คอลัมนิสต์

เปิด‘คดีชุมนุมหลากสี’-‘นักการเมือง’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แกนนำชุมนุมเสื้อสีต่างๆ ทยอยกันขึ้นศาล เมื่อการชุมนุมเลิกรา ปัจจุบันคดีของพวกเขาไปถึงไหนแล้ว รวมถึงคดีที่นักการเมืองถูกฟ้อง

             

             ในช่วงที่เต็มไปด้วยกลุ่มเสื้อสีทางการเมือง แดง-เหลือง-น้ำเงิน แกนนำเสื้อสีรวมทั้งเครือข่าย  ต่างมีบทบาทในบ้านเมืองเป็นอย่างมาก แต่เมื่อวันเวลาและสถานการณ์ทางการเมืองผันเปลี่ยนไป คนเหล่านี้ต้องเรียงหน้าเดินขึ้นศาลเป็นทิวแถว กับคดีความที่พวกเขาถูกฟ้องร้องในสิ่งที่กระทำลงไป 

             นอกจากนี้ ยังมีคดีที่ ‘นักการเมือง’ ถูกฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกหลายคดี 

             ‘เว็บคมชัดลึก ’ ได้รวบรวมคดีทั้งหมดและความคืบหน้าของคดีมานำเสนอ ดังนี้ 

           * ฝ่ายเสื้อแดง นปช.*

           1. อัยการ ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ,นายจตุพร พรหมพันธุ์ ปธ.นปช. และแกนนำ-แนวร่วม รวม 24 คน ข้อหาหนักก่อการร้าย ตาม ม.135/1 กล่าวหา กรณีปี 2553 ชุมนุมเผาเมืองขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ศาลอาญา กำลังสืบพยานโจทก์)

          2. อัยการ ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. และกลุ่มพิราบขาว ต่อศาลอาญา ข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวาย - ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ กรณีปี 2550 พาผู้ชุมนุมบุกล้อมบ้าน‘ป๋าเปรม’ กดดันประธานองคมนตรีลาออก (ศาลอุทธรณ์ พิพากษาเมื่อวันที่ 9 ม.ค.60 จำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือนไม่รอลงอาญา อยู่ระหว่างฎีกา)

          3. อัยการ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กับผู้ร่วมชุมนุมอีก 1 คน ข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวาย กรณีบุกล้อมบ้าน'ป๋าเปรม' (ศาลอาญา รอสืบพยาน)

----------------------

         ** เครือข่าย นปช.

          1. อัยการ 7 ยื่นฟ้อง 2 การ์ด นปช. ร่วมกันพยายามฆ่า -มีอาวุธปืน  ผิดพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และพ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ กรณีปี 2557 ใช้ปืนยิงใส่ผู้ชุมนุม กปปส.ที่อาคารชินวัตร 3 จตุจักร (ศาลอาญา พิพากษาวันที่ 6 พ.ย.58 จำคุกคนละ 43 ปี 4 เดือน)

          2.คดีชายชุดดำ นปช.   อัยการยื่นฟ้อง 5 การ์ด นปช. (ชาย 4 คน หญิง 1 คน) ข้อหา กระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 กรณีปี 2553 พกเอ็ม 79 - เอ็ม 16 - อาก้า ไปในช่วงสลายการชุมนุม นปช.แยกคอกวัว 10 เม.ย. 2553(ศาลอาญา พิพากษา 31 ม.ค.60 ให้จำคุก 10 ปี จำเลยผู้ชาย 2 คน ที่เหลืออีก 3 คนยกฟ้อง อยู่ระหว่างอุทธรณ์คดี)

          3. อัยการ ยื่นฟ้อง นายชัยวัฒน์ ทองมูล และนายอรุณ ฉายาจันทร์ ทั้งสองร่วมการชุมนุม นปช. ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ,ร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ กรณีบุกรุกกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 12 เมษายน ปี 2552 เพื่อขัดขวาง อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้กระทรวงมหาดไทยเป็นสถานที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ (ศาลอาญา มีคำพิพากษาวันที่ 28 ก.ย.59 จำคุกคนละ 2 ปี 4 เดือน)

          4. อัยการยื่นฟ้อง นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และ แนวร่วม นปช.อีก 1 คน ข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 กรณีปี 2552 ลักลอบใช้คลื่นวิทยุรบกวนคลื่นกรมการขนส่งทางน้ำฯี (ศาลอาญา พิพากษาวันที่ 23 ก.ค.58 จำคุกคนละ 2 ปีไม่รอลงอาญา , ชินวัฒน์ หนีคดีอยู่)

           5. อัยการ ยื่นฟ้อง นายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง ,นายสมศรี มาฤทธิ์ , นายสุนทร ผิผ่วนนอก และนายทวีชัย วิชาคำ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ทำร้ายร่างกาย , พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ และความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กรณี ยิงลูกกระสุนระเบิด เอ็ม 79 ใส่ผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ  ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 9 ราย  และบาดเจ็บ 12 ราย คดีนี้ถึงที่สุดแล้วโดยศาลฎีกาพิพากษาวันที่ 22 ส.ค.60 ให้จำคุกตลอดชีวิตจำเลยทั้งสี่

           6.คดีระเบิดพรรคภูมิใจไทย อัยการ ยื่นฟ้อง นายเดชพล พุทธจง , นายกำพล คำคง , นายกอบชัย หรืออ้าย บุญปลอด , นางวริศรียา บุญสม และนายสุริยา ภูมิวงษ์ เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันทำวัตถุระเบิด , มีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธ(วัตถุระเบิด)ไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร และกระทำให้เกิดระเบิดฯ และผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ คดีถึงที่สุดศาลฎีกา มีคำพิพากษาวันที่ 5 ก.ค.60 ให้จำคุก 4 ปีนางวริศรียา ส่วนนายเดชพล-นายกำพล จำเลยที่ 1-2 ปัจจุบันรับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ 4 ปีครบแล้ว ส่วนนายกอบชัย-นายสุริยา จำเลยที่ 3,5 หนีคดีศาลออกหมายจับโดยศาลอุทธรณ์ จำคุก 4 ปีและ 2 ปี 8 เดือน ตามลำดับ

           7. อัยการคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง น.ส.อัมพร ใจก้อน หรือครูแขก แนวร่วม นปช. ฐานมีวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่อง และกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ  กรณีซุกระเบิดแสวงเครื่องถังดับเพลิง 5 ถัง หนัก 20 กก. – กระสุนปืนกลเล็ก 129 นัด ที่สมานเมตตาแมนชั่น บางบัวทองปี 53 (ศาลอาญา พิพากษาวันที่ 17 พ.ย.59 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีใครเห็นนางอัมพร อยู่ที่สมานเมตตาแมนชั่น ช่วงเกิดเหตุ)

           นอกจากนี้ น.ส.อัมพร ยังตกเป็นจำเลยอีกคดี ที่ศาลมีนบุรี ข้อหาร่วมกันทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดฯ   กรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 มี.ค. 2557 เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณลานดินกว้าง ระหว่าง ซ.ราษฎร์อุทิศ 25-27 เขตมีนบุรี กทม. ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย แต่ศาลได้ยกฟ้อง น.ส.อัมพร อีกเช่นกัน  โดยเห็นว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน, พยานแวดล้อมและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ที่หนักแน่น พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังไม่มีน้ำหนักมั่นคงเพียงพอตามที่โจทก์ฟ้อง  ปัจจุบัน น.ส.อัมพร ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว 

           ฝ่ายเสื้อเหลืองพันธมิตรฯ

           1.  อัยการ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำพันธมิตรฯรวม 9 คน ข้อหามั่วสุม 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีปี 2551 ชุมนุมดาวกระจายปิดสถานที่ราชการขับไล่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช(ศาลอาญา พิพากษาวันที่ 20 ก.ค.60 ยกฟ้องแกนนำ 6 คน และให้รอการกำหนดโทษ 2 ปีสำหรับนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ , นายอมร อมรรัตนานนท์ และนายเทิดภูมิ ใจดี อดีตแกนนำพันธมิตรฯ  จำเลยที่ 7-9)

            2.  อัยการ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯรวม 98 ราย ( มีตาย 1 คน และเป็นอัมพาต 1 คน เหลือจำเลย 96 คน) ข้อหาก่อการร้าย กรณีปี 2551 ชุมนุมปิดสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ กดดันไล่รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (ศาลอาญา เริ่มสืบพยานครั้งแรก 1 มิ.ย.60)

            3. อัยการ ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำกับแนวร่วมพันธมิตรฯ รวม 20 คน ข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง กรณี ปี 2551 นำผู้ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา ไม่ให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แถลงนโยบาย (ศาลอาญากำลังสืบพยาน)

           4. อัยการยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำพันธมิตรฯรวม 6 คน ข้อหาบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ กรณีปี 2551 พาผู้ชุมนุมบุกเข้าทำเนียบกดดันรัฐบาลสมัคร (ศาลอาญา พิพากษาวันที่ 28 พ.ค.58 จำคุกคนละ 2 ปีไม่รอลงอาญา , ศาลอุทธรณ์ พิพากษาวันที่ 24 มิ.ย.60 แก้จำคุกคนละ 8 เดือนไม่รอลงอาญา)

          5. อัยการ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล , นายประพันธ์ คูณมี , นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , สมณะโพธิรักษ์ , นายสุริยะใส กตะศิลา , นายเทิดภูมิ ใจดี , นายพิภพ ธงไชย , นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี , นายทศพล แก้วทิมา แกนนำพันธมิตรฯและกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติและเครือข่ายประชาชนปกป้องแผ่นดิน รวม 10 คน ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคง   กรณีปี 2554 ชุมนุมคัดค้านกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว (ศาลแขวงดุสิต พิพากษาวันที่ 31 พ.ค.60 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุม ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา หลังจากที่พวกจำเลยเสร็จสิ้นการชุมนุมไปแล้ว )

          6.คดีแพ่ง ที่ บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯรวม 13 คน ให้ชดใช้ค่าเสียหายที่บุกปิดสนามบินดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปี 2551 ( ศาลแพ่ง - ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้ชดใช้ ทอท. รวม 522,160,947.31 บาท คดีถึงที่สุดแล้ว)

----------------------

         เครือข่ายพันธมิตรฯ

         1.อัยการ ยื่นฟ้อง 85 การ์ดพันธมิตรฯ กลุ่มนักรบศรีวิชัย ต่อศาลอาญา ข้อหา ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ กรณีปี 2551 ชุมนุมบุกเข้าไปในที่ตั้งสถานีโทรทัศน์ NBT (ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแล้ว 17 พ.ย.57 ให้จำคุก คนละ 3-8 เดือน มีจำเลยบางคนรอลงอาญา , นัดฟังฎีกาวันที่ 12 ต.ค.60)

         2.อัยการ ยื่นฟ้อง กลุ่มผู้ชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) กว่า 80 คน ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 กรณีปี 2555 กลุ่ม อพส.ร่วมกับ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธาน อพส.ชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ทยอยรับสารภาพ ศาลแขวงดุสิต พิพากษาโทษปรับ 1,000 บาท ไม่มีโทษจำคุก)

          3. อัยการ ยื่นฟ้อง นายปรีชา ตรีจรูญ ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ต่อศาลอาญา ข้อหาพยายามฆ่า - ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวาย กรณีระหว่างชุมนุมปี 2551 ไล่รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ิ ได้ขับรถพุ่งชนตำรวจที่หน้ารัฐสภา ( คดีถึงที่สุดแล้ว ศาลฎีกา พิพากษา 20 พ.ค.58 ให้จำคุก 3 ปี 4 เดือนฐานพยายามฆ่าเพราะบันดาลโทสะ)

--------------------------------

        กลุ่ม กปปส.

       1. อัยการยื่นฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม , นายสกลธี ภัททิยกุล , นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และนายเสรี วงศ์มณฑา แกนนำ กปปส. ข้อหาร่วมกบฎ ก่อความวุ่นวายฯ กรณีปี 2557 ร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เพื่อต่อต้านรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง (คดีอยู่ระหว่างศาลอาญาสืบพยาน)

         2.อัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ,แกนนำ กปปสและนักวิชาการที่ร่วมการชุมนุม รวม 48 คนในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ , ร่วมกันสนับสนุนเป็นกบฏ และความผิดอื่น รวม 8 ข้อหา  ซึ่งการสั่งฟ้องของอัยการเกิดขึ้นในช่วงการชุมนุม ขณะนั้นแกนนำ ยังไม่ได้ให้การกับดีเอสไอ เป็นการสั่งคดีเท่าที่ดีเอสไอส่งสำนวนสอบสวนมา ต่อมาเมื่อการชุมนุมจบลง แกนนำ กปปส.เข้าให้การดีเอสไอรับแจ้งข้อกล่าวหาและร้องขอความเป็นธรรม จึงต้องรอดีเอสไอส่งสำนวนส่วนนี้เพิ่มให้อัยการคดีพิเศษ ดูอีกครั้งว่ายังยืนยันคำสั่งฟ้องอีกหรือไม่

        เครือข่าย กปปส.

        1. อัยการยื่นฟ้อง นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) และผู้ชุมนุม รวม 105 คน ข้อหามั่วสุมเกิน 10 คนก่อความวุ่นวายฯ - ร่วมกันบุกรุก , ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กรณีปี 2557 ปิดล้อมและบุกรุกเข้าไปในสำนักงานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สาขาใหญ่ ถ.วิภาวดี - รังสิต โจมตีการทำงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ( ศาลอาญา รอสืบพยาน )

         2.คดีมือปืนป๊อบคอร์น อัยการยื่นฟ้อง นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ ที่ถูกกล่าวเป็นมือปืนสวมถุงป๊อปคอร์นช่วงเหตุชุลมุน กปปส. ปะทะ นปช. แยกแจ้งวัฒนะเมื่อต้นปี 2557 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ,พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ,ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 กรณีปี 2557 ผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช. ปะทะ กปปส.ลาดพร้าว หน้าศูนย์การค้าไอทีสแควร์ แยกหลักสี่ มีคนใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และเสียชีวิต (ศาลอาญา พิพากษา 3 มี.ค.59 จำคุกรวม 37 ปี 4 เดือน , ศาลอุทธรณ์ พิพากษาวันที่ 27 มิ.ย.60 ให้ยกฟ้องแต่ให้ขังระหว่างฎีกา)

           คดีแพ่ง เครือข่าย กปปส.

          1.คดีบริษัท เอนเนอร์ยีคอมเพล็กซ์ จำกัด ยื่นฟ้อง นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา ,นายทศพล แก้วทิมา ,น.พ.ระวี มาศฉมาดล ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มแกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย(กคป.) ,นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรฯและนายธวัชชัย พรหมจันทร์ แกนนำ กคป. ฐานละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวน 118,930,051.44 บาท กรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค.57 จำเลยทั้งห้าร่วมกันนำผู้ชุมนุมบุกรุกบริเวณพื้นที่อาคารเอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (ศาลแพ่ง พิพากษาวันที่ 31 ม.ค.60 ให้ร่วมกันชดใช้ 95,923,547.84 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี )

            2.คดีที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้อง นายอิทธิบูรณ์ อ้นวงษา ,นายทศพล แก้วทิมา ,นายระวี มาศฉมาดลและนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กลุ่มแกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) ฐานกระทำละเมิด เรียกค่าเสียหาย 15,920,737.54 บาท กรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค.57 จำเลยทั้งสี่ร่วมกันนำผู้ชุมนุมบุกรุกบริเวณพื้นที่อาคารเอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ และพื้นที่อาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท ปตท. (ศาลแพ่ง รัชดาฯ มีคำพิพากษาวันที่ 31 ส.ค.60 ให้ร่วมกันชดใช้ 9,714,480 บาท)

            ‘คดีนักการเมือง’

           1.คดี “อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ถูกอัยการสูงสุด ยื่นฟ้องปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามม.157 ประมวลกฎหมายอาญา และ มาตรา 123/1พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาเก้าโมงเช้า 27 ก.ย.นี้ หลังอดีตนายกฯ มีพฤติการณ์หลบหนี เบี้ยวนัดฟังคำพิพากษาครั้งแรกเมื่อวันที่ 25  ส.ค.ที่ผ่านมา

            2.คดีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง “ปึ้ง สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” อดีต รมว.ต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ม.157 ที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด สั่งออกพาสปอร์ตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีโทษคดีอาญา ฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ คดีรอศาลไต่สวนพยานโจทก์ ต.ค.นี้

            3. คดีทุจริตระบายข้าว จีทูจี ที่มี อดีต รมว.พาณิชย์ “บุญทรง เตริยาภิรมย์”  กับพวกรวม 28 คน (หนีคดี 2 คน ) เป็นจำเลย  โดยคดีีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุกตั้งแต่ 4 ปี สูงสุดถึง 48 ปีและปรับเงินเอกชน 2 ราย และศาลยกฟ้อง 8 ราย เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา  โดยคดีนี้รอยื่นอุทธรณ์คดีภายใน 30 วันต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

            4.คดีที่ ป.ป.ช. ตัดสินใจใช้สิทธิตาม รธน.ใหม่ ยื่นอุทธรณ์คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบสลายม็อบพันธมิตรฯ ปี 2551   หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินเมื่อวันที่ 2 ส.ค.60 ให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 4 คน คือ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์  อดีตนายกฯ , พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.” โดย ป.ป.ช. ยื่นอุทธรณ์ในส่วนของ พล.ต.ท.สุชาติ อดีต ผบช.น.จำเลยที่ 4 เพียงคนเดียว หลังจากนำคำวินิจฉัยเสียงข้างน้อยมาเป็นแนวทาง โดยขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการแจ้งจำเลยส่งคำคัดค้านอุทธรณ์ ก่อนรวบรวมส่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ