คอลัมนิสต์

เปิดปมศึก “ลูกประดู่” : เมื่อ “พลเรือตรี” เหยียบรัง RECON

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกิดอะไรขึ้นเมื่อรัง RECON หน่วยรบที่ขึ้นชื่อที่สุดของไทย ถูก "พลเรือตรี" บุกเหยียบถึงถิ่น อะไรเป็นมูลเหตุจูงใจ และเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป

หากพูดถึงหลักสูตร “รบพิเศษ” ของแต่ละเหล่าทัพ “RECON” หรือ หลักสูตรการรบพิเศษแขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจม นาวิกโยธิน ถือว่าติดระดับท็อปของหลักสูตรสุดโหด และขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพของเหล่านักเรียนที่จบมา จนหลักสูตรนี้กลายเป็นตำนาน

 

หลายคนอาจรู้จัก SEAL ของ “กองทัพเรือ” และสัปดาห์นรก แต่กับหลักสูตร “RECON” ว่ากันว่า “นรกทุกสัปดาห์”

 

แต่แล้วจู่ๆก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นว่าเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ บ้านของหน่วยเองเมื่อ เกิดเหตุ นายพลทหารเรือผู้หนึ่ง ทราบชื่อในภายหลังว่า “พล.ร.ต.เบญจพร บวรสุวรรณ” ได้เดินทางไปพบครูฝึกหลักสูตร ดังกล่าว ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมทั้งทำลายสิ่งของ และแท่นรับการเคารพของครูฝึก โดยแสดงความไม่พอใจที่ นักเรียนรบพิเศษ “หมายเลข 78” เรือตรี ตถาพร บวรสุวรรณ ซึ่งเป็นบุตรชาย ต้องพ้นสภาพการเป็นนักเรียนหลักสูตรรีคอน เพราะเกิดปัญหาได้รับบาดเจ็บระหว่างการฝึกจนไม่สามารถฝึกต่อตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้

รายงานข่าวระบุว่า พล.ร.จ.เบญจพร ได้ชิงอาวุธปืนเอ็ม 16 ของหน่วยไปด้วย แต่สุดท้ายเรื่องราวก็สงบลง  ท่ามกลางคำถามว่าเกิดอะไรขึ้่น 

ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ค “ปฐม.กาล.” (https://www.facebook.com/profile.php?id=100022106732863)  ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “คนที่ป่วยในภาพนี้ คือเรือตรี ตถาพร บวรสุวรรณ ร.น. เข้าฝึก ”หลักสูตรรบพิเศษรีคอน“ ของ กองทัพเรือ. ถูกครูฝึกลงโทษ กระทืบจนกระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่ และเฆี่ยนด้วยหวายจนหลังเละ ดังในภาพที่ท่านเห็นนะครับ. ผมไม่ฝากกับผู้บังคับบัญชา ผบ.ทร.นะครับ แต่ขอฝากไว้กับประชาชนคนไทยทุกคน เพราะ วันหน้าอาจเป็นลูกหลานของท่าน วันนี้เป็นหลานของผม นะครับ การฝึก ดี แต่ฝึกให้เขามีความรู้มีความอดทน มีความสามารถนำความรู้ไปสู้รบป้องกันประเทศได้ แต่ไม่ใช่ทำร้ายร่างกายกันเช่นนี้เพราะมันผิดกฎหมาย และเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย และศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ กองทัพ ไทยยังทำกันแบบนี้อีกหรือครับ ขอให้พี่น้องชาวไทย ติดตามเรื่องนี้นะครับ คิดว่าคงไม่จบง่ายๆ เพราะประเทศควรได้รับการเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดี ทุกๆด้าน เพื่อ ประเทศชาติของเราและลูกหลานของเรา นะครับ.”

เปิดปมศึก “ลูกประดู่” : เมื่อ “พลเรือตรี” เหยียบรัง  RECON

 

นอกจากนี้เฟซบุ๊คของ “อุดร บวรสุวรรณ”  (https://www.facebook.com/profile.php?id=100002569337240) ซึ่งเป็นลุงของ ร.ต.ตถาพร โพสต์ข้อความในวันเดียวกัน ระบุว่า “ขอแสดงความเสียใจ กับเรือตรี โบกัส บวรสุวรรณที่ประสบอุบัติเหตุ การฝึก ซีคอน ขอให้หลานชายจงหายเร็ววัน แต่จากความรู้สึก ของลุงอุบัติเหตุ เกิดจาก ซี่โครง ไปกระแทกกับหนังควาย ที่หุ้มตีน ผู้ฝึกมากกว่า เรื่องนี้คิดว่า คงไม่จบ แค่ซี่โครงหัก ขอรับ”

เปิดปมศึก “ลูกประดู่” : เมื่อ “พลเรือตรี” เหยียบรัง  RECON

ขณะที่ข้อมูลอีกด้าน โดยเฟซบุ๊คแผนกวิชาการรบพิเศษ ชี้แจงเพิ่มเติมต่อกรณีดังกล่าวว่า ตามที่มีการกล่าวหาว่า สาเหตุที่ ร.ต.ตถาพร บวรสุวรรณ รน. สาเหตุที่ออกจากการฝึกว่าไม่ได้รับการบาดเจ็บจริง ทางแผนกวิชาการรบพิเศษ ขอชี้แจง ดังนี้

1. ได้รับการรักษาตัวที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.60 โดยมีอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้าย แพทย์ลงความเห็นว่ากล้ามเนื้อกระดูกซี่โครงอักเสบ และ นพ.เห็นว่าสามารถเข้ารับการฝึกต่อได้ และได้กลับเข้ามารับการฝึก จนกระทั่งถึงปัญหาต่อเนื่อง 60 ชม.

2. ในระหว่างการฝึกปัญหาต่อเนื่อง 60 ชม. ร.ต.ตถาพร บวรสุวรรณ รน. ได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งที่ 2 ทางหลักสูตรได้ส่งตัวเข้าทำการรักษาพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่า กระดูกซี่โครง ซี่ที่ 7-8 ขวาหัก และมีภาวะเป็นลมแดด กล้ามเนื้ออักเสบ ขณะปฏิบัติการฝึก จึงไม่สามารถเข้ารับการฝึกต่อไปได้

จึงแจ้งมาเพื่อทราบ

 

และได้โพสต์ ภาพใบรับรองแพทย์จาก รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ด้วย

เปิดปมศึก “ลูกประดู่” : เมื่อ “พลเรือตรี” เหยียบรัง  RECON

เปิดปมศึก “ลูกประดู่” : เมื่อ “พลเรือตรี” เหยียบรัง  RECON

ทั้งนี้มีรายงานว่า “พล.ร.ต.เบญจพร” มีความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงกระทำการดังกล่าว และมีรายงานด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะมากกว่าที่รายงานเป็นข่าวออกไปเบื้องต้น 

อย่างไรก็ตามภายหลังเหตุการณ์ “พล.ร.ท.รัตนะ วงษาโรจน์” ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (ผบ.นย.)ระบุว่าศูนย์ฝึกฯได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกรณีมีการทำลายข้าวของและชิงเอาอาวุธปืนไป แล้ว และหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ปรับปรุงการฝึกหลักสูตรรีคอน พร้อมให้ขวัญกำลังใจแก่ทหารทุกนายอย่างเต็มที่

ขณะที่ “พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ” ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)  ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น “ตท.16” กับ “พล.ร.ต.เบญจพร”  เปิดเผยว่ารับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว พร้อมสั่งการให้หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย. )รายงานข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งฟังข้อมูลจากผู้เข้ารับการฝึก เพื่อดำเนินการให้เกิดความยุติธรรมต่อไป

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ อดีตนักเรียนหลักสูตร RECON ไม่พอใจเป็นอย่างมากได้ร่วมพบปะและให้กำลังใจครูฝึกหลักสูตรรีคอน และพร้อมใจกันกล่าวทบทวนคำปฏิญาณว่า จะยืนหยัดทำหน้าที่และรักษามาตรฐานการฝึก 

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ “พล.ร.ต.เบญจพร” เป็นข่าว  เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2558  มีพลทหารเรือนายหนึ่งเดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล พร้อมโซ่มัดที่เองขณะที่ปลายอีกด้านล่ามไว้กับยางรถยนต์ ทราบต่อมาว่าชื่อ “เอนก พลทองวิจิตร”   โดยระบุว่าได้ถูกต้นสังกัดส่งตัวมาช่วยทำงานบ้านให้กับ “พล.ร.ต.เบญจพร” แต่ถูกมอบหมายงานไม้ซึ่งเป็นงานที่ไม่มีความชำนาญ จึงถูก “พล.ร.ต.เบญจพร” นำโซ่มาผูกเอวเข้ากับยางล้อรถยนต์ได้รับความทรมานร่างกายและจิตใจจนทนไม่ไหวและต้องหลบหนีออกมาจากบ้านพักเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2558

โดยขาได้ให้การกับตำรวจในวันที่ 21 ส.ค. 2558 ว่า เขาถูกส่งมาช่วยงานตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 2558 แรก ๆ ก็ถูกต่อว่าและทำร้ายร่างกายบ้าง  จนกระทั่ง วันที่ 19 ส.ค. 2558 ถูก พล.ร.ต.เบญจพร ใช้รองเท้าแตะแบบหนัง ตบที่หน้า จากนั้นสั่งให้อาโซ่มาล่ามตัวเองไว้กับยางรถยนต์  วันรุ่งขึ้นจึงแบกยางพร้อมโซ่หนีออกมา และไปร้องทุกข์ที่ทำเนียบรัฐบาล

ขณะที่ “พล.ร.ต. เบญจพร” ก้ได้แจ้งความ “เอนก” กลับ โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์และทำอนาจาร แต่ทนายก็ปฏิเสธข้อหาดังกล่าว

เปิดปมศึก “ลูกประดู่” : เมื่อ “พลเรือตรี” เหยียบรัง  RECON

ต่อมาเมื่อ 30 มิ.ย. 2559 นายเอนก ก็เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์บริการประชาชน ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งว่าคดีไม่คืบหน้า จนเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2559 ศาลแขวงนครปฐมนัดไกล่เกลี่ยแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะผู้เสียหายไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะให้ฝ่ายจำเลยชดใช้ค่าเสียอย่างไร  ทั้งนี้ข้อหาที่ได้แจ้งความไว้เบื้องต้นนั้นมี 3 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้สูญเสียอิสรภาพ, หมิ่นประมาท, และข่มขืนใจผู้อื่น แต่พนักงานอัยการฯ สั่งไม่ฟ้องในข้อหากักขังหน่วง คงฟ้องแค่ข่มขืนใจและทำร้ายร่างกาย  และขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุด

--------

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ