คอลัมนิสต์

หลานๆ BNK48  ดังจน "ลุงตู่" ต้องเจอ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลานๆ BNK48  ดังจน "ลุงตู่" ต้องเจอ : คอลัมน์... เจาะประเด็นร้อน  โดย... จักรวาล ส่าเหล่ทู

            ถ้าไม่นับกระแส “ออเจ้า” นาทีนี้อะไรก็ฉุดความฮิตของ BNK48 วงเกิร์ลกรุ๊ปไทยสไตล์ญี่ปุ่นไม่ได้จริงๆ จากปรากฏการณ์ของซิงเกิล “คุกกี้เสี่ยงทาย” ทำให้เพลงของพวกเธอติดชาร์ตติดหู ติดตาแฟนๆ อีกทั้งความน่ารักของสมาชิกวง ที่ทำให้ “โอตะ” (แฟนคลับมาจากคำว่า “โอตาคุ”) ทั้งชายและหญิงจำนวนมากหลายๆ คน ทั้งคนทั่วไปและคนดังในวงการต่างๆ ก่อตัวเป็นปรากฏการณ์กล้าประกาศติดตามวงนี้ และ “โอชิ” (เชียร์คนที่ชอบ) ออกสื่อกันได้อย่างไม่เคอะเขิน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จับคู่ BNK จะดูดีมีมูลค่าไปหมด อย่างเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยหมายเลข 48 หรือแม้แต่ร้านอาหารชื่อดังที่ออกแคมเปญร่วมกันกับพวกเธอก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เราจึงเห็นเอกชนหลายๆ เจ้าต่างก็สนใจที่จะดึงเธอมาร่วมงานด้วยทั้งนั้น แม้กระทั่งรัฐบาลเองก็ให้ความสนใจไม่น้อยจนต้องดึงมาร่วมโปรโมทวิทยุครอบครัว ในวันที่ 24 เมษายน และมีคิวพบนายกรัฐมนตรีก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย !!!

            BNK48 วงเกิร์ลกรุ๊ปที่ไม่ได้มี 48 คน

            BNK48 คือวงเกิร์ลกรุ๊ป เป็นวงน้องของ AKB48 ที่ถือต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งวงไอดอลประเภทนี้มีแฟรนไชส์กระจายไปตามประเทศต่างๆ เช่น JKT48 ของอินโดนนีเซีย, TPE48 ของไต้หวัน เป็นต้น โดยเลข 48 นั้นมาจากคำว่า “ชิบะ” ซึ่งเป็นคำพ้องเสียงกับชื่อเจ้าของบริษัท “ชิบะ โคทาโร่” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไอดอลที่ทุกคนสามารถพบเจอได้” ซึ่งไม่ได้หยุดอยู่แค่หน้าทีวี หรือสื่อใหญ่ๆ เท่านั้น 

          ปัจจุบัน BNK48 มีสมาชิก 26 คน โดยสมาชิกของวงจะอยู่ในคอนเซ็ปต์ “ตัวตน” ที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบมาตั้งแต่เข้าวง หากต้องมีการฝึกฝนและพัฒนาการอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นการจะ “โอชิ” ใครสักคน ก็ต้องคอยเอาใจช่วย คอยติดตามพวกเธอผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของพวกเธอ หรือร่วมให้กำลังใจเธอในการแสดงที่ “เธียเตอร์” ซึ่งเป็นสถานที่พบปะระหว่าง เมมเบอร์ กับเหล่าโอตะ หรือในงานจับมือ ที่บัตรจับมือจะมาจากแผ่นซีดีซิงเกิล เป็นต้น

 

 

หลานๆ BNK48  ดังจน "ลุงตู่" ต้องเจอ

 

            สาเหตุที่ต้องให้กำลังใจนั้น ก็เพราะว่าแต่ละซิงเกิลที่ออกเป็นอัลบั้มนั้น จะมีเมมเบอร์กลุ่มหนึ่งที่เป็นผู้ร้องหลักของเพลง หรือเรียกว่า “เซมบัตสึ” ซึ่งมีหน้าที่หลักในการเดินสายโปรโมทเพลง มีบทบาทในช่วงนั้น ส่วนคนที่ไม่ได้รับเลือกจะเป็นตัวสำรอง ที่อาจจะได้ร้องเพลงอื่นๆ หรืออาจถูกดึงมาแทน 

            โดยการรับเลือกเป็นเซมบัตสึนั้น มีทั้งวิธีการคัดเลือกโดยกลุ่มผู้ใหญ่ดูแลวงตามความเหมาะสม กับวิธีเลือกตั้ง ที่ให้โอตะ​ โหวตสมาชิกที่ชื่นชอบ ด้วยการส่งบัตรโหวตคะแนนเสียงที่แนบมากับแผ่นซีดี ใครได้คะแนนมากเป็นอันดับต้นๆ ก็จะได้เป็นเซมบัตสึไปในที่สุด ดังนั้น พวกเธอจึงต้องหมั่นผลักดันตัวเอง เพื่อให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับให้ได้

            “ไอดอล” อย่างที่ใครๆ อยากเห็น
            ในยุคที่ผู้ใหญ่หลายๆ คนกำลังปวดหัวกับคำว่า เน็ตไอดอล ที่บางครั้งกลับมีพฤติกรรมที่ไม่ได้เป็นแบบอย่างแก่ประชาชน แต่ถ้าเราเห็นเด็กๆ กำลังติดตามพวกเธอล่ะก็ วางใจได้เลย เพราะว่ากฎของเมมเบอร์ ในศิลปินเครือ 48 นั้นย่อมมีกฎที่เมมเบอร์ต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้เป็นแบบอย่างและยังคงความนิยมอยู่เสมอ อาทิ การเข้มงวดใช้สื่อออนไลน์ ที่ต้องออกมาในเชิงสร้างสรรค์ หรือไม่ก่อประเด็นดราม่าในสังคม เป็นต้น รวมถึงต้องไม่ไปปรากฏตัว หรือเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง หรือสื่อลามกอนาจารวาบหวิว  

            นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่เธอจะต้องทำก็คือ “งานต้องมาก่อน” ซึ่งกฎการรับสมัครครั้งแรกนั้นระบุชัดว่า แนะนำให้เรียนการศึกษานอกระบบ หรือสถาบันที่ไม่บังคับเรื่องเวลาเข้าเรียน แต่รู้ไหมว่า เมมเบอร์บางคนนั้น เรียนในระดับมหาวิทยาลัย บางคนเรียนสายวิทยาศาสตร์ บางคนเรียนสายดนตรี บางคนกำลังเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย

 

หลานๆ BNK48  ดังจน "ลุงตู่" ต้องเจอ

 

 

            ความรู้ ความสามารถที่นอกเหนือจากร้องเล่น เต้นระบำ
            นอกจากจะร้องเพลงได้ และเต้นได้อย่างพร้อมเพรียงบนเวทีแล้ว หนึ่งในเสน่ห์ของสาวๆ BNK48 ก็คือความหลากหลายในความสามารถ ที่มิใช่เพียงร้องเต้น แต่ยังมีแนวคิดหลายๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ข้างใน ที่ทำให้ไม่ว่าจะเป็น “โอตะ” หรือใครที่ไม่เคยรู้จักต้องหันกลับมามมอง  


            อย่าง เฌอปราง อารีย์กุล หรือ “เฌอปราง BNK48” กัปตันของวง เธอเป็นนักศึกษาสาขาวิชาเคมี วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมงานวิจัยกับรุ่นพี่และอาจารย์ในการทดลอง “ขวดสีน้ำเงิน” (The Blue Bottle Experiment) ว่าด้วยเรื่องการใช้ทฤษฎีฟิสิกส์ขั้นสูงในการคำนวณสมบัติทางไฟฟ้าเคมีของสารชนิดหนึ่งที่เปลี่ยนสีไปมาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร Royal Society Open Science ในประเทศอังกฤษ จน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ชมว่าเป็นคนเก่ง รวมถึง ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) ที่ยังสนใจชวนเธอมาร่วมงานกับ วท. เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ มาสนใจวิทยาศาสตร์

 

หลานๆ BNK48  ดังจน "ลุงตู่" ต้องเจอ

 

            นอกจากนี้ เฌอปรางยังเคยพูดเรื่องของเทคโนโลยี Blockchain เรื่องยาก ให้เข้าใจง่ายๆ ในช่องทางโซเชียลมีเดีย และได้เชิญชวนให้คนอื่นๆ ศึกษาเรื่องดังกล่าวเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดด้วย

            ส่วนความสามารถด้านดนตรีนั้น  “แก้ว BNK48” เกียรตินิยมอันดับ 1 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาดุริยางคศิลป์ จุฬาฯ เธอหมั่นเล่นเปียโนให้แฟนคลับฟังอยู่บ่อยๆ หรืออย่าง “อร BNK48” ที่เล่นเบสจนใจหนุ่มๆ ต้องละลายตามๆ กันไป แต่ถ้าเรื่องอาหารการกินต้องยกให้ “ไข่มุก BNK48” ที่ชอบทำขนมอบเป็นชีวิตจิตใจ อีกทั้งยังสรรหาเวลาว่างมาทำรายการบนโลกออนไลน์ “ครัวคุณไข่” อยู่เสมอ

            หรือถ้าด้านสายสังคม ก็ต้องยกให้ “แคน BNK48” ที่เมื่อก่อนผ่านงานเป็นครูอาสาสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนต่างจังหวัด หรือได้รับเลือกตั้งเป็นสโมสรนักศึกษา ที่มีนโยบายคอยผลักดันความเป็นผู้นำของแต่ละคน รวมถึงประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศด้วย

          หรืออย่าง “มิวสิค BNK48” สาวน้อยของวง ที่ถูกจับตามอง เธอยังเคยพูดถึงเรื่องรัฐธรรมนูญ เมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ถ้าในอนาคตมีโอกาส อยากให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมออกความเห็นในการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นฉบับของประชาชนโดยแท้จริง ซึ่งถือเป็นประเด็นสังคม ที่ไอดอลวงอื่นๆ ไม่ค่อยจะกล้าแตะสักเท่าไหร่

 

หลานๆ BNK48  ดังจน "ลุงตู่" ต้องเจอ

 

            เมื่อแรงจนหยุดไม่อยู่ มีหรือทีมพีอาร์ของรัฐบาลนี้จะพลาดดึงมาโปรโมท ไม่ต่างจากครั้งพาทีมงาน “บุพเพสันนิวาส” มาเจอนายกฯ แล้วครั้งหนึ่ง

            มีเสียงแซวว่า หวังว่าการพบปะหลานๆ “ลุงตู่” คงจะไม่ใช้ ม.44 เบรกเลือกตั้ง “เซมบัตสึ” หรือคงไม่ถามเหมือนคราวถาม “หมื่นเรือง” ว่า “ไหนๆ ใครอยากเลือกตั้ง” 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ