คอลัมนิสต์

4 ปี คสช.ของ"คมสัน โพธิ์คง"ที่สุดแห่งการเสียของ!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

4 ปี คสช.ของ"คมสัน โพธิ์คง"ที่สุดแห่งการเสียของ! : คอลัมน์... เจาะประเด็นร้อน โดย... อนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์ ทีมล่าความจริง เนชั่นทีวี 22

 

          “เรียกได้ว่าเป็นที่สุดแห่งการเสียของ...หากมีการให้คะแนนรัฐบาลชุดปัจจุบัน ผมมองว่าคะแนนที่รัฐบาลจะได้ จะถึงศูนย์คะแนนหรือเปล่า อาจจะติดลบด้วยซ้ำ”

          นี่คือการประเมินในวาระ “4 ปี คสช. 4 ปียึดอำนาจ” ของ อาจารย์คมสัน โพธิ์คง นักวิชาการด้านกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าหลักสูตรนิติศาสตร์ออนไลน์ มหาวิทยาลัยรังสิต

          อาจารย์คมสัน เป็นนักวิชาการที่น่าจะถูกสังคมจัดอยู่ในกลุ่ม “ไม่เอาระบอบทักษิณ” และ “เคยสนับสนุน คสช.” แต่สุ้มเสียงของเขาในวันนี้กลับกลายเป็นตรงกันข้าม สะท้อนว่าผลงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล “นายกฯ ลุงตู่” ในสายตาของอาจารย์คมสัน อยู่ในระดับติดลบ

          “เวลา 4 ปี ถือว่าเป็นเวลาที่เยอะมาก หากเทียบกับรัฐบาลที่ทำการรัฐประหารเมื่อปี 50 ซึ่งเข้ามาปกครองเป็นเวลาปีเศษๆ ครั้งนั้นแค่ปีเศษๆ ก็โดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก แต่รัฐบาล คสช.กลับใช้เวลาถึง 4 ปี จึงมีผลเสียมากกว่าทุกครั้ง มันเป็นการเสียของอย่างมากหากเปรียบเทียบกับสิ่งที่ประชาชนตั้งตารอ ซึ่งประชาชนหวังว่ารัฐบาลที่มีอำนาจพิเศษจะเข้ามาปฏิรูปหลายๆ ด้านได้สำเร็จ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม หรือแม้แต่การปฏิรูประบบงานตำรวจ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย”

          อาจารย์คมสัน บอกว่า สิ่งที่ คสช.ทำมาทั้งหมด โดยเฉพาะในทางการเมืองและการวางกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ล้วนไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ แต่มุ่งสืบทอดอำนาจตัวเอง

 

4 ปี คสช.ของ"คมสัน โพธิ์คง"ที่สุดแห่งการเสียของ!

 

          “เรื่องพวกนี้ประชาชนเห็นได้ชัดเจน คนสมัยนี้เขาไม่ได้กินแกลบนะ ทุกคนรู้ดีว่ารัฐบาลคิดอะไร แต่ที่เขาไม่พูดอะไรทั้งๆ ที่เกิดความเสียดาย ก็เพราะว่าถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้ง พวกนักการเมืองหน้าเดิมๆ ก็กลับมา ซึ่งนักการเมืองหน้าเก่าส่วนใหญ่เป็นที่รังเกียจของประชาชนบางกลุ่ม แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในวันนี้คือรัฐบาลปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ดูได้จากค่าครองชีพที่สูงขึ้นมาก ราคาน้ำมัน ลองคิดดูว่าก๋วยเตี๋ยวถ้วยละ 30 บาทหากินแทบไม่ได้แล้วในยุคนี้ การขึ้นค่าแรงในรัฐบาลชุดก่อน ก็ไม่สามารถเพียงพอกับค่าครองชีพในปัจจุบัน”

          ในบริบทการเมืองไทย เป็นที่่ทราบกันดีว่ารัฐบาลแทบทุกรัฐบาลต้องล้มไปเพราะปัญหาคอร์รัปชั่น จุดนี้เองที่อาจารย์คมสันบอกว่า เป็นสิ่งที่ประชาชนผิดหวังที่สุดกับรัฐบาล คสช. นั่นก็คือการประกาศตัวว่าเป็นรัฐบาลปราบโกง แต่กลับแก้ปัญหาการโกงไม่ได้เลย แม้แต่เรื่องของคนในรัฐบาลเองอย่าง “แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน”

          “จะเห็นได้ว่าการโกงภายใต้รัฐบาลชุดนี้มีออกมาอย่างชัดเจน แต่เป็นรูปแบบที่ข้าราชการเป็นคนไปโกง ซึ่งเหล่าบรรดาข้าราชการเป็นรากฐานส่วนใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งการโกงทั้งหมดค่อยๆ ปูดออกมา กลายเป็นว่าฝีมือใครที่โกงได้เนียนกว่ากัน ยกตัวอย่าง กรณีแหวนเพชรแม่ นาฬิกาเพื่อน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานราชการไหนหาคำตอบที่แท้จริงมาให้สังคมได้ว่าเป็นไปตามคำชี้แจงจริงหรือไม่ แม้แต่รัฐบาลก็ไม่สามารถตอบได้ พอมีใครถามก็อ้ำอึ้ง หรือไม่ก็โมโหใส่คนถาม แล้วจะมาอ้างตัวว่าเป็นรัฐบาลปราบโกงได้อย่างไร เพราะภาพมันสะท้อนออกมาชัดเจนแบบนี้แล้ว ทั้งหมดเป็นแค่วาทกรรมเท่านั้น”

          จุดอ่อนของรัฐบาลทหาร ที่อาจารย์คมสันมองเห็นอย่างชัดเจน จาก 4 ปีที่บริหารประเทศมา ก็คือระบบอุปถัมภ์และความเป็นพี่เป็นน้อง เป็นพวกพ้องกันยิ่งกว่าอาชีพอื่นๆ

          “ปัญหาใหญ่ของรัฐบาลทหาร ก็คือการอุปถัมภ์พวกพ้อง เช่น เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน เป็นพี่รักน้องเลิฟกัน หรือกลุ่มต่างๆ ในแวดวงทหาร หรือแม้แต่หลักสูตรอบรมหรือหลักสูตรคอนเนกชั่นทั้งหลายที่มีอยู่ ทำให้รัฐบาลทหารต้องติดอยู่ในกรอบระบบอุปถัมภ์นั่นเอง นี่ยังไม่รวมเรื่องลูกหลานที่มีสิทธิพิเศษมากกว่าคนทั่วไป เช่น การเปิดบริษัทในค่ายทหาร หรือการรับเด็กเส้นเข้ารับราชการ”

          สิ่งเดียวที่คนไทยได้รับจาก 4 ปีรัฐประหาร 4 ปี คสช. ในความเห็นของอาจารย์คมสันก็คือ รัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยวเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการอีกหนึ่งฉบับเท่านั้น 

          และบทสรุปสุดท้ายที่ต้องบอกกันเอาไว้ก็คือ การปฏิวัติรัฐประหารจะยังไม่หมดไปจากประเทศไทย และคนไทยก็ยังหนีไม่พ้นวงจรอุบาทว์ นั่นก็คือมีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลจากนักการเมือง จากนั้นก็ทุจริตคอร์รัปชั่นจนทหารต้องปฏิวัติ เมื่อปฏิวัติแล้วก็ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แล้วก็เลือกตั้งเพื่อโกงกันต่ออีก
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ