คอลัมนิสต์

ระฆังเลือกตั้งลั่นแล้วกุมภาพันธ์ 62 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ระฆังเลือกตั้งลั่นแล้วกุมภาพันธ์ 62  : คอลัมน์...  กวาดบ้านกวาดเมือง  โดย... ลมใต้ปีก 

 

          ชัดยิ่งกว่าชัดไม่ต้องไปเรียกร้องอะไรอีกสำหรับปฏิทินการเลือกตั้ง เมื่อ “ลุงตู๋” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ออกมาประกาศ 2 สัปดาห์ติดต่อกันว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อย่างแน่นอน (ครั้งแรกประกาศเมื่อวันอังคารที่ 5 มิถุนายน และครั้งที่สองประกาศเมื่อ 11 และ 12 มิถุนายน ช่วงครม.สัญจร จ.พิจิตร-นครสวรรค์)

          “อย่าลืมไปเลือกตั้งเด้อ” คำเชิญชวนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตะโกนบนรถไฟระหว่างทางไปพิจิตร นครสวรรค์ คือสัญลักษณ์การลั่น “ระฆัง” การเมืองครั้งสำคัญที่ทุกพรรคทุกกลุ่มการเมืองต้องไปเตรียมตัวเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง และเป็นการ "ดับไฟ” ของกลุ่มการเมืองที่ร้องให้มีการเลือกตั้งลงไปได้อย่างสิ้นเชิง พร้อมๆ กับการประกาศจะปลดล็อกให้มีการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองได้หลังกฎหมายลูก 2 ฉบับ คือพระราชบัญญัติเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

          จึงเริ่มเห็นบรรยากาศทางการเมืองคึกคักเพิ่มขึ้นทั้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง การย้ายพรรค และการเรียกร้องประเด็น “ห้ามเอาเปรียบ” ทางการเมือง ระหว่างพรรคการเมืองที่คนอย่าง จาตุรนต์ ฉายแสง จากพรรคเพื่อไทยเรียกร้องถึงขนาดให้คณะรัฐมนตรีลาออกก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือน และให้ปลัดกระทรวงรักษาการรัฐมนตรี เอาไว้เพื่อป้องกันการเอาเปรียบทางการเมืองซึ่งต้องบอกว่าเป็นการเรียกร้องที่ “เยอะไป”

          เพราะสมัยที่พรรคเพื่อไทยเรืองอำนาจไม่ว่าจะในนามพรรคไทยรักไทย หรืออื่นใดในนามเลือกตั้งก็ไม่เคย “แสดงสปิริต” ลาออกหรือไม่มีแนวคิดนี้ออกจากปากจาตุรนต์ ฉายแสง แต่อย่างใด แต่มาบัดนี้กลับเรียกร้องในสิ่งที่ตนและพรรคพวกตนก็ไม่เคยทำ

          การเรียกร้องไม่ให้เอาเปรียบทางการเมืองในฐานะที่เป็นรัฐบาลและมีพรรคการเมืองของรัฐบาลลงชิงชัยในสนามเลือกตั้ง หลักการคือห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐ ทั้งบุคคลภาครัฐ งบประมาณ และกลไกต่างๆ มาใช้ในการหาเสียงและห้ามมีนโยบายใหม่ๆ ห้ามอนุมัติโครงการใดๆ ช่วงมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง เรายังมีความจำเป็นในการมีรัฐบาลอันสมบูรณ์ในการจัดการด้านความมั่นคงในและต่างประเทศ อย่าคิด "มักง่าย” ว่ามีรัฐบาลรักษาการก็ได้ช่วงก่อนการเลือกตั้ง รัฐบาลรักษาการควรเกิดขึ้นเฉพาะช่วง “รอยต่อ” ระหว่างหลังการเลือกตั้งถึงการมีรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งเท่านั้น ทุกฝ่ายควรคิดถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้งมากกว่าผลประโยชน์ของตนเป็นสำคัญ

          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนักการเมืองโดยสมบูรณ์ ทั้งลีลาการพูด การเดินทางพบประชาชนและร่วมกิจกรรมกับประชาชน รวมถึงการคิด "ตั้งพรรคการเมือง” ขึ้นมา อย่าไปคิดปิดบังอีกเลย เพราะ “ความลับไม่มีในโลก แต่สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะต้องทำคือ “อย่าเอาเปรียบคนอื่น” ต้องสร้างโอกาสทางการเมืองที่เท่าเทียมกัน ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐมาหาเสียง ต้องคิดว่ากว่า 4 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ และคณะได้เปรียบทางการเมืองกว่ากลุ่มอื่นเพียงพอแล้ว

          ขณะที่พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองอื่นก็ควรเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งที่ไม่ไปตั้งกลุ่มการเมืองหรือเคลื่ิอนไหว “ใต้ดิน” เพื่อหวังสร้างกระแสให้เกิดประโยชน์แต่พรรคตนเท่านั้น แต่ควรยึด "ความสงบ” ของบ้านเมือง และทุกฝ่ายควรเคารพเสียงสวรรค์ที่ประชาชนตัดสินในการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์เป็นที่ตั้ง โดยระหว่างนี้ควรคิดนโยบายหรือแนวทางที่จะสร้างชาติบ้านเมืองมากกว่าเสียเวลาไปคิดประดิษฐ์ “วาทกรรม” เพื่อมุ่งโจมตีให้ร้ายกันเพราะนั่นคือแนวทางแห่ง “วงจรอุบาทว์” ทางการเมืองที่เราอยากหลุดพ้นเสียที

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ