คอลัมนิสต์

เปิดคำวินิจฉัย“ชีพ จุลมนต์”จำคุก“ยิ่งลักษณ์”6 ปี คดีจำนำข้าว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดคำวินิจฉัย"ชีพ จุลมนต์" จำคุก น.ส. ยิ่งลักษณ์ 6 ปี ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเอื้อประโยชน์ให้กับนายบุญทรงและพวก แสวงหาประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าว

           เว็บไซต์ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นำความเห็นในการวินิจฉัยคดีของ “ชีพ จุลมนต์” ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดีจำนำข้าวที่มี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย มาเผยแพร่ โดยคำวินิจฉัยมีความยาว 93 หน้า  โดยมีประเด็นคำวินิจฉัย ดังนี้ 

         ประเด็นแรก โจทก์มีอำนาจฟ้อง

         จำเลยให้การต่อสู้ว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกเป็นนโยบายของรัฐบาล และเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจไต่สวนจำเลยฐานะนายกรัฐมนตรี ในการใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินในฐานะฝ่ายบริหารและไม่อาจดำเนินคดีแก่จำเลยโดยลำพัง 

         เห็นว่า กรณีนี้เป็นการกล่าวหาจำเลยซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ คดีจึงอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในการไต่สวนข้อเท็จจริง

        ประเด็นที่สอง คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ

      จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ฟ้องคดี เกินกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. คดีจึงขาดอายุความ

      เห็นว่า เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงมีอายุความ 15 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

      ประเด็นที่สาม  กระบวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชอบด้วยกฎหมาย

       จำเลยให้การต่อสู้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนคำร้องขอถอดถอนจำเลยออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว จะดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยอีกไม่ได้เนื่องจากขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

       เห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2550 มาตรา 270  ให้อำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวน ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ...ที่มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เมื่อไต่สวนแล้วเห็นว่าข้อกล่าวหามีมูล ให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ส่งรายงานเอกสารพร้อมทั้งความเห็นไปยังประธานวุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอน และยังกำหนดให้ส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป ไม่ใช่ว่าจำเลยถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วจะถูกดำเนินคดีอาญาต่อไปอีกไม่ได้ ข้อต่อสู้จำเลยจึงฟังไม่ขึ้น

       อีกทั้งคดีนี้คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนข้อไม่สมบูรณ์ตามความเห็นของอัยการสูงสุดโดยชอบแล้ว ต่อมาสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือ ให้จำเลยมารับทราบข้อกล่าวหา และจำเลยได้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วยวาจาต่อองค์คณะไต่สวน พร้อมยื่นหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วย จึงถือว่ากระบวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.  ชอบด้วยกฎหมายแล้ว 

       ประเด็นที่สี่ คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

      จำเลยต่อสู้ว่า การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเป็นการใช้อำนาจทางบริหารตามรัฐธรรมนูญและใช้ดุลยพินิจในทางการเมือง คดีจึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

       เห็นว่าตามคำฟ้องของโจทก์ เป็นการกล่าวหาว่าจำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ละเลยต่อหน้าที่ ไม่ได้ใช้ความระมัดระวัง ไม่รอบคอบ และไม่ทุ่มเทใส่ใจเป็นพิเศษในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก จนเกิดปัญหาทุจริตและเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่มุ่งถึงการกระทำของจำเลยในตำแหน่งหน้าที่เป็นการเฉพาะตัว ไม่ใช่เป็นการก้าวล่วงไปถึงการใช้อำนาจทางการบริหารงานราชการแผ่นดินหรือการใช้ดุลพินิจทางการเมืองของจำเลยแต่อย่างใด คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  ข้อต่อสู้ของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น 

       ประเด็นที่ห้า ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย

      จำเลยให้การต่อสู้ว่า คำฟ้องโจทก์ไม่ได้ระบุพยานหลักฐานและไม่ได้บรรยายายฟ้องว่ามีการโกงความชื้น โกงน้ำหนัก การสวมสิทธิ การสับเปลี่ยนข้าว เกิดขึ้นที่ใด และในขั้นตอนใดในโครงการรับจำนำข้าว รวมทั้งไม่ได้บรรยายฟ้องถึงพฤติการณ์การกระทำว่ามีผู้ใดกระทำความผิด

       เห็นว่า  ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำของจำเลย พฤติการณ์ที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิด และในวันพิจารณาคดีครั้งแรก ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธโดยไม่ได้แถลงต่อศาลว่าไม่เข้าใจคำฟ้องแต่อย่างใด ดังนั้นจำเลยจึงไม่อาจยกปัญหาเรื่องฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฟ้องเคลือบคลุมมาเป็นข้อต่อสู้คดีเพื่อให้ศาลพิพากษายกฟ้องได้อีก

      ประเด็นที่หก  จำเลยไม่ได้ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ฯกรณีการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวพบปัญหาทุจริตในขั้นตอนต่างๆ

      เห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนจะได้ความว่า การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวพบปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติและการรับรองเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ , ขั้นตอนการนำข้าวไปจำนำและเก็บรักษาข้าวเปลือก ,ขั้นตอนการสีแปรสภาพข้าวเปลือกและเก็บรักษาข้าวสาร, การสวมสิทธิชาวนา , การนำข้าวจากต่างประเทศมาสวมสิทธิจำนำ , ข้าวสูญหาย, การออกใบประทวนเท็จ ,การใช้อกสารปลอม,การขนข้าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ความเสียหายอันเกิดจากการทุจริตที่เกิดขึ้นในการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวแต่ละขั้นตอนนั้น เป็นกรณีการกระทำของเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติการ จำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรีและในฐานะประธานกรรมการ กขช. และอนุคณะกรรมการชุดต่างๆ ก็ได้ออกมาตรการเพื่อป้องกันความเสียหายอันเนื่องมาจากการดำเนินโครงการในแต่ละขั้นตอนได้อย่างสมเหตุสมผล จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริตหรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ

        ประเด็นที่เจ็ด   จำเลยละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้กับนายบุญทรงกับพวก แสวงหาผลประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าวในขั้นตอนการระบายข้าว

          เห็นว่า ความเสียหายอันเกิดขึ้นจากการทุจริตในขั้นตอนระบายข้าว โดยการสมอ้างทำสัญญาขายแบบรัฐต่อรัฐ นั้น ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยรับรู้การแจ้งเตือนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ,การตั้งกระทู้ถามสด, กระทู้ทั่วไป, การอภิปรายไม่ไว้วางใจ และข่าวสารจากสื่อมวลชน

          ยิ่งกว่านี้ก่อนเริ่มโครงการรับจำนำข้าว ทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือแจ้งเตือนและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการนำเอานโยบายรับจำนำข้าวไปดำเนินการปฏิบัตินั้น จะมีผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดินและการทุจริตในขั้นตอนต่างๆให้จำเลยทราบเป็นระยะๆ แต่จำเลยกลับไม่ได้ติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เห็นได้จากจำเลยในฐานะประธาน กขช. ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ กขช. ในการประชุมครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น แต่การประชุม กขช. อีก 22 ครั้ง จำเลยไม่ได้เข้าร่วมประชุม

          โดยเฉพาะขั้นตอนการระบายข้าวนั้น จำเลยในฐานะประธานกรรมการ กขช. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ พ.ต. วีระวุฒิหรือหมอโด่ง ซึ่งภายหลังถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 3 ในคดีระบายข้าวจีทูจี และหลบหนีคดีระหว่างพิจารณาคดีดังกล่าว เป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว, คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ,อนุกรรมการในคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว, คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าว ซึ่งคำสั่งแต่งตั้งให้ พ.ต.วีระวุฒิหรือหมอโด่ง เป็นคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ล้วนให้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวทั้งสิ้น

          และยังปรากฏจากการไต่สวนของ ป.ป.ช.ว่า หลังจากนายวรงค์  อภิปรายเรื่องการทุจริตการระบายข้าว ยังคงมีการส่งมอบข้าวตามสัญญาขายข้าวอีก 4 สัญญา  ซึ่งจำเลยมีเวลาเพียงพอที่จะระงับยับยั้งการส่งมอบข้าวตามสัญญาที่ยังไม่ได้ส่งมอบไว้ก่อนได้ แต่จำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลและประธานกรรมการ กขช. ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการควบคุมตรวจสอบกำกับดูแลการปฏิบัติตามนโยบาย วางมาตราการโครงการที่อนุมัติไปแล้ว ทั้งมีอำนาจสั่งการข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ในการกำกับดูแล การระงับยับยั้ง หรือแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการทุจริตในขั้นตอนการระบายข้าวแต่จำเลยกลับมีพฤติการณ์ในการละเว้นหน้าที่ตามกฎหมายส่อแสดงเจตนาออกโดยแจ้งชัดอันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายบุญทรงและพวก แสวงหาผลประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าวโดยการสมอ้างนำบริษัท กว่างตงและบริษัท ห่านหนาน เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด แล้วมีการหาประโยชน์ที่ทับซ้อนโดยทุจริตได้ข้าวส่วนต่างจากราคาข้าวตามสัญญาซื้อขาย 4 สัญญา อันเป็นการแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย  ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงิน การคลังของประเทศและเกิดผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดินโดยตรง อันถือได้ว่าเป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่

         ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงการคลัง ประเทศชาติ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 (เดิม) และ พ.ร.ป. ป.ป.ช.  พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ลงโทษตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ให้จำคุก 6 ปี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ