คอลัมนิสต์

ม็อบ 22 พ.ค.  "เกมประลองกำลัง"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ม็อบ 22 พ.ค.  "เกมประลองกำลัง" : คอลัมน์... ขยายปมร้อน  โดย...  อรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ

 

          เรียกได้ว่าสู้กันแบบช็อตต่อช็อตเลยทีเดียวสำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง งานนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็คาดหวังไว้สูงกับผลลัพธ์ที่จะได้ เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะเดินไปให้ถึงทำเนียบรัฐบาลเพื่ออ่านแถลงการณ์ ขณะที่รัฐบาลนั้นก็จะยอมไม่ได้เพราะเชื่อว่าหากปล่อยไปจะกลายเป็นตัวอย่างและต่อไปจะมีลักษณะนี้เกิดขึ้นมาอีก จึงมีการเดินเกมและแก้เกมกันตลอดเวลา

          เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันสุก-ดิบ กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศปักหลักพักค้างอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แต่ใครบางคนก็สั่งการไม่ให้ใช้สนามฟุตบอล ทำให้ผู้ชุมนุมต้องออกมาอยู่บริเวณด้านหน้าหอประชุม เคราะห์ซ้ำกรรมซัดคืนที่ผ่านมาฝนตกหนัก ทำให้ผู้ชุมนุมสะบักสะบอมพอตัว

 

ม็อบ 22 พ.ค.  "เกมประลองกำลัง"

 

          แต่เอาเข้าจริงแล้ว ยุทธการชิงความได้เปรียบเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ว่ากันว่าปฏิบัติการได้เกิดขึ้นก่อนหน้าวันที่ 21 พฤษภาคม ด้วยซ้ำไป แกนนำมวลชน และผู้ที่ถูกจับตา ได้มีเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมเยือนถึงบ้าน เพื่อระงับและขอร้องไม่ให้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อร่วมการชุมนุม บ้างบอกว่าจะมาเยี่ยมเรื่อยๆ จนกว่าการชุมนุมที่กรุงเทพฯ จะสลายตัว เล่นเอาหลายคนอดเข้ากรุงเทพฯ ว่ากันว่างานนี้ไม่ได้ถูกบล็อกเฉพาะ “เสื้อแดง” เท่านั้น หากแต่รวมทุกพวกทุกสี ต่างโดนกันอย่างเท่าเทียม

          ภาพที่เห็นคือมวลชนมีจำนวนไม่มากอย่างที่หลายๆ คนคิด ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐเตรียมการรับเป็นอย่างดี เอาเป็นว่าตั้งแต่ธรรมศาสตร์ถึงทำเนียบรัฐบาล มีตำรวจหลายพันคน ความต่างระหว่างจำนวนผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่รัฐถือเป็นตัวแปรสำคัญ

 

ม็อบ 22 พ.ค.  "เกมประลองกำลัง"


          คืนสุก-ดิบนั้น การประลองกลยุทธ์ได้เกิดขึ้นเรื่อยๆ ตำรวจปิดล็อกประตูมหาวิทยาลัย ขณะที่ผู้ชุมนุมได้ตัดโซ่ล่ามประตู เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมพื้นที่สัญจรห้ามเข้าออก รวมถึงประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมต้องแก้ทางด้วยการไปยื่นร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้คุ้มครองการชุมนุมและการเดินขบวน แต่รอแล้วรอเล่าผลการพิจารณาว่าจะคุ้มครองหรือไม่ก็ไม่ออก ส่วนเจ้าหน้าทีี่ซึ่งนำโดย คสช. ก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำฐานที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 เรื่องการห้ามชุมนุมเกินกว่า 5 คน รวมถึงเรื่องการทำลายทรัพย์สินของทางราชการอีกด้วย

          แน่นอนว่าฝ่ายรัฐย่อมกุมความได้เปรียบในหลายๆ ด้าน ไม่เว้นแม้แต่ด้านข่าวสาร เมื่อ “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” ออกมาให้ข่าวว่ามีการจ้างวาน “ฮาร์ดคอร์” จากสมุทรปราการให้มาร่วม แม้จะบอกว่าสามารถบล็อกได้ในภายหลัง แต่เป้าหมายของการสร้างภาพสีเทาให้แก่ผู้ชุมนุมถือว่าสำเร็จไปแล้ว มิพักการพูดถึงเรื่องการจราจรที่จะติดขัด อันเป็นการทำให้เห็นภาพความลำบากที่คนกรุงจะต้องเผชิญจากผลพวงแห่งการชุมนุม

 

ม็อบ 22 พ.ค.  "เกมประลองกำลัง"

 

          สถานการณ์ล่วงมาถึงเช้าวันที่ 22 พฤษภาคม ผู้ชุมนุมจึงเลื่อนกำหนดเวลาการเคลื่อนขบวนจากเดิมที่กำหนดไว้ 7 โมง เป็น 9 โมงเช้า นอกจากนี้มีการระบุว่าได้ประสานกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว และจะไปอ่านแถลงการณ์ก่อนที่จะสลายการชุมนุมในช่วงบ่าย สร้างภาวะผ่อนคลาย และทำให้เห็นว่าการชุมนุมไม่ใช่ภาระของคนทั่วไป และไม่ใช่ม็อบที่ไม่สงบ

          เข้าสู่ช่วงสาย ศาลปกครองยกคำร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้ตำรวจมีความชอบธรรม และเริ่มปิดกั้นพื้นที่ ส่งผลให้มีผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งเริ่มนัดแนะไปรวมตัวที่ด้านหน้ากองสลากเก่า เพื่อเตรียมเคลื่อนไหวในกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมหลักไม่สามารถฝ่าออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้

 

ม็อบ 22 พ.ค.  "เกมประลองกำลัง"

 

          และก็เป็นดังคาดเมื่อตำรวจตรึงกำลังแน่นไม่ยอมให้มวลชนเคลื่อนออกมา ด้วยกำลังที่ต่างกัน ทำให้ทั้งหมดถูกตรึงไว้ที่หน้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น ซ้ำร้ายฝนตกซ้ำ ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเที่ยง อากาศเริ่มร้อน พอๆ กับอุณหภูมิสถานการณ์ที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ  การเจรจามีเป็นระยะแต่ไม่เป็นผล

          แม้จะมีการระบุว่าผลเจรจาเริ่มบรรลุ ขณะที่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ระบุว่าให้อ่านแถลงการณ์ได้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ยังไม่ทันไรกลุ่มผู้ชุมนุมที่ตั้งแท่นรอที่กองสลาก ซึ่งนำโดย “อานนท์ นำภา” “ณัฏฐา มหัทธนา” ก็พามวลชนเดินลิ่ว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ปรากฏตัวที่สะพานมัฆวานฯ เกือบถึงทำเนียบรัฐบาล

          แน่นอนตำรวจยอมให้ไปไกลกว่านี้ไม่ได้ พร้อมประกาศให้ม็อบออกจากพื้นที่มิเช่นนั้นก็จะต้อง “เคลียร์” แน่นอนว่าผู้ชุมนุมไม่ยอมและนั่งให้จับ    

 

ม็อบ 22 พ.ค.  "เกมประลองกำลัง"

 

          ด้านฝั่งธรรมศาสตร์ก็ร้อนใจไม่แพ้กัน เมื่อผลเจรจาไม่คืบจึงเกิดการดันกับเจ้าหน้าที่ ภาพในขณะนั้นร้อนแรงเป็นอย่างยิ่งทั้งสองพื้นที่

          แต่ที่สุดการเจรจาก็บรรลุ แกนนำยอมที่จะให้ตำรวจคุมตัว แต่ต้องเป็นภายหลังการอ่านแถลงการณ์ในทั้งสองจุด ภาพที่ออกมาจึงเป็นการชุมนุมที่เลิกภายหลังการอ่านแถลงการณ์ ส่วนแกนนำที่เหลือก็ต้องไปสู้คดีต่อไป

          มองเผินๆ เหมือนรัฐบาลชนะ แต่เอาเข้าจริงงานนี้ต้องถือว่า “วิน-วิน”  

          ในแง่รัฐบาล พวกเขาแสดงพลังที่ทำให้เห็นว่าตราบใดที่ยังกุมอำนาจก็จะไม่ยอมให้ใครมาเหยียบจมูกง่ายๆ เพราะใช้องคาพยพทุกอย่างอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงการยืดหยุ่น..ต่อสถานการณ์

 

ม็อบ 22 พ.ค.  "เกมประลองกำลัง"

 

          ขณะที่ผู้ชุมนุมนั้นคล้ายจะพ่ายแพ้ ที่ไปไม่ถึงจุดหมาย รวมถึงคนอาจจะน้อย แถมแกนนำก็ถูกคุมตัวในตอนท้าย แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้วโดยเฉพาะการถูกจับ แต่จากปฏิบัติการที่เห็นแสดงชัดว่าพวกเขาไม่กลัวอำนาจรัฐแม้แต่น้อย และทำให้คนอื่นได้เห็นเป็นการปลุกพลังขึ้นมา การชุมนุมนั้นแม้คนจะไม่มากแต่ดึงความสนใจจากสื่อมวลชนกลายเป็นข่าวไปทั่วประเทศ ขณะที่เป้าหมายเรื่องการอ่านแถลงการณ์นั้นถือว่าลุล่วง เพราะพวกเขาคิดไว้อยู่แล้วว่ายังไงคงไปไม่ถึงหน้าทำเนียบ แต่การทำพิธีกรรมที่ “สะพานมัฆวานฯ” ก็ถือว่าสำเร็จอย่างมาก เพราะห่างทำเนียบแค่สะพานกั้นเท่านั้น

          ทำให้งานนี้ไม่มีใครเจ็บช้ำ หรือชนะแบบเด็ดขาด จนนำไปอ้างได้ หลังจากนี้ต่างหากที่การต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น การหยั่งเชิง การรุกไล่ การประลองกำลัง ช่วงชิงสถานการณ์จะหนักหน่วงขึ้น ที่สำคัญหากรัฐบาลเลื่อนเลือกตั้งไปอีก ม็อบครั้งต่อไปอาจไม่ง่ายเหมือนครั้งนี้ เกมนี้ยังอีกยาว  
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ