การรอคอยแม้จะยาวนาน แต่ก็คุ้มค่า เมื่อได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพฯเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนจะถึงวันสุดท้ายของการสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ประชาชนหลั่งไหล เข้ามาอย่างมิขาดสายดุจสายน้ำโดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ยิ่งใกล้วันสุดท้ายคนยิ่งแน่น โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกออนไลน์ ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เดินทางเข้าไปสักการะพระบรมศพในครั้งนี้ เมื่อค่ำคืนวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา จึงนำบรรยากาศแห่งความประทับใจ มาถ่ายทอดให้ท่านผู้อ่านได้ร่วมรับทราบถึงปรากฏการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวของเราไปถึงบริเวณท้องสนามหลวงตอนประมาณสองทุ่มของคืนวันที่ 3 ต.ค. โดยมุ่งหน้าไปยังโรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นจุดคัดกรองที่ 1 แต่ก็ปรากฏว่าคิวยาวถึงสี่แยกคอกวัวและมีผู้รออยู่จำนวนมาก จึงตัดสินใจบ่ายหน้าไปทางแยกกรมอาสารักษาดินแดง ซึ่งเป็นจุดคัดกรองอีกหนึ่งแห่ง ที่ว่ากันว่ามีจำนวนผู้ที่รอน้อยกว่า แต่ก็ปรากฏว่าคิวด้านดังกล่าวไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเมื่อเราเข้าไปถึงหางแถวก็อยู่ที่ด้านหน้ากระทรวงมหาดไทย แต่ที่น่าตกใจมากกว่านั้นท้ายแถวที่เราต่อคิวนั้น เป็นแถวที่ทบกลับมาเป็นคำรบสอง และการรอคอยของเราได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 21.30 น.
โดยคิวได้ค่อยๆขยับไปเรื่อยจนมาถึงแยกอาสารักษาดินแดน จากนั้นก็เดินเลยไปถึงขอบรั้วพระราชวังด้านวัดโพธิ์ ก่อนที่จะเดินย้อนเลาะกำแพงมายังจุดเดิมที่เราเริ่มรอนั่นคือด้านหน้ากระทรวงมหาดไทย ซึ่งเวลาตอนนั้นเป็นเวลา 01.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค. จากนั้นก็ขยับมาเรื่อยๆ ทั้งนี้ระหว่างการรอก็มีผู้ที่เป็นลมเป็นระยะๆ แต่เจ้าหน้าที่จิตอาสาก็มาช่วยดูแลได้อย่างทันท่วงที
โดยระหว่างที่แถวหยุดนิ่งเพื่อรอให้ด้านในสำนักพระราชวังทำความสะอาด ประมาณหนึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นประชาชาก็นำเสื่อมาปูนอน โดยเฉพาะผู้ที่พาลูกหลานมาด้วย ต่างก็จัดหาพื้นที่อาศัยพื้นถนนต่างที่นอนงีบหลับเอาแรง เพื่อรอให้แถวเคลื่อนอีกครั้ง
น่าสังเกตว่าเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมจะเห็นผู้ปกครอง นักเรียนในเครื่องแบบนักเรียนมาร่วมกราบพระบรมศพด้วย ซึ่งเด็กหลายๆคนก็เล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน
ต้องบอกว่าระหว่างรอระหว่างเคลื่อนขบวนนั้น หากใครง่วงก็หลับพักผ่อน แต่หากใครไมง่วงก็มีวิธีแก้เบื่อโดยหยิบโทรศัพท์มาเล่น บ้างเล่นเกม บ้างดูยูทูป ทั้งนี้ตลอดการรอคอยก็จะมีเสียงประชาชนที่มาคอยซักถามกันว่า มาตั้งแต่กี่โมง เดินทางมาจากที่ไหน หากใครมียาดมยาหม่อง ก็แบ่งปันกัน
ประชาชนโดยมากแม้จะเหน็ดเหนื่อยเมี่อยล้าจากการรอคอยก็ไม่ย่อท้อ อาจจะมีบางคนที่ต้องกลับเพราะติดภารกิจในวันรุ่งขึ้น แต่ก็จากไปด้วยแววตาเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
บางคนมองเด็กและอาศัยเด็กเป็นแรงใจว่า เมื่อเหล่าหนูน้อยนั้นยังทนได้ ทำไมเราจะทนไม่ได้ และค่อยๆก้าวข้ามผ่านคืนไปพร้อมๆกัน
ส่วนใครที่หิวก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีจิตอาสาคอยนำน้ำ อาหาร ขนม มาแจกให้กับผูที่รอคอย แค่เพียงยกมือว่าต้องการ อาหารก็จะมาถึงในแถวแทบจะทันที
ส่วนห้องน้ำก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีรถสุขาจาก กทม. มาจอดบริการเป็นระยะ ซึ่งเมื่อจะออกไปเข้าห้องน้ำก็จะฝากเพื่อนเอาไว้และกลับเข้ามาในแถวอีกครั้งหนึ่ง
การเดินทางค่อยๆคืบคลานผ่านไป จนเวลาประมาณ 04.00 น. ก็มาถึงจุดคัดกรองที่แยกอาสารักษาดินแดง ซึ่งเมื่อผ่านเข้ามาก็เป็นเต๊นท์ทำให้บางคนอาศัยงีบเอาแรง จากนั้นแถวก็เคลื่อนสลับหยุดนิ่ง จนเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. จึงได้เข้ามาอยู่ที่เต๊นท์ด้านหน้ากระทรวงกลาโหม
ซึงถึงตอนนี้ได้มีการจัดแถวใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง จนเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ก็ได้มาถึงประตูด้านน้าพระบรมมหาราชวัง และเมื่อเข้าสู่พระบรมมหาราชวังก็จะมีการจัดแถวใหม่เป็นสองแถว และมีเจ้าหน้าที่คอยบอกให้แต่งกายให้เรียบร้อย ซึ่งประชาชนที่เข้าถึงบริเวณนี้ต่างก็มีอาการตื่นเต้นที่ผ่านการรอคอยอันแสนยาวนาน
เมื่อเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททุกคนก็อยู่ในอาการสงบ ไม่มีการพูดคุยเสียงดัง ซึ่งเมื่อก้มลงกราบ ต่างก็นั่งนิ่งพนมมือ และเก็บภาพความทรงจำครั้งนี้เอาไว้ จากนั้นก็เดินมาออก โดยเมื่อออกมาภายนอกจะได้รับแจกเป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยเราได้ออกมาในเวลา 10.08 น. และเป็นการเสร็จสิ้นการสักการะพระบรมศพฯ แม้ระยะเวลาจะยาวนาน แต่ก็คุ้มค่ายิ่งที่ได้มาร่วมถวายความอาลัย แด่พ่อหลวงเป็นครั้งสุดท้าย
--------
สุนันทา อินทรดนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง