คอลัมนิสต์

เคลียร์ข้อข้องใจ !! "บิ๊กโจ๊ก" ปฏิบัติการ "ดับซ่า" สันธนะ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ให้สัมภาษณ์พิเศษ เคลียร์ข้อข้องใจในปฏิบัติการดับซ่า "รองฯต่อ" พ.ต.ท.สันธนะ ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

               ปฏิบัติการดับซ่า "รองฯต่อ" พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ซึ่งกลายเป็นข่าวใหญ่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น สิ่งที่สังคมพูดกันมาก นอกจากลีลาดราม่าของ พ.ต.ท.สันธนะ แล้ว ก็คือคำถามถึงการทำงานของตำรวจ โดยเฉพาะ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รองผบช.ทท.) 

 

เคลียร์ข้อข้องใจ !! "บิ๊กโจ๊ก" ปฏิบัติการ "ดับซ่า" สันธนะ 

 

               ประเด็นที่ถูกตั้งคำถามหนักๆ ก็คือ งานทลายตลาดใหม่ดอนเมือง จับกุมผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมาเฟีย เรียกเก็บค่าคุ้มครอง ตำรวจท่องเที่ยวเกี่ยวข้องอะไรด้วย, งานนี้เป็นการล้างแค้นส่วนตัวระหว่าง "บิ๊กโจ๊ก" กับ พ.ต.ท.สันธนะ จากการที่ฝ่ายหลังเคยออกมากล่าวหาพาดพิงภารกิจปราบปรามโต๊ดเถื่อนและการพนันผิดกฎหมายในสนามม้าหรือไม่ โดยเฉพาะภาพการนำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ "อรินทราช 26" เข้าตรวจค้นคอนโดมีเนียมหรูของ พ.ต.ท.สันธนะ ราวกับบุกไปช่วยเหลือตัวประกัน หรือบุกทลายแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดขนาดใหญ่ 

               ประเด็นนี้ "บิ๊กโจ๊ก" ปฏิเสธนิ่มๆ ตามสไตล์ โดยยืนยันว่าเป็นการทำงานตามหน้าที่ ไม่มีประเด็นส่วนตัว 

               "จะมีเรื่องส่วนตัวอะไร ไม่มีหรอกครับ เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ผม เขาไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เราพบพยานหลักฐานแค่ไหนก็ทำแค่นั้น" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุ และว่า 

               "การปราบปรามการลักลอบเล่นการพนัน หรือการจัดโต๊ดเถื่อนในสนามม้า เราทำมาต่อเนื่อง 2 ปีแล้ว เป็นนโยบายของรัฐบาล ทำให้มีรายได้เข้ารัฐเพิ่มมากขึ้น จากเดิมรายได้อยู่ที่ 30 กว่าล้าน ตอนนี้อยู่ที่ 46 ล้าน ทำให้รายได้ต่อปีก็เพิ่มมากขึ้นด้วย นี่คือส่วนที่ประชาชนได้ประโยชน์จากการทำหน้าที่ ซึ่งต้องขอเรียนนิดหนึ่งว่าอาจจะกระทบใครไปบ้าง หรือทำให้คนพอใจบ้างไม่พอใจบ้าง แต่เราต้องเอาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นหลัก" 

               ถึงเจ้าตัวจะยืนยันว่าไม่มีประเด็นส่วนตัวกับ พ.ต.ท.สันธนะ แต่สังคมก็ยังตั้งคำถามอยู่ดีว่า ตำรวจท่องเที่ยวไปเกี่ยวอะไรกับภารกิจทลายแหล่งจำหน่ายเครื่องสำอางเถื่อน อาหารเสริมด้อยคุณธรรม และไปยุ่งอะไรกับปฏิบัติการปราบมาเฟีย 

               ประเด็นนี้ "บิ๊กโจ๊ก" อธิบายว่าเป็นการทำงานแบบบูรณาการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา 

               "จะเป็นตำรวจหน่วยไหนก็แล้วแต่ ตำรวจเราทำงานร่วมกันทั้งหมด จะเห็นได้ว่ามี ตชด.ด้วย (ตำรวจตระเวนชายแดน) มีผู้การ ตชด.มาร่วมด้วย มีทั้งกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจนครบาล ตำรวจกองอารักขาและควบคุมฝูงชน จะเห็นได้ว่าไม่ได้มีตำรวจท่องเที่ยวหน่วยเดียว วันนี้เราทำงานแบบบูรณาการเพื่อให้กำลังมีมากขึ้น เพื่อให้ความมั่นใจของประชาชนมีมากขึ้น" 

               "ปัจจุบันการทำงานของตำรวจมีการบูรณาการร่วมกันทุกหน่วย ตั้งแต่วันแรกที่เข้าตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมือง และท่านรองฯวิระชัย (พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.) ได้นำกำลังทุกภาคส่วน ไม่ว่าตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งหน่วยนอกอย่างกรมสรรพากร กรมธนารักษ์ เข้าไปร่วมปฏิบัติการ เป็นการขยายผลจากคดีเมจิกสกิน ซึ่งรองฯวิระชัยดำเนินการอยู่ จะเห็นได้ว่าเรื่องเมจิกสกิน รองผู้บังคับการ 3 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง เป็นผู้ปฏิบัติการทั้งหมดในเรื่องของการสึบสวนจับกุม จะเห็นได้ว่าเป็นการบูรณาการตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว 

               ปฏิบัติการดับซ่า พ.ต.ท.สันธนะ สังคมนินทาไปถึงขั้นว่าเป็นใบสั่งจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลหรือไม่ หรือว่างานนี้เป็นเกมดราม่าเบี่ยงเบนประเด็นข่าว โดยเฉพาะกระแส "พลังดูด" ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำให้ คสช.เสียรังวัดอย่างหนัก แต่ "บิ๊กโจ๊ก" ยืนกรานว่า เขาทำงานตามหน้าที่ ตามพยานหลักฐาน และไม่มีใบสั่งจากผู้มีอำนาจ แต่ก็เป็นธรรมดาที่การทำงานต้องรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นอยู่แล้ว 

               "ไม่มีใบสั่งแน่นอน ในเรื่องของการทำหน้าที่ของตำรวจไม่ต้องมีใครมาสั่ง แล้วก็ไม่ต้องรอให้ผู้บังคับบัญชามาสั่ง หากพบว่าเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน หรือเป็นความผิดที่อยู่ในอำนาจความรับผิดชอบที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ ก็ต้องทำทันที ส่วนการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบนั้น เป็นสิ่งที่ต้องทำประจำอยู่แล้วเป็นเรื่องการรายงานปกติ" 

 

เคลียร์ข้อข้องใจ !! "บิ๊กโจ๊ก" ปฏิบัติการ "ดับซ่า" สันธนะ 

               "จากการจับกุมตรวจค้นของท่านรองฯวิระชัย ในเรื่องของเมจิกสกิน ทำให้เรื่องหลั่งไหลมาเยอะมาก จนนำมาสู่ปัญหาในพื้นที่ตลาดใหม่ดอนเมืองที่รับข้อมูลร้องเรียนมาเช่นกัน ก็มี 2 ส่วน คือ 1.มีการขายของที่ผิดกฎหมายเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ไม่มี อย. (ตรารับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) กับ 2.ประชาชนเข้าร้องเรียนว่ามีการเก็บค่าคุ้มครอง เพราะฉะนั้นในเรื่องเหล่านี้ก็กราบเรียนท่านรองฯวิระชัย ต่อมาท่านจึงกราบเรียน ผบ.ตร. (พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา) ท่าน ผบ.ตร.จึงกำชับให้ท่านรองฯวิระชัยจัดกำลังตำรวจ ทั้งตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวเราความจริงก็ร่วมปฏิบัติการตั้งแต่แรกอยู่แล้ว" 

               "วันนี้ประชาชนตั้งคำถามว่ามีมาเฟียหรือไม่ มีการเก็บค่าคุ้มครองไหม หากเราดำเนินคดีเฉพาะเรื่องอาหารและยาอย่างเดียว การร้องเรียนร้องทุกข์ต่างๆ ก็ยังไม่หมดไป เพราะฉะนั้นเราจึงให้ความเป็นธรรมกับพ่อค้าแม่ขาย ส่วนไหนที่เป็นความทุกข์ของผู้ค้า เราก็ดำเนินคดีด้วย เราก็ไปจัดการดูแลด้วย ทำให้เขาเห็นว่าขบวนการเก็บค่าคุ้มครองมีจริงหรือไม่ ประชาชนจะได้ไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไป" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว 

               จากการทำงานทั้งหมดนี้เอง ทำให้ "บิ๊กโจ๊ก" ยืนยันความสำเร็จว่า ตำรวจใช้เวลา 7 วัน ตรวจค้น 3 วัน รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งทำความจริงให้ปรากฏ นำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่ดำเนินการกรรโชกทรัพย์ทั้งหมด 11 ราย 45 หมายจับ เฉพาะหมายจับของ พ.ต.ท.สันธนะ มี 8 หมายด้วยกัน โดยตำรวจจะยังไม่หยุดแค่ตลาดใหม่ดอนเมือง แต่จะเดินหน้าจัดระเบียบตลาดอื่นๆ ด้วย เพื่อไม่ให้มีมาเฟียขูดรีดผู้ค้าสร้างความเดือดร้อนอีกต่อไป

เรื่องโดย ชลธิชา รอดกันภัย

 

เคลียร์ข้อข้องใจ !! "บิ๊กโจ๊ก" ปฏิบัติการ "ดับซ่า" สันธนะ 

 

(อ่านต่อ..."ผมไม่ใช่เด็กนาย" บิ๊กโจ๊ก เปิดใจ ถูกมองใกล้ชิด "บิ๊กป้อม")

เคลียร์ข้อข้องใจ !! "บิ๊กโจ๊ก" ปฏิบัติการ "ดับซ่า" สันธนะ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ