คอลัมนิสต์

ไม่มีที่ยืน“เปรมชัย กรรณสูต”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังจาก"เปรมชัย"ถูกจับที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯทั้งกระแสสังคม,ทั้งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ,ทั้งคดีความ สารพัดถาโถมเข้าใส่ ทำให้“เปรมชัย” แทบไม่มีพื้นที่ให้ยืน

            “เปรมชัย กรรณสูต” ชื่อนี้ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีใครรู้จัก นอกจากคนในวงการรับเหมาก่อสร้าง-สัมปทาน แต่ตอนนี้คนพารู้จักกันทั่วแต่ในแง่ลบ เมื่อเขาถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ที่ห้วยปะชิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

             ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากที่ข่าวแพร่สะพัดออกไป จากคนที่เคยเป็นถึงระดับชนชั้นนำในวงการธุรกิจเป็นถึงประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ในวงการก่อสร้าง ที่มีงานอยู่ในมือนับแสนล้านบาท กลายเป็นคนที่ถูกสังคมประณาม เกียรติยศ ชื่อเสียง ที่เคยสร้างสมมาหายไปในบัดดล แม้ว่าในทางคดีจะยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเขากระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา โดยเขาปฏิเสธทุกข้อหาก็ตาม

           เพราะว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเสมอมา สาธารณชนรู้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะได้รับการปกป้องและอนุรักษ์ให้ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าให้คงไว้และได้รับการปกป้องและอนุรักษ์จนถือเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดและมีสัตว์ป่าหายากหลากหลายชนิดมาอยู่รวมกันมากที่สุด ดังนั้นการที่“เปรมชัย”กับพวก ถูกจับโดยถูกกล่าวหาว่า ล่าสัตว์ป่า ณ ที่แห่งนี้ จึงยากที่ใครจะยอมรับได้

           ไม่มีที่ยืน“เปรมชัย กรรณสูต”

           สำหรับการนิยมล่าสัตว์นั้น มีความรุนแรงตั้งแต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2482- พ.ศ. 2488) ยุติลง โดยอาวุธที่เคยถูกใช้ในการรบ ถูกนำมาเลหลังขายกันในราคาถูกๆ และถูกนำมาใช้ยิงสัตว์ป่านานาชนิด

            ยิ่งกว่านั้นการล่าสัตว์ในตอนหลังยังร้ายแรงขึ้นจนถึงกับเป็นการแข่งขันกันทำลาย เอาจำนวนสัตว์ที่ยิงได้ในวันหนึ่ง ๆ มาอวดคุยกัน แล้วยึดถือกันว่าเป็นสถิติความเก่งกล้าของตน สัตว์ป่าจึงถูกทำลายหนักขึ้นกว่าเดิม

           จากวิกฤติที่เกิดขึ้น ต่อมาในปี 2503 ในยุคสมัยของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี ได้มีการออกกฎหมายคือ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 และได้ใช้มาเป็นเวลา 32 ปี ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นฉบับที่มีผลบังคับใช้มาจนถึงปัจจุบัน

            อย่างไรก็ตามปัญหาการล่าสัตว์ป่าก็ไม่ได้หมดสิ้นไป จากข้อมูลของสำนักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2552 -2559 เฉพาะคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่า พบทำผิด 4,665 คดี ผู้กระทำผิด 5,428 คน ยึดสัตว์ป่าของกลางได้ทั้งหมด 106,988 ตัว 

         หมายความว่าภายในช่วง 8 ปี เขตอุทยานแห่งชาติทั่วไทย มีสัตว์ป่าถูกลักลอบไล่ล่าไปแล้ว 1 แสนกว่าตัว

             ไม่มีที่ยืน“เปรมชัย กรรณสูต”

          สำหรับ”เปรมชัย” นั้น หลังจากเกิดเรื่องขึ้น นอกจากเขาจะถูกกระแสสังคมกระหน่ำอย่างหนักแล้ว ในส่วนของธุรกิจก็ได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับบริษัทก็ตาม

        เพราะว่า “ เปรมชัย “ มีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็น”เบอร์หนึ่ง” ของบริษัทฯ และที่ผ่านมาการดำเนินกิจการของ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ที่เติบโต เจริญก้าวหน้ามาตามลำดับ ก็ล้วนแต่พึ่งพา” เปรมชัย” เป็นหลัก

         ดังนั้นการที่เขาต้องมาถูกดำเนินคดีในข้อหาล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฯ ซึ่งน่าจะส่งผลต่อตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ แต่การที่บริษัทฯจะหาคนมานั่งในตำแหน่งประธานบริหาร บริษัทฯ แทนเขา ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

           ไม่มีที่ยืน“เปรมชัย กรรณสูต”

         นอกจากนั้น จากการที่เขาถูกจับที่ทุ่งใหญ่นเรศวร ทำให้เขาต้องเผชิญกับ”คดีความ” หลายข้อหา

        6 ข้อหา ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 , 1 ข้อหา พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507, 1 ข้อหา กฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 พ.ศ.2538 , 1 ข้อหา พ.ร.บ. อาวุธปืน พ.ศ. 2490 , 1 ข้อหา พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 รวมถึง 10 ข้อหา

        และยังมี”ผลพวง”ที่เกี่ยวเนื่องตามมา ข้อหาพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ ,มีการยึดงาช้างและอาวุธปืนที่บ้านของเขาไปตรวจสอบว่าผิดกฎหมายหรือไม่ และเคยก่อเหตุที่ไหนมาก่อนหรือไม่

         มีการแจ้งความดำเนินคดี บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งมี“เปรมชัย”เป็นกรรมการและพี่สาว 3 คน ว่าครอบครองที่ดินโดยมิชอบและบุกรุกป่า อ.ภูเรือ จ.เลย นอกจากนี้กรมป่าไม้กำลังตรวจสอบว่า มีรีสอร์ต บ้านพักบุกรุกป่าในพื้นที่อื่นด้วยหรือไม่

          ส่วนปืนไรเฟิล ที่ยึดได้ที่บ้าน “เปรมชัย ”นอกจากตรวจสอบว่าผิดกฎหมายแล้วหรือไม่  กองพิสูจน์หลักฐานได้นำลูกกระสุนปืนไรเฟิลที่ตรวจยึดได้ไปตรวจเทียบเคียงกับหัวกระสุนปืนไรเฟิลที่พบในซากช้างป่าที่ถูกยิงบริเวณอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อประมาณ3-4 ปีก่อน ว่าเป็นกระบอกเดียวกันหรือไม่ ซึ่งถ้าบานปลายไปถึงเรื่องยิงช้างป่า “ เปรมชัย” รับเละอีกแน่

        ทั้งกระแสสังคม,ทั้งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ,ทั้งคดีความ สารพัดถาโถมเข้าใส่ ทำให้“เปรมชัย” แทบไม่มีพื้นที่ให้ยืน

         อย่างไรก็ตามต้องติดตามชนิด“เกาะติด”ต่อไปโดยเฉพาะ“คดีความ” ที่ผู้คนเริ่มเป็นห่วงว่า เมื่อนานวันไปอาจเกิดการพลิกผันขึ้นได้เหมือนกับคดีดังหลายคดีในอดีต

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ