังลุ้น เกาะติดภารกิจนำหมูป่าที่เหลืออีก 5 ชีวิต ออกมาจากถ้ำหลวงท่ามกลางสถานการณ์ฝนที่กลับมาตกอีกครั้ง แต่ภารกิจสูบน้ำทั้งจากใต้ดิน และหน้าปากถ้ำยังคงดำเนินการต่อเนื่อง โดย ผบ.ศอร.แถลงเริ่มปฏิบัติการเวลา 10.08 น. โดยหมูป่า 5 ชีวิตที่เหลือ ซึ่งเป็นเด็ก 4 คน และโค้ช 1 คน รวมเจ้าหน้าที่ด้วยนับรวมทั้งหมด 9 ชีวิต พร้อมระบุคาดว่าจะเสร็จภารกิจเร็วกว่าเดิม

 

 

          อย่างไรก็ดี ในช่วงเช้ามืดของวันนี้ อีลอน มัสก์ เดินทางมาถึงเมืองไทย แถมยังเข้าไปยังถ้ำหลวง พร้อมเรือดำน้ำจิ๋วที่ได้ชื่อว่า “หมูป่า” ตามชื่อทีมฟุตบอลหมูป่าของไทย และได้ทวิตข้อความว่า “เพิ่งออกจากโถง 3 เรือดำน้ำจิ๋วนี้ซึ่งผลิตจากชิ้นส่วนของจรวด พร้อมใช้งานหากต้องการ โดยจะใช้ชื่อเรียกว่าหมูป่า ตามชื่อทีมของเด็กๆ นักฟุตบอล” พร้อมยังบอกว่าเมืองไทยสวยงามมาก

          ทั้งนี้ แม้ปฏิบัติการจริงจะไม่ได้ใช้อุปกรณ์ของเขา แต่เขาก็เต็มที่ให้คนไว้ใช้งานในอนาคต

          ที่สุดช่วงเย็น เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL โพสต์ข้อความ "The 9th Wild Boar was out of the cave at 4:06 pm.” Hooyah! แปลว่าหมูป่าคนที่ 9 ออกมาจากถ้ำแล้วตอนเวลาราว 16.06 น.!!

          จากนั้นช่วงเวลา 16.33 หมูป่าลำดับที่ 10 ก็ออกตามมา ไล่เลี่ยกับหมูป่าคนที่ 11 ที่ออกตามมาในเวลา 17.13 น. ช่างเป็นข่าวดีติดๆ กัน ทำเอาคนไทยนั่งไม่ติด !

 

 

          ที่สุดเวลาที่ทุกคนรอคอย เหมือนยกภูเขาออกจากอกไปเสียทีก็มาถึง เมื่อที่สุด เวลาประมาณ …….หมูป่าคนที่ 12-13 ซึ่งรวมทั้งโค้ชเอก ได้ออกจากถ้ำมาอย่างปลอดภัย พร้อมเจ้าหน้าที่ โดยทุกคนถูกนำตัวลำเลียงขึ้นรถพยาบาลและส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ทันที

          เป็นอันจบภารกิจ 18 วันอันยาวนานไปอย่างชื่นมื่นทั่วกัน แต่เรื่องราวความกล้าหาญของทุกๆ ชีวิตในปฏิบัติการนี้จะถูกเล่าขานไปไม่รู้จบ !