อภินิหาร  “บัตรคนจน” ประชานิยม 4.0

             "หากจะเล่นเกมซื้อ จะแพ้พรรคที่ยิงแม่นและยิงเป้าไม่กี่ตัว แต่เกมที่ทำงานให้ประชาชน สร้างศรัทธาโดยไม่ซื้อคือเกมที่เราจะชนะถล่มทลาย"

             นี่คือคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่กล่าวย้ำกับแกนนำพรรคไทยรักไทย ก่อนการเลือกตั้งปี 2548 โดยทักษิณย้ำว่า “ประชานิยม” คือเกมที่พรรคจะชนะถล่มทลาย

             พูดกันแบบไม่อ้อมค้อม คณะรัฐประหาร 2549 และคณะรัฐประหาร 2557 ดำรงจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ทำยังไงจะลบล้างมนตราประชานิยมได้เสียที? หากทำสำเร็จ “ผีทักษิณ” ก็จะไม่ได้ผุดได้เกิดเสียที

             ในที่สุด คณะทหาร “คสช.” ตัดสินใจเลือก “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” อดีตนักคิดนักขายประจำพรรคไทยรักไทย มารับบท “เกจิดิจิตอล” ปลุกเสกประชานิยมใหม่ในคราบ “ประชารัฐ”

             โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือ “บัตรคนจน” เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายประชารัฐ ที่เริ่มเห็นผลบ้างแล้ว

             วันก่อน มีข่าวเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง "คนจนได้เฮ! ฮือฮาทั่วเมืองกาฬสินธุ์ หลังคลังประกาศผลผู้โชคดีจากการจับรางวัลรูดลุ้นเงินล้าน" หลายคนอาจงุนงง เพราะไม่ทราบที่มาที่ไปมากนัก  

             เดิมทีกระทรวงการคลัง มอบโชคเงินล้านในโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิต เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนและผู้ประกอบการลดใช้เงินสดและปรับพฤติกรรมหันมาใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ในการชำระสินค้าและบริการ

             ต่อมา ในการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตประจำเดือนธันวาคม 2560 ทางกระทรวงการคลังได้ขยายสิทธิ์เป็นครั้งแรกไปถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 11.4 ล้านคน ให้สามารถลุ้นโชคได้โดยการใช้จ่ายผ่านบัตร 1 ครั้ง เท่ากับ 1 สิทธิ์ สำหรับผู้ที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบการเกษตร (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในสวัสดิการเดินทางผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) 

             ปรากฏว่า ผู้โชคดีคนแรกคือ นางเหน็ง คำจำรัส เป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลที่ 1 มูลค่า 1,000,000 บาท ในส่วนของร้านค้าที่ได้รับรางวัลที่ 1 มูลค่า 1,000,000 บาท คือร้าน นางสมคิด แก่นนอก ซึ่งเป็นร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

             ทันทีที่คลังจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับการประสานจากกระทรวงการคลังว่า มีผู้ใช้บัตรคนจนชาวกาฬสินธุ์ ได้รับรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จึงเดินทางไปพบ นางเหน็ง คำจำรัส อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่ 2 ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

             นางเหน็ง กล่าวว่า ไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะเป็นผู้โชคดีได้รับเงินรางวัลดังกล่าว ก่อนหน้านั้น นางเหน็งเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ และพี่น้องรวม 9 คน จนพ่อแม่เสียชีวิตหมดจึงครองตนเป็นโสด ไม่เคยแต่งงาน อาศัยอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ก็คอยเลี้ยงหลาน เลี้ยงเหลน เพราะกลางวันน้องๆและหลาน ก็จะออกไปทำนา ไปหาทำงาน ขณะที่รายได้ส่วนหนึ่ง ก็ได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท ก็พอเป็นค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟพอดี

             นางเหน็งกล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จัดทำโครงการบัตรคนจน โดยตนได้รับเดือนละ 300 บาท ซึ่งได้นำไปรูดเพื่อแลกสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นในการดำรงชีวิตเช่น ปลากระป๋อง น้ำปลา ผงชูรส ผงซักผ้า พอช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้เป็นอย่างดี จึงอยากให้รัฐบาลจัดโครงการดีๆอย่างนี้ตลอดไป

             "ต้องขอขอบคุณที่แจกบัตรคนจน" นางเหน็งกล่าวย้ำ

             โครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิต มีกำหนดการแจกโชคทุกเดือนเป็นระยะเวลา 1 ปี (เดือนมิถุนายน 2560 ถึงเดือนพฤษภาคม 2561) รวมเงินรางวัล 84 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

             ต้องให้เครดิตผู้ที่ตัดสินใจขยายการรับรางวัลไปถึงกลุ่มบัตรคนจน และปีหน้า “แม่ทัพสมคิด” ยังมีแผนหมุนเงินไปสู่เศรษฐกิจฐานรากมากขึ้น อะไรจะเกิดขึ้น หากไม่ใช่ “มนตราประชารัฐ”

             นี่แหละที่ทำให้พรรคการเมืองใหญ่รู้สึกหวั่นสะทกอกสะท้าน ถึงกับชิงออกมาเล่นเกมเตะตัดขาแม่ทัพประชารัฐ