คอลัมนิสต์

พรรคประชารัฐ “สมคิด-คสช.” ล้มประชานิยมแม้ว?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พูดกันตรงๆ จะเอาชนะศึกเลือกตั้งได้ ต้องหาทางลบภาพ “ประชานิยมทักษิณ” ในใจชาวอีสานและเหนือให้ได้เสียก่อนใช่หรือไม่ งานนี้เลยต้องอัด "ประชารัฐ" เข้าไปหนักๆ!!

            สัปดาห์นี้ คอการเมืองสนใจกันแต่เรื่อง “พรรคทหาร” และนายกฯ ลุงตู่ ก็รับมุกออกแบบสอบถามมาเลย 6 ข้อ ไม่ต้องลับลวงพราง เล่นกันแบบบ้านบ้านนี่แหละ

            ส่วน “พรรคพลังชาติไทย” นั้น เลิกพูดไปได้เลย ไม่่ใช่พรรคการเมืองในฝันของนายกฯ ลุงตู่ แน่นอน หากเป็นเรื่องของคนร้อนวิชา อยากอาสาเข้ามาช่วยชาติบ้านเมือง แต่ดูรูปการเคลื่อนไหวแล้ว ไปต่อลำบาก

            ผู้ที่ถูกจับตามองในชั่วโมงนี้คือ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” กับยี่ห้อการเมือง “ประชารัฐ” ซึ่งเป็นประดิษฐกรรมเพื่อการตลาดการเมืองของ คสช.

            ต้องไม่ลืมว่า “สมคิด” เป็นหนึ่งในทีมงานเศรษฐกิจของพรรคไทยรักไทย และเป็นผู้นำ Political Marketing มาใช้ในการสร้างยี่ห้อการเมืองชื่อ “ประชานิยม” ไม่ว่าจะเป็นโครงการกองทุนหมู่บ้านละล้าน, 30 บาทรักษาได้ทุกโรค, โครงการบ้านเอื้ออาทร, โครงการธนาคารประชาชน ฯลฯ

            คอนเซ็ปท์ของการตลาดถูกนำมาใช้สมบูรณ์แบบเป็นครั้งแรก ท่ามกลางโครงสร้างพื้นฐานทางการเมืองแบบล้าหลัง หลายคนจึงประหลาดใจ เมื่อเห็นพรรคไทยรักไทย ได้ชัยชนะอย่างล้นหลาม

            ดังนั้น Political Marketing จึงถูกนำมาใช้อีกครั้งในรัฐบาลทหาร โดย “สมคิด” เป็นผู้วางยุทธศาสตร์ “ประชารัฐ” ดึงกลุ่มทุนมาทำงานร่วมกับ “พรรคข้าราชการ” เพื่อการเดินหน้าตามโรดแม็พ ยุทธศาสตร์ชาติ

            ปัญหาเฉพาะหน้าปัจจุบันเศรษฐกิจฐานรากยังเดินอย่างเชื่องช้า สวนทางกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวดีเกินคาด สาเหตุหนึ่งมาจากฟันเฟืองที่เข้าไปเป็นเครื่องยนต์หมุนเม็ดเงินสู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างโชห่วยถูกตัดขาด

            “สมคิด” จึงแก้เกมโดยดึงโชห่วยในประเทศไทยหลายแสนราย เข้ามาอยู่ในกงล้อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และภาครัฐใช้กลไกเข้าไปจัดการผ่านโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่มาคู่กันกับร้านค้าสวัสดิการคนจน โดยรัฐใส่เงินผ่านกลุ่มคนมีรายได้น้อยราว 11 .4 ล้านคน (ผู้ที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย) ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

            “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” กำลังจะกลายเป็น “บัตรเติมเงิน” นวัตกรรมการเงินผสมการเมืองที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง

            เบื้องต้น รัฐบาล คสช. ใส่เงินผ่านบัตรคนจน ผ่านโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ผู้มีรายได้น้อยซื้อสินค้ารวมเดือนละ 3,000 ล้านบาท หรือปีละ 4 หมื่นล้านบาท ในร้านสวัสดิการของรัฐ ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 2 หมื่นร้านโดยกำหนดให้มียอดเงินใช้จ่ายคนละ 200-300 บาทต่อเดือน ซึ่งในอนาคต ยอดเงินอาจเพิ่มมากกว่านี้

            ล่าสุด “สมคิด” สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เร่งจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 11 ล้านคน ระยะ 2 โดยให้เน้นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-60 ปี ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นสามารถพึ่งพาตัวเองได้ หลุดพ้นจากความยากจน

            พูดกันตรงๆ จะเอาชนะศึกเลือกตั้งได้ ต้องหาทางลบภาพ “ประชานิยมทักษิณ” ในใจชาวอีสานและเหนือให้ได้เสียก่อน ซึ่งเซียนการเมืองมองว่า ทางเดียวที่จะทำได้ก็ต้อง “หนามยอกเอาหนามบ่ง” คือนำเอาประชารัฐไปสู่ประชานิยม

            เหนืออื่นใด ประชารัฐไม่ได้มีแค่ “บัตรเติมเงิน” สำหรับคนจนเท่านั้น หากยังมี “ผู้ประสงค์จะเติมเงิน” (เจ้าสัวใหญ่) ให้นักเลือกตั้งอีก ตรงนี้แหละที่พรรคเพื่อไทยวันนี้ ไม่มี!!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ