โฉมหน้าพรรคทหารหรือ "พรรคเพื่อชาติ"ค่อยๆคลี่ออกสู่สังคมในห้วงเวลาก่อนการหยุดยาว ถ้อยแถลงของ "สมคิด"ต่อข่าวการจัดตั้งพรรคการเมืองสนับสนุน "พล.อ.ประยุทธ์" ชัดขึ้น
ถ้อยแถลงของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ต่อข่าวการจัดตั้งพรรคการเมืองที่จะสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” มีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ
ข่าวที่ว่า “อุตตม สาวนายน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะเป็นหัวหน้าพรรค และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นเลขาธิการพรรค โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะนั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาพรรค บรรดาผู้ใหญ่ในทำเนียบไม่มีใครปฏิเสธข่าวนี้เลย
สิ่งที่ตามมาคือการวิเคราะห์การเมืองเรื่องคสช.จะตั้งพรรคการเมือง ตามด้วยโมเดล “พรรคสามัคคีธรรม” ราวกับว่ามีโมเดลเดียวเท่านั้น หาก “ขุนศึกไทย” จะคิดก่อการตั้งพรรค
หากพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของฝ่ายกุมอำนาจปัจจุบันน่าจะไปในทิศทางของ “พรรคสหประชาไทย” เสียมากกว่า เพราะพรรคสามัคคีธรรมเป็นเรื่องของ “นักเลือกตั้ง” รวบรวมไพร่พลมาทำงานการเมืองสนองอำนาจนายทหารบางคนในคณะรสช. มันจึงออกลูกอิหลักอิเหลื่อ ผู้นำ รสช.จะเป็นนายกฯ เอง หรือให้นอมินีพลเรือน เลยบานปลายกลายเป็นเกมชิงอำนาจบนท้องถนน
“พรรคสหประชาไทย” ก่อเกิดจากคณะนายทหารที่สืบทอดอำนาจมาจากการรัฐประหาร 2500 ซึ่งเวลานั้นเป็นผู้บริหารประเทศ แต่การบริหารจัดการพรรคกลับถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนนายทหารเสนาธิการและนักคิดที่ใกล้ชิด “จอมพลถนอม กิตติขจร” นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น กับ “จอมพลประภาส จารุเสถียร” ผู้บัญชาการทหารบก รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมหาดไทย ที่ดูแลเรื่องการคัดเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ
จอมพลประภาส มอบหมาย “ประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์” อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา ดำเนินการรวบรวมนักเลือกตั้ง หรืออดีตส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ และบริหารจัดการระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งด้วย
(ประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์)
ฤดูกาลเลือกตั้ง 2512 ประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ ไม่ได้สมัครส.ส. แต่ก็วิ่งรอกไปจังหวัดโน้นจังหวัดนี้เพื่อช่วยผู้สมัครพรรคสหประชาไทยหาเสียง
หากเปรียบเทียบพ.ศ.นี้ “จอมยุทธ์กวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็น่าจะรับบทเดียวกันกับ “โค้วตงหมง” ประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ เมื่อ 50 ปีที่แล้ว
บรรดานักเลือกตั้งอาชีพทัั้งหลายรอคอยวันที่ “จอมยุทธ์กวง” จะแสดงตัวว่าได้เวลาเดินเข้าสู่สมรภูมิเลือกตั้งแล้ว เมื่อมีความชัดเจนจากผู้มีอำนาจ นักเลือกตั้งเหล่านั้นก็ตัดสินใจไม่ยาก
ซุ้มภาคกลาง/ตะวันออก
เมื่อการเลือกตั้งปี 2535/1 ตระกูล “สะสมทรัพย” แห่งนครปฐม ไม่ได้เข้าร่วมพรรคสามัคคีธรรม และลงสนามในสีเสื้อพ่ายแพ้เลือกตั้งทั้งตระกูลเป็นครั้งแรก
สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า สี่พี่น้อง “สะสมทรัพย์” นำโดย เผดิมชัย, ไชยยศ, ไชยา และอนุชา คงรู้แล้วว่าจะสวมเสื้อสีอะไร เมื่อคณะของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟของเผดิมชัยตอนปลายปีที่แล้ว
(อ่านต่อ..."เผดิมชัย" แจง "ประยุทธ์" แค่มาเล่นกอล์ฟ)
หันไปมองภาคพื้นบูรพา “ซุ้มแสนสุข” หรือพรรคพลังชล โดยการนำของ “เดอะแป๊ะ” สนธยา คุณปลื้ม คงต้องแขวนเสื้อฉลามชลไว้ชั่วคราว นับแต่มีข่าวว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ลงไปเยี่ยมถึงถิ่นบางแสน คนเมืองชลก็ไม่ได้รับทราบความเคลื่อนไหวของพรรคพลังชล
ส่วนรายนี้ สุชาติ ตันเจริญ อุปนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน และประธานคณะกรรมการบริหารกิจการบ้านพี่เมืองน้อง คงยึดสนามฉะเชิงเทราเป็นเรือนตาย แต่ด้วยความเป็นคนมากบารมี จึงอาจต้องรับผิดชอบอดีต ส.ส.หลายจังหวัดในภาคอีสาน
แม้จะสวมหมวกหัวหน้ากลุ่มบ้านริมน้ำเป็นซุ้มหนึ่งในพรรคภูมิใจไทย แต่เมื่อ “พี่ใหญ่” แห่งสมาคมไทย-จีน ขยับจะทำการเมืองจริงจัง “สุชาติ” ผู้ช่ำชองเพลงยุทธ์คงรู้ว่าจะต้องเดินไปทางไหน
รวมพลรุ่นลายคราม
ปลายเดือนมกราคม “เสี่ยติ่ง” สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ นักเลือกตั้งเก๋าเกม รวบรวมอดีตส.ส.จากหลายพรรคอาทิ เอกพร รักความสุข, เกียรติชัย ชัยเชาวรัตน์, กริช กงเพชร, โชคสมาน สีลาวงศ์, นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และมงคล จงสุทธนามณี เตรียมการก่อตั้งพรรคพลังพลเมือง
(อ่านต่อ..."เสี่ยติ่ง" คัมแบ็ค พรรคพลังพลเมือง..สาขา? )
สถานการณ์ล่าสุดแกนนำกลุ่มผู้ก่อการพลังพลเมืองได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 29 เมษายนนี้ และวันนั้น “เสี่ยติ่ง” อาจประกาศการตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อบ้านเมือง
ส่วนกลุ่มมัชฌิมา หรือกลุ่มวังน้ำยม สมศักดิ์ เทพสุทิน มิตรสหายใกล้ชิดของ “สมคิด” เฝ้ารอเวลามานานแล้ว ช่วงนี้ “สมศักดิ์” คงต้องเจียดเวลาจากการลุ้นทีม “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี มาช่วย “จอมยุทธ์กวง” เชิญชวนชาวยุทธ์เข้ามารวมตัวกันผลักดัน “ไทยนิยม” ให้เข้าไปอยู่ในหัวใจชาวบ้าน
เสี่ยหนู-ลุงกำนันเอายังไง?
เมื่องานวันเกิดของชัย ชิดชอบ เมืองบุรีรัมย์ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พยายามสร้างภาพความเป็นปึกแผ่นแน่นเหนียว มิเพียงเท่านั้นยังประกาศเป็นพันธมิตรในการทำศึกเลือกตั้งคือ พรรคชาติไทยพัฒนา ของ “ท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา โดยมีการเจรจาขอยืมตัวอดีตส.ส.ของชาติไทยพัฒนา ให้ย้ายมาลงเล่นกับทีมภูมิใจไทยหลายจังหวัด
วันนี้ “เสี่ยหนู” ทำตัวคล้ายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยการยืนยันว่า “ภูมิใจไทยไม่ใช่พรรคทหาร” และเดินสายไปร่วมวงเสวนาการเมืองกับนักการเมืองรุ่นใหม่
สำหรับ สุเทพ เทือกสุบรรณ ยังรอเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา ในงานทอดผ้าป่าการกุศลที่เกาะสมุย “ลุงกำนัน” ได้เชิญ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานทอดผ้าป่า ซึ่งคนวงใน กปปส.ทราบกันดีว่า “ท่านวสิษฐ” จะเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคใหม่
(อ่านต่อ...ว่าไงพี่น้อง! "พรรคมวลมหาประชาชนฯ" เพื่อปฏิรูป!!)
ผู้ก่อการพรรคอีกรายคือ ประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติและอดีตสมาชิกวุฒิสภา โดยประสารมาปรากฏตัวในงานทอดผ้าป่าหนนี้ด้วย
พรรคของมวลมหาประชาชนจะมีอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์เพียง 2 รายคือ ธานี เทือกสุบรรณ และเชน เทือกสุบรรณ ที่กระโดดเข้าร่วมงานกับพรรคใหม่ ส่วนอดีตส.ส.ที่เคยเป็นแกนนำกปปส.ยังคงเป็นสมาชิกพรรคปชป.ตามเดิม
คณะกรมการเมืองของพรรคเพื่อชาติยังคงรอการตัดสินใจของค่ายสีน้ำเงินและพรรคของมวลมหาประชาชนก่อนการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง