เปิด ข้อกล่าวหา- ข้อต่อสู้ ' ยิ่งลักษณ์' คดีจำนำข้าว โทษหนักถึงจำคุก ในขณะที่เจ้าตัว หยิบเรื่อง ' เจตนาพิเศษ' เป็นข้อต่อสู้สำคัญ
ข้อกล่าวหา
-เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
โทษ
จำคุกตั้งแต่ 1- 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,ooo-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต ตาม มาตรา 123/1 พ.ร.บ. ป.ป.ช.
โทษ
จําคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,ooo ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ข้อต่อสู้สำคัญ‘ยิ่งลักษณ์’
1.ไม่ได้มีเจตนาพิเศษ ในการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตหรือทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว
น.ส. ยิ่งลักษณ์ อ้างถึงกรณีที่ ป.ป.ช. และ สตง. มีหนังสือท้วงติงมายังรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ว่า ปปช.และสตง.ไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้ฝ่ายบริหารยับยั้งหรือยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่เคยละเลยเพิกเฉยในการกำกับและติดตามการปฏิบัติตาม ที่ ป.ป.ช. สตง.ท้วงติง โดยได้ส่งข้อเสนอแนะดังกล่าวให้คณะกรรมการ กขช. และหน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง และคณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าวฯ และก่อนหน้านั้นได้มีคำสั่ง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นประธาน
ดังนั้น การที่ตนส่งเรื่องโดยตรงไปยัง กขช. และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีเรื่องใดที่ละเลย และตนส่งเรื่องไปแล้ว คณะกรรมการและหน่วยงานต่างๆ ย่อมต้องเป็นผู้รับผิดชอบหากมีเรื่องใดเห็นค้านก็จะต้องนำเสนอกลับมาตามสายงานบังคับบัญชา แต่ปรากฏว่าไม่มีหน่วยงานใดเห็นค้านและเสนอให้ยกเลิก หรือยุติโครงการรับจำนำข้าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีได้ป้องกันความเสียหาย มีการปรับลดวงเงินรับจำนำจากไม่จำกัด เป็นจำกัดวงเงินการรับจำนำ
2. ไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในการระบายข้าว
การระบายข้าว เป็นงานในระดับปฏิบัติที่มีคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ,รมว.พาณิชย์ ,กรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นวิธีการที่ดำเนินการมาทุกยุคทุกสมัย
ทั้งนี้ในสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดหลักเกณฑ์ และมาตรการในการป้องกันการทุจริตในการระบายข้าวให้เข้มงวดมากขึ้น โดยให้ผู้รับผิดชอบปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ ขั้นตอน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า ถ้าตนปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต หรืองดเว้นไม่ป้องกันการทุจริตหรือไม่ป้องกันความเสียหายตามที่โจทก์กล่าวหา หรือ หากตนมีเจตนาทุจริตหรือสมยอมให้ทุจริตแล้ว ตนและคณะรัฐมนตรี จะสร้างหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้นดังกล่าวทำไม
นอกจากนี้ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือน พ.ย. 2555 ตนได้สั่งการให้ รมว.พาณิชย์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่มีการอภิปราย เรื่องการทำสัญญาซื้อขายแบบจีทูจี แต่ผลการตรวจสอบกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ได้รายงานว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการระบายข้าวและรายงานว่าเป็นการดำเนินการอย่างถูกต้อง แล้วจะถือว่าตนปกปิดการระบายข้าวเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้หนึ่งผู้ใดตามที่โจทก์กล่าวหาได้อย่างไร แสดงให้เห็นว่า ตนไม่ได้มีเจตนาพิเศษ ที่จะปกปิดข้อมูลในการระบายข้าวแบบจีทูจี และเป็นการแสดงว่า ตนไม่ได้สมยอม ให้ผู้ใดกระทำการทุจริตในการระบายข้าว หรือมีการกระทำที่ปกป้องผู้หนึ่งผู้ใด ตามข้อกล่าวหาของโจทก์
3.การดำเนินการโครงการรับจำนำข้าว เป็นการดำเนินการตามนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา ตนไม่มีอำนาจระงับหรือยกเลิกโครงการตามอำเภอใจ เพราะโครงการรับจำนำข้าวมีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายผูกพันให้ต้องปฏิบัติ
4. มองแต่เรื่อง กำไร- ขาดทุน ไม่ได้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ อ้างว่า การไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากโครงการมีประโยชน์ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายตามฟ้อง การประเมินความคุ้มค่าต้องไม่คำนึงเฉพาะรายจ่ายหรือประโยชน์ที่คำนวณเป็นตัวเงินได้เฉพาะโครงการเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศและประโยชน์อื่นๆโดยรวมที่สังคมได้รับจากโครงการนั้นด้วย เพราะภารกิจของภาครัฐมิใช่กระทำเพื่อแสวงหากำไร แต่เป็นการดำเนินการเพื่อประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง