คอลัมนิสต์

ได้เวลาของจริง!บุกรวบสอบเค้นพระผู้ใหญ่ 3 วัดดังหนาว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ได้เวลาของจริง!บุกรวบสอบเค้นพระผู้ใหญ่ 3 วัดดังหนาว : คอลัมน์... เจาะประเด็นร้อน

 

          กลับมาทำให้คนไทยตื่นเต้นอีกครั้ง กับการเปิดฉากกับพระที่มีเอี่ยวคดีเงินทอนวัดลอตที่ 3 ที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เดินหน้าลุยจนต่อเนื่องมายังไม่จบ

          เป็นงบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรม และแผนกบาลี และงบเผยแผ่ศาสนา ในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 3 แห่ง 4 คดี ความเสียหายรวม 70 ล้านบาท

          โดยมีพระชั้นผู้ใหญ่ถึง 5 รูป ซึ่ง 3 รูปเป็นถึงกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) คือ 1.พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร 2.พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และเจ้าคณะภาค 4-7 3.พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และเจ้าคณะภาค 10

          ส่วนอีก 2 รูป คือ พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และ พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ

          ลอตนี้ ที่ฮือฮาเพราะ 1.นับเป็นครั้งแรกนับแต่เกิดกรณีทุจริตเงินทอนวัด ที่มีผู้ถูกกล่าวหาเป็น “พระผู้ใหญ่” ใน มส. ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นนักการเมือง และบุคคล “บิ๊กเนม” มากมาย โดยก่อนหน้านี้มีเพียงพระราชาคณะเท่านั้นที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีนี้

          และ 2.ยังสะท้อนภาพของ “พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณเสน่ห์" ในฐานะเลขานุการ มส. และ ผอ.พศ. ว่า ช่างเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันที่เมื่อได้รับดาบมา ก็กล้าบ้าบิ่นที่จะฟันฉับๆ จริงๆ

          มาเหตุการณ์ล่าสุด ยิ่งเป็นคำตอบชัดเจน กับปฏิบัติการฟ้าสางที่ 4 วัดดัง ในเช้าวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่เจ้าหน้าที่จัดหนักบุกเข้าไปที่วัดเลยทันที

 

          โดยในส่วนของพระ 3 วัดในพื้นที่ กทม.นั้น เจ้าหน้าที่พบเส้นทางการเงินที่เข้าข่ายความผิดคดี "ฟอกเงิน” ซึ่ง พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม นำกำลังตำรวจพร้อมหมายศาล เข้าตรวจค้นพร้อมๆ กันทั้ง 3 วัดดัง คือ 1.วัดสามพระยาวรวิหาร เขตพระนคร 2.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และ 3.วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ และได้นิมนต์พระผู้ใหญ่มารับทราบข้อหาในความผิดฐาน “ฟอกเงิน” แล้ว

          ส่วนที่เพิ่มเติมคือ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ได้นิมนต์ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธะอิสระ เข้าให้ปากคำ ในคดีกรรโชกทรัพย์ อั้งยี่ ซ่องโจร!

          กล่าวสำหรับ 3 วัดดังกทม. มีรายชื่อพระชั้นผู้ใหญ่ และบริวารที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เรียงลำดับได้ดังนี้
          1.วัดสามพระยา เจ้าหน้าที่จับกุมพระ 2 รูป คือ 1.พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัด และ 2.พระอรรถกิจโสภณ เลขาฯ เจ้าคณะกรุงเทพ โดยเจ้าหน้าที่พบหลักฐานเป็นเส้นทางการเงิน กับ วิภาพร อุดมโชติปิติ หลังบุกเข้าค้นบ้านย่านบางกรวยแล้วพบว่าเธอเป็นผู้รับโอนเงิน 5 ล้านบาทจากเจ้าอาวาสวัด ซึ่งตำรวจกองปราบฯ ยืนยันว่า เป็นงบอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระพรหมดิลกไปกองปราบฯ เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม

          2.วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส หากแต่เจ้าอาวาสไม่ปรากฏตัวที่วัด จึงได้ตรวจค้นหาเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการฟอกเงินเพื่อดำเนินคดีต่อไป

          3.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัด แต่เจ้าอาวาสคนดังหายจ้อยไปในกลีบเมฆ!! โดยในวันนั้นเจ้าหน้าที่ยังได้พบประตูเล็กๆ ข้างวัด มีลักษณะคล้ายประตูลับ ซึ่งจะออกไปสู่ถนนบำรุงเมืองได้ ว่ากันว่านี่คือทางลับ ที่ท่านหนีออกไป ซึ่งเวลานี้ได้แจ้งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขึ้นบัญชีดำห้ามออกนอกประเทศแล้ว

          ขณะในส่วนของเจ้าหน้าที่ ปปง. ยังได้เปิดตู้เซฟของเจ้าอาวาสวัดสระเกศ พบเงินในบัญชี 130 ล้านบาท จึงได้สั่งอายัดเงินในบัญชีเพื่อรอการตรวจสอบเส้นทางการเงินอีกด้วย

          ทั้งนี้ นอกจากเจ้าอาวาสวัดสระเกศที่หายตัวไป ยังมีพระอีก 3 รูป ที่ต้องคดีด้วย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสคือ พระศรีคุณาภรณ์ หรือ พระมหาบุญทวี คำมา, พระครูสิริวิหารการ (สมจิตร จิตฺตธมฺโม) และ พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือ เจ้าคุณเทอด โดยเดิมทีพระวิจิตรธรรมาภรณ์ นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมิติเวช แต่เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการไปอายัดตัวเจ้าคุณเทอดมาสอบสวนดำเนินคดีที่กองปราบปรามจนได้

          ขณะที่ยังมีฆราวาสที่เกี่ยวข้องกับวัดสระเกศ อีก 4 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมไว้หมดแล้ว คือ 1.นุชรา สิทธินอก หญิงแม่บ้านที่รับเงินโอนจากวัด 2.ฆัมม์พร นิพนธ์พิทยา มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์ นิพนธ์พิทยา 3.ธีระพงษ์ พันธ์ศรี และ 4. ทวิช สังข์อยู่ ลูกศิษย์วัดและผู้มีอำนาจเซ็นชื่อเบิกจ่ายเงินในบัญชีของวัด ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับบริษัทดีดีทวีคูณ ที่รับจ้างผลิตสื่อให้แก่วัดสระเกศ

          ก่อนหน้านี้ ร.ท.ฐิติทัศน์ อดีตทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ถูกตรวจสอบพบเส้นทางการโอนเงินจากพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดสระเกศมายังคนใกล้ชิด 25 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้น ร.ท.ฐิติทัศน์ ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง

          แต่ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. ระบุว่า ในส่วนของวัดสระเกศนั้นเกี่ยวข้องกับเงิน 32 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินงบเผยแผ่ศาสนา ที่สำนักงานพุทธศาสนาให้จัดทำตามโครงการ แต่พบว่ามีการโอนเงินจำนวน 25 ล้านบาทไปให้แก่ “นุชรา” แม่บ้านของ ร.ท.คนดังกล่าว ซึ่งเธอมีชื่อเป็นผู้เปิดบริษัทที่รับเงินจากทางวัดนั่นเอง

          อย่างไรดี ยังมีรายงานด้วยว่า ในส่วนของพฤติกรรมพระเถระชั้นผู้ใหญ่บางรูป จากการติดตามตรวจสอบพบว่ามีการใช้เงินของวัดบินไปต่างประเทศ เพื่อพบกับสีกาคนหนึ่ง แต่มักจะอ้างกับลูกศิษย์ว่าไปแสวงบุญเพื่อศาสนา

          รวมแล้ว วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถนำพระชั้นผู้ใหญ่ มาดำเนินคดีได้ 5 รูปด้วยกัน คือ
          1.พระศรีคุณาภรณ์ 2.พระครูสิริวิหารการ 3.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือ เจ้าคุณเทอด พระทั้ง 3 รูป เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ 4.พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา 5.พระอรรถกิจโสภณ เลขาฯ เจ้าคณะกรุงเทพ วัดสามพระยา

          นอกจากนี้ยังมี นุชรา สิทธินอก, ฆัมม์พร นิพนธ์พิทยา, ธีระพงษ์ พันธ์ศรี และ ทวิช สังข์อยู่ ที่ถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้ว

          ถึงตรงนี้ คนไทยคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ทั้งการเปิดฉากจับกุมพระผู้ใหญ่ และการล่องหนหนีหายของเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ย่อมสื่ออะไรบางอย่างที่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

          แต่ที่แน่ๆ หลายคนเห็นรูปรอยแล้ว ก็อดครางฮือไม่ได้ว่า งวดนี้ประกาศิตจากบ้านเมืองให้ล้างบางเครือข่ายขั้วอำนาจเก่าช่างดุดันจริงๆ!!

          หลวงปู่วัดอ้อน้อยพลอยโจน หรือโดนซิว
          ในส่วนของปฏิบัติการฟ้าสางที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม นั้นก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กับ 3 วัดดังในกรุงเทพฯ

          โดย พล.ต.ต.อภิชาติ สิริสิทธิ์ รองผบช.ก. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาส ในข้อหาสนับสนุนให้มีการปล้นทรัพย์ จากกรณีเมื่อครั้งการชุมนุมของ กปปส. ปี 2556 โดยข้อหาหลักคือ กลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยพระสุวิทย์ ได้ปล้นอาวุธปืนของตำรวจสันติบาลไป

          นอกจากนี้ยังอาจมีเรื่องของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หลวงปู่พุทธะอิสระ พามวลชน กปปส. บุกไปโรงแรมเอสซีปาร์ค เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยอ้างว่าจองห้องจะขอพัก แต่เมื่อผู้จัดการโรงแรมแจ้งปิด จึงขอค่าเสียเวลา และน้ำมันรถเป็นเงินสดรวมกว่า 1.2 แสนบาท

          งานนี้ เจ้าหน้าที่ได้นิมนต์หลวงปู่เข้ามาสอบสวนดำเนินคดีที่กองปราบปรามแล้ว ซึ่งเบื้องต้นอาจตั้ง 3 ข้อหาหนัก ปล้นทรัพย์ อั้งยี่ และซ่องโจร!

 

ได้เวลาของจริง!บุกรวบสอบเค้นพระผู้ใหญ่ 3 วัดดังหนาว

 

          สำหรับเคสนี้ หลายคนสงสัยมาก เพราะมุมหนึ่งเชื่อว่าปฏิบัติการกับ 3 วัดดังตามข้างต้น คือ ภารกิจจัดการกับขั้วสีการเมือง แต่ทำไมถึงต้องจัดการกับเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยไปด้วย

          มุมหนึ่งอาจมองว่า เจ้าหน้าที่ทำไปเพื่อให้ภาพดูไม่เจาะจงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากนัก ถ้าจะพูดให้สวย ก็คงเพราะหนีไม่พ้นการดำเนินการทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน!

          แต่อีกมุมหนึ่ง ก็น่าคิดว่า ต้องมีอะไรมากกว่านั้น เพราะที่ผ่านมา หลวงปู่พุทธะอิสระเองแม้จะโดนคดีเกี่ยวกับการชุมนุม ก็ยังไม่หนักหนาเท่าครั้งนี้

          หรือนี่อาจเป็นสัญญาณว่า...ต่อไปนี้จะไม่มีเส้นเล็ก เส้นใหญ่แล้ว แต่จะเช็กบิลให้จบ ครบทุกค่ายเลยทีเดียว ?
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ