คอลัมนิสต์

คิกออฟไทยนิยมยั่งยืน : “บิ๊กตู่”ส่งสัญญาณแบบไหนที่อยากได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับโครงการ "ไทยนิยม" หลายคนสงสัยว่านัยยะคืออะไร "บิ๊กตู่" แสดงให้เห็นผ่านการลงพื้นที่คิกออฟโครงการด้วยตัวเองที่ จ.นครปฐม

เริ่มต้นอย่างเป็นทางการสำหรับโครงการ “ไทยนิยม” โครงการต้นแบบของนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ล็อกเป้าเลือกที่เปิดโครงการที่ จ.นครปฐม จังหวัดปริมณฑลข้างๆ เมืองหลวง ที่นอกจากมีความเป็นเมืองแล้ว ยังมีพื้นที่ที่เป็นชนบทประกอบอาชีพเกษตรกรรมอยู่ไม่น้อย

ต้องเท้าความว่า “ไทยนิยม” ออกมาจากปากของ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นครั้งแรกเมื่อวันเด็กที่ผ่านมานี้เอง จากนั้นหน่วยงานต่างๆ ก็ขับเคลื่อนแผนตามท่านผู้นำอย่างแข็งขัน จนออกมาเป็นรูปเป็นร่าง โดยมีคณะกรรมการ 4 ระดับ ระดับชาติ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับทีมปฏิบัติการ โดยทีมปฏิบัติการนี้เองที่มีถึง 7,665 ทีม ปูพรมลงพื้นที่ทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกตารางนิ้ว

คิกออฟไทยนิยมยั่งยืน :  “บิ๊กตู่”ส่งสัญญาณแบบไหนที่อยากได้

และการลงพื้นที่จะแบ่งการทำงานเป็น 4 ช่วง 1. เก็บข้อมูล (21 ก.พ.-20 มี.ค.) 2.ติดตามผลการขับเคลื่อน และสร้างความรู้เรื่องประชาธิปไตย (21 มี.ค.-10 เม.ย.) 3.ติดตามผลการขับเคลื่อน และปรับความคิด (11 เม.ย.-30 เม.ย.) และ 4.สร้างการรับรู้ ปรับความคิด และแก้ไขปัญหายาเสพติด(1-20 พ.ค.) และวานนี้เอง (21 ก.พ.) ที่ทุกอย่างได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

คิกออฟไทยนิยมยั่งยืน :  “บิ๊กตู่”ส่งสัญญาณแบบไหนที่อยากได้

หลายคนเรียกแบบตีความโครงการนี้ไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการ “ปูทาง” “ล้างสมอง” “หาเสียงล่วงหน้า” “ปรับวิธีคิด” “บล็อกฐานเสียง” “เตรียมความพร้อม”   แต่ทั้งหมดทั้งมวลยืนอยู่บนฐานที่เชื่อว่า โครงการนี้มีความเชื่อมโยงกับการเมืองในอนาคต

ซึ่ง “พล.อ.ประยุทธ์”  ก็ได้ถอดรหัสให้เห็นผ่านการพูดและการลงพื้นที่ ทั้งแบบตรงและแบบนัยแฝงว่าภายใต้ “ไทยนิยม” เขาต้องการอะไรกันแน่  เริ่มต้นด้วยทีมที่ลงไปก็เห็นว่า งานนี้งานใหญ่ เพราะระดมกำลังทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสอง รมต.กระทรวงสำคัญที่จะขับเคลื่อนโครงการนี้ หนึ่งคือ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย แขนขาสำคัญของระบบราชการ และอีกหนึ่งคือ  “กฤษฎา บุญราช” รมว.เกษตรและสหกรณ์

ส่วนสัญญาณผ่านทางคำพูด “ประยุทธ์” บอกกับชาวบ้านที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพก.แหลมบัว) หมู่ 8 ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ว่า  “วันนี้รัฐบาลสู้กับความยากจนและสิ่งไม่ดี ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งขอให้เลือกให้ดี"

“จากวันนี้เป็นต้นไปคณะทำงานไทยนิยมยั่งยืนจะลงพื้นที่ทุกหมู่บ้าน 7 พันกว่าชุด เพื่อสอบถามความต้องการและแก้ปัญหาประชาชนให้ตรงจุด ต้องเข้าใจสถานการณ์บ้านเรา เพราะฉะนั้นเรื่องการเลือกตั้งเดี๋ยวก็ว่ากันไปตามกฎหมายตามขั้นตอน สิ่งสำคัญวันนี้จะได้รัฐบาลที่เป็นของปวงชนชาวไทย ถ้าเลือกรัฐบาลที่เป็นของใครของมันจะเป็นปัญหาแบบเดิมก็ตีกันอีก ต้องเลือกรัฐบาลที่ดูแลคนทั้งประเทศ”

พล.อ.ประยุทธ์ยังระบุว่า “ไทยนิยมคือคนไทยทุกคนนิยมในการทำความดี เพื่อส่วนรวมและเพื่อคนอื่น ผมก็ใช้หลักการของผมคือไทยนิยม ผมไม่ใช่นักการเมือง ผมเป็นทหาร เป็นนักการทหารเก่า แต่เข้าใจหัวอกของพี่น้องประชาชน เพราะอยู่กับท่านมาตั้งแต่เด็กรวมถึงรัฐมนตรีด้วย อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนช่วยกันจัดระเบียบกลุ่มของตัวเองให้ได้” 

เช่นเดียวกับการลงพื้นที่แปลงนาบัวลุงแจ่ม สวัสดิ์โต (ที่ดินพระราชทานจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย) นายกฯ ก็ได้ย้ำว่า “คำว่า ไทยนิยม คือคนไทยนิยมในการสร้างคุณงามความดีให้แก่ประเทศชาติ ให้แก่ส่วนรวมและครอบครัว อย่างยั่งยืน”

คิกออฟไทยนิยมยั่งยืน :  “บิ๊กตู่”ส่งสัญญาณแบบไหนที่อยากได้

ตอกย้ำคำว่า “ไทยนิยม” ในแบบที่อยากให้รับรู้และเข้าใจตรงกัน

และจากนั้นก็ถึงคราว “ลุงตู่โชว์”  ทั้งออด ทั้งอ้อน ทั้งโชว์ความสามารถ ชนิดนักการเมืองยังอาย เช่นเมื่อมีชาวบ้านนำดอกกุหลาบมาให้ “ลุงตู่” ก็ไม่รับพร้อมบอกว่า "อย่าเอามาให้ผมเลย มาเจอผมเอาดอกไม้ข้างทางมาให้ก็ได้ เพราะผมมาด้วยใจ”  เจอแบบนี้มีเคลิ้มแน่ๆ

ส่วนขณะที่ปลูกต้นจัน ก็ไม่วายหยอดว่า  “ถ้าเห็นต้นจันนี้ก็ขอให้คิดถึงผมด้วย และถ้านึกถึงนายกฯ ก็ขอให้นึกต้นจันต้นนี้ เพราะตรงกับนามสกุลจันทร์โอชาพอดี” 

งานนี้ไม่รู้ “บ้านใหญ่นครปฐม” นามสกุล “สะสมทรัพย์” ได้ยินจะรู้สึกอย่างไร

และแน่นอนว่ากิจกรรมในครั้งนี้ก็ก็เพียบเช่นเดียวกับที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงหมู กินอาหาร โยนกล้าข้าว พายเรือ และ “ลุงตู่” ก็ไม่เว้นการปล่อยมุก เช่นเมื่อมีผู้นำน้ำมะนาวมาให้ดื่ม และมีการนำภาพ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา สมัยที่เคยลงพื้นที่มาปลูกมะนาวเป็นที่ระลึกมาแสดง  

“ลุงตู่” ก็โชว์ศักยภาพ “พ่อบ้านใจกล้า” ชี้ไปที่ภาพแล้วบอกว่า “คนนี้เป็นคนปลูกมะนาวใช่ไหม มิน่าถึงได้เปรี้ยวขนาดนี้ คราวหน้าถ้าคนนี้มาอีกให้เอาพริกให้ปลูก จะได้เผ็ดสะเด็ดไปเลย” ทำเอาเหล่า “คนรักเมีย” หัวเราะไปตามๆ กัน

แต่ที่เรียกเสียงฮาสนั่นคือ ตอนที่ทอล์กโชว์เรื่องมะพร้าวซึ่ง อ.สามพราน มีที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอมกว่า 400 ไร่ มีชาวบ้านมาขอให้ช่วยเรื่องราคา ซึ่ง “ลุงตู่” ก็แนะนำว่าต้องดูว่ามะพร้าวน้ำหอมเอาไปทำอะไรได้บ้าง "ไม่อย่างนั้นก็ตื่นมาเอาน้ำมะพร้าวน้ำหอมล้างหน้า” เล่นเอาชาวบ้านสะดุ้งโหยง เพราะไหงท่านนายกฯ เล่นเป็นลางอย่างนี้

นอกจากนี้ นายกฯ ยังสวมวิญญาณ “ไอ้หนุ่มลูกทุ่ง” พายเรือชมนาบัวด้วยตัวเอง  แรกๆ ผู้จัดงานหรือกองเชียร์ก็หวั่นๆ ว่าจะพายเป็นหรือ แต่พอเห็นท่วงท่าแล้ว “มืออาชีพ” บอกว่าอย่างนี้พายเป็นแน่นอน ซึ่ง “ลุงตู่” ก็แจกแจงว่า “พายเองได้ บ้านติดคลองเคยพายมาก่อน”

คิกออฟไทยนิยมยั่งยืน :  “บิ๊กตู่”ส่งสัญญาณแบบไหนที่อยากได้

และครัั้งนี้เองที่น่าจะเป็นทริปที่นายกฯ อิ่มที่สุด เพราะได้ชิมอาหารและผลไม้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชมพู่น้ำดอกไม้หรือชมพู่น้ำตาลทราย ซึ่งเป็นผลไม้พื้นบ้าน สับปะรด เกี๊ยวน้ำจิ้มซีฟู้ด ทอดมันปลากราย และอาหารอีกหลายๆ ชนิด ก่อนจะรับประทานอาหารกลางวัน

แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นไปเสียทั้งหมด เพราะมีเรื่องผิดคิวเช่นกัน โดยระหว่างเยี่ยมชม “นาโยน”  ซึ่งใช้วิธีโยนกล้าข้าวลงท้องนาแทนการปักดำ   “นายกฯ” ก็ได้ทดลองโยนกล้าข้าวด้วยตัวเอง จังหวะนั้นเองที่ “กฤษฎา บุญราช” รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เข้ามาร่วมวงโยนกล้าข้าวด้วย

แต่ด้วยความที่เป็นมือใหม่  และลมไม่เป็นใจ ทำให้กล้าข้าวที่หลุดจากมือ “ทั่นกฤษฎา” ไม่ลอยลงไปที่ท้องนา แต่กลับหวนมาตกที่ศีรษะ “ทั่นประยุทธ์” คนอยู่ในเหตุการณ์จะขำก็ขำไม่ออก ยังดีที่ “นายกฯ” หัวเราะออกมาก่อน บรรยากาศจึงคลี่คลาย

คิกออฟไทยนิยมยั่งยืน :  “บิ๊กตู่”ส่งสัญญาณแบบไหนที่อยากได้

นี่ถ้านายกฯ ไม่ขำด้วย หลายคนบอกว่ากลับมาอาจเห็น ครม. “ปรับเล็ก” ก็ได้

ถึงตอนนี้เมื่อนายกฯ ลงเปิดโครงการ “ไทยนิยม” ด้วยตัวเอง และส่งสัญญาณชัดเจนว่าต้องการอะไร เชื่อขนมกินได้เลยว่าทุกองคาพยพของรัฐจะขยับไปตามๆ กัน และจะทำทุกทางเพื่อนำไปสู่เป้าหมายปลายทาง ปฏิบัติการครั้งนี้บอกได้เลย “เล็งผลเลิศ” แน่นอน

----———

อรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ