คอลัมนิสต์

ใครรับผิดชอบ! นโยบายชักเข้า-ชักออก โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ใครรับผิดชอบ! นโยบายชักเข้า-ชักออก โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ โดย...เอราวัณ
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

           การลุกฮือของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ออกมาคัดค้านนโยบายหรือท่าทีของเสนาบดีบางกระทรวงในรัฐบาล จนถึงขั้นไปพบเสนาบดีกระทรวงนั้น และออกมาแถลงคัดค้านการกระทำของเสนาบดี นาน ๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง แต่เป็นเพราะสมาชิกในส.อ.ท.ได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก จึงต้องออกมา 

         กรณีการแสดงจุดยืนต่อท่าทีอันไม่ชัดเจนของ ศิริ จิระพงษ์พันธ์ เสนาบดีกระทรวงพลังงาน ในเรื่องการไม่ส่งเสริมโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียนนี้เป็นกรณีหนึ่งที่ ส.อ.ท.ต้องเปลี่ยนจากบท “เด็กดี” เป็น “ลุกฮือ”

           เดิมที ส.อ.ท.ขู่ว่าจะแถลงจุดยืนต่อต้านอย่างถึงที่สุด แต่มี “มือประสาน” ใกล้ตัว “ลุงตู่ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ทำให้กระทรวงพลังงาน กลับลำไม่ปิดทางโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน หรือพลังงานหมุนเวียนที่จะให้หน่วยงานของรัฐรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าเหล่านี้

           แนวคิดอัน “สับสน” ที่ไม่เอาทั้งเชื้อเพลิงจากถ่านหิน (อ้างว่าเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม) พอเข้าใจได้ว่าท่านเสนาบดีเป็นพวกแนวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่พอประกาศไม่สนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียน ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก ลม แสงแดด และชีวมวล ซึ่งเป็นทิศทางของนานาอารยประเทศ ในการเดินหน้าส่งเสริมพลังงานสะอาด แต่เมื่อเสนาบดีกระทรวงพลังงานมีท่าทีเช่นนี้ ทำให้นานาอารยะประเทศ มองเราถอยหลังจะกลับไปสู่ยุคหินหรืออย่างไร
           การรีบ “กลับลำ” หันมาคุยและยืนยันกับ ส.อ.ท.ในการสนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียน แต่ต่อรองเรื่องราคาในการรับซื้อ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่สิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากไปกว่านั้น อยู่ที่บริษัทพลังงานเหล่านี้นับสิบบริษัทปัจจุบัน ได้นำกิจการเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลาดที่มีการซื้อขายต่อวันเฉลี่ยสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท หาใช่ตลาดสดทั่วไปไม่

           ทันทีที่มีนโยบายจากเสนาบดีออกมาสับสนเช่นนี้ ราคาหุ้นโรงไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับถ่านหินและพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนทุกบริษัท ซวนเซ ในตลาดอย่างชัดเจน

           ราคาหุ้นของบริษัทโรงไฟฟ้าเหล่านี้บางแห่งลดฮวบลงไปถึง50% ผู้ที่เสียหายหาใช่แค่เจ้าของกิจการที่ “ความร่ำรวยลดลง” ที่ต้องบอก “ช่างมันเถอะ” แต่นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯทั้งรายย่อย รายใหญ่ “เจ๊ง” กันระนาวในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เพราะไป “ติดดอย”ราคาหุ้น เรื่องนี้ “ใครจะรับผิดชอบ”

           คงเสียเวลาที่จะเรียกร้องความรับผิดชอบจาก ศิริ แต่จะมีเรื่องใหญ่กว่านี้เกี่ยวกับ “รัฐมนตรีพลังงานท่านนี้” ที่กำลังมีการรื้อกรณีการเข้าไปฟื้นฟูบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เมื่อหลายปีก่อน ซึ่ง ศิริ  เป็นหนึ่งในผู้บริหารแผนฟื้นฟู ที่วันนี้ ป.ป.ช.ชี้ว่า การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเอกชนของกระทรวงการคลังนั้น เป็นไปโดยมิชอบและชี้มูลความผิดของ ทักษิณ ชินวัตร ออกมาแล้ว ทีนี้จะลามถึงทุกคนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ ทีพีไอ หรือไม่  เป็นเรื่องที่ต้องย้อนรอยประวัติศาสตร์ แต่คงไม่ “Happy” เหมือนละคร “บุพเพสันนิวาส” นะออท่าน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ