“สุดารัตน์-ประยุทธ์” คู่ชิง ??

 

               การเมืองวันนี้เดินหน้ากันเต็มสูบ ทั้งฝ่าย คสช. และฝ่ายนักการเมือง 

               สำหรับ “บิ๊กตู่” แม้วันนี้แม้ยังไม่ประกาศชัดๆ ว่าจะกลับมาเป็นนายกฯ อีก แต่อาการเหนียมๆ ปฏิเสธๆ ก็น้อยลงไป ล่าสุด “นายกฯ ลุงตู่” ใช้เวทีวันเด็กย้ำเรื่อง “ประชาธิปไตยแบบไทยๆ” อีกครั้ง

              "ขอให้เด็กไทยทำตามหน้าที่ และยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และดำรงความเป็นไทยให้คงอยู่ตลอดไป เราจะต้องมีประชาธิปไตยแบบไทยนิยม ที่เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ เหมาะสมกับประเทศไทย บางอย่างเราต้องยอมรับต้องมีการพัฒนาทุกอย่าง โดยไม่ต้องผิดกติกาของคนอื่น"

               ผู้ที่ติดตามการเมืองคงจำกันได้ว่าคำนี้เกิดมาตั้งแต่ช่วงที่ คสช.เข้ามาใหม่ๆ จากนั้นเราก็ได้เห็นกฎกติกา “แบบไทยๆ” คลอดออกมาอยู่เรื่อยๆ 

               โดยเฉพาะที่บรรจุไว้ใน “บทเฉพาะกาล” ของรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับเรื่องการเลือกนายกฯ หลังเลือกตั้ง ที่ถูกมองว่าเขียนล็อกไว้หลายชั้นเพื่อให้มั่นใจว่าการเข้ามาของทหารในครั้งนี้จะ “ไม่เสียของ” ซึ่งในนาทีนี้น่าจะหมายถึง “บิ๊กตู่” ได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง

               ตอนนี้ก็ต้องบอกว่า “บิ๊กตู่” มีโปรแกรมเดินสายเรียกคะแนนจากชาวบ้านถี่ยิบ สัปดาห์นี้ วันที่ 17 มกราคม มีคิวลงพื้นที่ไปแก้ปัญหาความยากจน ที่ “แม่ฮ่องสอน”

               นั่นคือด้านหนึ่ง

               อีกด้านหนึ่ง คือ ความเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองที่ต้องบอกว่าวันนี้เดินหน้ากันเต็มสูบแล้ว โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ก่อนหน้านี้ยังเก็บเนื้อเก็บตัว ตอนนี้เริ่มขยับมากขึ้น หลายกิจกรรมแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่ประกาศให้สาธารณะรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวเหล่านั้น  

               ไม่ว่าจะเป็นการจัดอีเว้นท์ให้ ส.ส.อีสาน ที่นำโดยอดีต ส.ส. “รุ่นเก่า” อย่าง “หัวเขียง” ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ของพรรคออกโรงเดินสายอวยพรปีใหม่ที่แทบจะเรียกได้ว่าตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตั้งแต่หัวหน้าพรรค ไปจนถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคอย่าง “พ่อใหญ่จิ๋ว” และ “ป๋าเหนาะ” ซึ่งนัยสำคัญของกิจกรรมวันนั้น น่าจะอยู่ที่การที่อดีต ส.ส.อีสานของพรรคประกาศว่าจะไม่ไปไหน “จะยอมตายอยู่กับพรรค” 

               จุดสำคัญ คือ ความเคลื่อนไหวของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ผู้ที่คาดหมายว่า “นายใหญ่” วางตัวให้เป็น “แม่ทัพ” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

               ล่าสุด “คุณหญิงหน่อย” ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับ “บิ๊กตู่” ว่า คงไม่ต้องการลงเลือกตั้ง เพราะรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกปิดทางให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ โดย พล.อ.ประยุทธ์อาจเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ โดยการโหวตในรัฐสภา ด้วยกลไกของ สมาชิกวุฒิสภา 250 คน และพรรคการเมืองหลายพรรคที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินสายพบปะไว้ก่อนหน้านี้ 

               นอกจากนี้ “คุณหญิงหน่อย” ยังบอกให้นักการเมืองร่วมมือกันก่อนเลือกตั้ง และเมื่อมีการเลือกตั้งแล้วแต่ละพรรคควรแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย กับการเข้าสู่การเสนอชื่อนายกฯ คนนอก เพราะจะทำให้ระบบพัง โดยพรรคเพื่อไทยจะแสดงจุดยืน ไม่เห็นด้วยกับนายกฯ คนนอก

               นับเป็นครั้งแรกที่ “คุณหญิงสุดารัตน์” เล่นบทหนัก ออกโรงต้าน “ประยุทธ์”

               ก่อนหน้านี้ที่มีการเสนอให้ 2 พรรคใหญ่ "เพื่อไทย - ประชาธิปัตย์" จับมือกันเพื่อสู้ฝ่ายทหาร เธอยังตอบกั๊กๆ ว่า “เป็นเรื่องของอนาคตหลังเลือกตั้ง” ต่างจากครั้งนี้ที่บอกว่า “นักการเมืองควรร่วมมือกันก่อนเลือกตั้ง”

               ถามว่าอะไรทำให้ “สุดารัตน์” ต้องเปลี่ยนบท จากที่เคยเล่นบทนิ่มๆ มาเป็นเล่นบทกร้าว

               คำตอบก็น่าจะเป็นเพราะ พรรคเพื่อไทยประเมินสถานการณ์แล้ว ตอนนี้ถึงเวลาออกศึกแล้ว และที่สำคัญการออกศึกครั้งนี้ คู่แข่งของพรรคไม่ใช่พรรคการเมืองธรรมดา แต่เป็น “พรรคฝ่ายทหาร” 

               เดิมพันการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ ไม่ได้อยู่แค่ “ชนะเลือกตั้ง” เท่านั้น ด้วย “เงื่อนไข” ในรัฐธรรมนูญที่เหมือนเปิดทางให้มี “นายกฯ นอกบัญชีพรรคการเมือง” หรือที่เรียกกันว่า “นายกฯ คนนอก” การที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้จะต้องชนะเข้ามาแบบ “แลนด์สไลด์” เท่านั้น  คือ ต้องให้ได้เกินครึ่ง หรือถ้าขาดก็เล็กน้อย 

               มองข้ามช็อตไปถึงรัฐบาลหลังเลือกตั้ง  2 ขั้วที่จะแข่งกันตั้งรัฐบาล น่าจะเป็นฝ่ายหนุน พล.อ.ประยุทธ์ กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยจะยังไม่มีพันธมิตรทางการเมืองเลย ต่างจากอีกฝ่าย ที่ตอนนี้มีหลายพรรคหลายกลุ่มอยากจะไปเป็นพันธมิตร

               ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องเล่นบท “หาพวก” ประกาศให้พรรคการเมืองร่วมมือกัน ประมาณว่าให้พรรคการเมืองมาอยู่ฝ่ายเดียวกัน เพื่อสกัดนายกฯ คนนอก 

               ที่สำคัญมันคือการแสดงจุดยืนทางการเมือง ที่พรรคเพื่อไทยก็ต้องบอกว่าเขาคือ "ฝ่ายประชาธิปไตย" และประกาศต่อต้าน "นายกฯคนนอก"

               จุดนี้น่าจะเป็น “จุดขาย” นำหาเสียงในการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยด้วย 

               และเนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนแปลงใดๆ มาจาก “นายใหญ่” เกี่ยวกับตัว "ผู้นำ" ของพรรค

               มองข้ามช็อต สุดท้ายน่าจะเป็น “บิ๊กตู่” กับ “คุณหญิงหน่อย” นี่แหละ ที่จะขับเคี่ยวชิงเก้าอี้นายกฯ สมัยหน้า !!

 

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์ คมชัดลึกออนไลน์