คอลัมนิสต์

รู้ไว้นะออเจ้า? "อุตตม-สนธิรัตน์" ขุนทัพพรรคทหาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รู้ยัง! ว่าพรรคที่จะมาเคียงข้างนายกฯ ตู่ของเรา เผยโฉมหน้ามาแล้วนะ นี่ก็ได้ชื่อว่าที่หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคแล้ว และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อยากรู้แล้วสิ!!!!

            เป็นเรื่องเมาท์กันมานานหลายเดือนแล้ว ผู้เกี่ยวข้องเรียงหน้าปฏิเสธพัลวัน และมาถึงชั่วโมงนี้ เรื่องพรรคการเมืองของกลุ่มจอมยุทธ์กวง มีความชัดเจนขึ้นอีกระดับหนึ่ง

            เมื่อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า จะสนับสนุน พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกสมัยหนึ่ง แต่เรื่องที่สมคิดยังอุบไว้คือ ชื่อพรรค และหัวหน้าพรรค

            อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่ประสงค์จะแจ้งข่าวได้เปิดเผยว่า พรรคการเมืองที่ว่านี้ "อุตตม สาวนายน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะนั่งหัวหน้าพรรค และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นเลขาธิการพรรค โดย พล..ประยุทธ์ จะนั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาพรรค ซึ่งจะมีการเปิดตัวในเดือน มิ..นี้

            อุตตม” เปรียบเหมือนแขนขวาของ “แม่ทัพกวง” เป็นนักการเงินมากประสบการณ์ เคยทำงานร่วมกับสมคิดมาตั้งแต่อยู่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ยุครัฐบาลไทยรักไทย อุตตมเคยเป็นที่ปรึกษา และผู้ช่วยรัฐมนตรี สมัยสมคิดเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

            หลังปี 2550 สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้รับการชักชวนจาก สมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และชัชวาลย์ คงอุดม (ชัช เตาปูน) ให้ไปร่วมบริหารหนังสือพิมพ์สยามรัฐ สมคิดได้ส่งมือขวา-อุตตมคนนี้แหละเข้าไปช่วยแก้ไขสถานการณ์ด้านการเงินการบริหารอยู่หลายปี

            ก่อนจะเข้าร่วมรัฐบาล คสช. อุตตมดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ขณะที่สมคิดเป็นประธานสภามหาวิทยาลัยกรุงเทพ

            ปัจจุบัน "อุตตม" รมว.อุตสาหกรรม ยังเป็น ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ โครงการ EEC 

            อันเป็นยุทธศาสตร์หลักของรัฐบาลประยุทธ์ ด้วยหวังว่าจะพลิกโฉมประเทศไทยจากประเทศกำลังพัฒนากลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว

            แม่ทัพเศรษฐกิจของลุงตู่ จึงส่งสัญญาณให้อุตตมเร่งทำงานอย่างหนักในทุกมิติ เพื่อให้โครงการนี้เดินได้ เพื่อสร้างเป็นผลงานชิ้นโบแดงให้แก่พรรคการเมืองใหม่ที่จะเกิดขึ้นในกลางปีนี้

            ส่วนแขนข้างซ้ายของสมคิดคือ "สนธิรัตน์" ที่ถูกวางตัวให้เป็นเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งดูแล้วเหมาะสมที่สุด เพราะเขาเป็นนักปฏิบัติการและมือประสานสิบทิศ

            สนธิรัตน์ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีมาทั้งชีวิต จนได้เป็นประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เขาเป็นผู้ประกอบการมาโดยตลอด เคยทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจสกินแคร์ทำสมุนไพรส่งไปนอก และยังเข้าสู่ธุรกิจขายตรงแล้ว จากนั้นมาขายเครื่องครัวชั้นนำจากอิตาลี ถือเป็นธุรกิจสุดท้ายที่เขาทำ

            เมื่อสมคิดจัดตั้ง “มูลนิธิสัมมาชีพ” ปี 2552 ได้มอบหมายให้สนธิรัตน์ เป็นประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิยุคแรก โดยถูกวางตัวให้แสวงความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เช่นร่วมมือกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)

            ประสบการณ์จากมูลนิธิสัมมาชีพ ได้กลายเป็นนโยบาย “ประชารัฐ” ในการดึงเอกชนมาร่วมมือกับชุมชน หลังสมคิดได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด

            เมื่อสนธิรัตน์เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ จึงมุ่งเน้นเศรษฐกิจฐานราก จะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โอท็อป ชุมชนมีโอกาสที่จะเติบโตด้านรายได้มากขึ้น ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐจึงเกิดขึ้น เพื่อเปิดการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

            จากเส้นทางการทำงานของ “อุตตม” กับ “สนธิรัตน์” ดังที่กล่าวมาข้างต้น ถือได้ว่า ทั้งคู่เป็นจอมกระบี่มากฝีมือ ไม่ใช่รัฐมนตรีติดไม่ติดดิน

            พลันที่แม่ทัพกวง ได้โจทย์ว่า ต้องสร้างพรรคการเมืองเพื่อรองรับยุทธศาสตร์ 20 ปี บุคลากรที่ใกล้ตัว มีหน่วยก้านเหมาะแก่การทำงานการเมืองนั้น ก็เห็นอยู่สองคนนี้แหละ 

            ดังนั้นพรรคแห่งประชารัฐ จะไปได้ไกลแค่ไหน ย่อมขึ้นอยู่กับสองขุนทัพของเฮียกวง?

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ