จบแล้ว!! วาไรตี้ ‘ฮุนโชว์’ ปลุกชาตินิยมหาเสียง?

 

               เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ สำหรับคนลาว และคนกัมพูชา กรณี สมเด็จฮุน เซน ออกแอคชั่นเกี่ยวกับข้อพิพาทบริเวณพรมแดนกัมพูชา-ลาว ถึงขั้นสั่งเคลื่อนทัพสู่สมรภูมิชายแดน

               แค่ข้ามคืน สมเด็จฮุน เซน ก็พลิกเกมจากการทหารมาเล่นบทการทูต เดินทางไปนครเวียงจันทน์ เปิดการเจรจากับ ทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และทุกอย่างก็จบลงที่โต๊ะเจรจา

               ทำไม สมเด็จฮุน เซน จึงมาเร็ว เคลมเร็ว ? กัมพูชาได้ประโยชน์อะไรจาก “ความขัดแย้ง” เรื่องพรมแดนครั้งนี้

 

 

 

               ตอนสายวันที่ 11 ส.ค. 2560 สมเด็จฮุน เซน แถลงว่า ทหารลาวจากแขวงอัตตะปือ รุกล้ำดินแดนกัมพูชาที่ อ.เสียมปาง จ.สตึงแตรง จึงประกาศให้เวลา 6 วัน ทหารลาวต้องถอยทัพกลับไป

 

 

 

               สองเดือนที่แล้ว มีข่าวความขัดแย้งระหว่างลาวกับกัมพูชา เมื่อทหารกัมพูชาก่อสร้างทางเขตแดนลาว ด้านห้วยอาไล ทหารลาว 30 นาย จึงไปตรึงกำลัง และขอร้องให้ฝ่ายกัมพูชา ยุติการสร้างถนน แต่ฝ่ายทหารช่างจาก จ.สตึงแตรง ไม่ยอม จึงเกิดการเผชิญหน้ากันขึ้น

               ประมาณ 19.00 น. วันที่ 11 ส.ค. นักข่าวสำนักข่าวเฟรชนิวส์ ของกัมพูชา ได้รายงานข่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ จากหน้าค่ายทหาร จ.สตึงแตรง โดยมีภาพรถทหารกัมพูชา เคลื่อนกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ สู่ชายแดนด้าน อ.เสียมปาง จ.สตึงแตรง ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองพูวง แขวงอัตตะปือ ของลาว

 

 

 

               มีข้อน่าสังเกต การเคลื่อนกำพลทหารครั้งนี้ ฝ่ายทหารกัมพูชา อนุญาตให้ไลฟ์สดได้ เหมือนไม่มีความลับ และหวังผลด้านการทำสงครามจิตวิทยามากกว่า

               พล.อ.เจีย ซารัน ผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชา ระบุ หากลาวยังไม่ถอนกองกำลังทหารออกจากพื้นที่ข้อพิพาทพรมแดนในคืนนี้ ทหารของลาวอาจจะต้องสูญเสียหรือเจ็บตัวอย่างแน่นอน

               ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้น วอร์รูมของกองทัพกัมพูชาที่พนมเปญ และที่ จ.สตึงแตรง ได้เปิดให้นักข่าวเข้าไปไลฟ์สด เหมือนดูหนังสงคราม ที่เห็นภาพนายพลกางแผนที่วางกำลังทหาร

               เวลา 01.50 น. นายทหารระดับสูง พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกของกัมพูชา กำลังวางแผนจุดยุทธศาสตร์ เพื่อโจมตีลาวด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ที่กองบัญชาการทหารบกกัมพูชา 

 

 

               รุ่งเช้าในแฟนเพจสำนักข่าวเฟรชนิวส์ มีภาพกองทหารกัมพูชาชุดแรกที่ไปถึงพรมแดนด้าน อ.เสียมปาง โดยทหารกัมพูชา เริ่มติดตั้งจรวดหลายลำกล้อง

               เวลา 09.00 น. วันที่ 12 ส.ค. สมเด็จฮุน เซน เดินทางถึงสนามบินโปเชนตง เพื่อขึ้นเครื่องบินเที่ยวพิเศษ บินตรงไปสนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์

               ถึงตอนนี้ นายกฯ กัมพูชาเดินเกมเร็วมาก สมกับฉายา “จิ้งจอกพนมเปญ” มากไปด้วยกลอุบายทางการเมือง

               เวลา 11.00 น. นายกฯ ลาว กับนายกฯ กัมพูชา มายืนแถลงข่าวผลการหารือร่วมกัน โดยมีข้อสรุปดังนี้

 

 

               1. ฝ่ายลาว จะถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทบริเวณห้วยอาไล

               2. ฝ่ายกัมพูชา จะหยุดการสร้างถนนเลียบชายแดน และจะถอนกำลังทหารที่เคลื่อนไปวางกำลังตามแนวพรมแดนกลับที่ตั้ง ภายในวันที่ 13 ส.ค.

               3. คณะกรรมการชายแดนของสองฝ่าย จะเปิดการเจรจาปักปันเขตแดน และยึดมั่นการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี

 

 

               สมเด็จฮุน เซน กลับถึงพนมเปญเมื่อบ่าย 3 โมง ด้วยความมั่นใจว่า จะได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น หลังจากแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งที่ชายแดนด้วยความรวดเร็ว

               นักวิเคราะห์สถานการณ์ในกัมพูชาบอกว่า สมเด็จฮุนเซน มิอาจนิ่งเฉยต่อปัญหาพิพาทชายแดนได้ เนื่องจากวันเลือกตั้งทั่วไปกำหนดมาแล้วคือ 29 ก.ค. 2561

               ที่ผ่านมา เมื่อถึงช่วงเลือกตั้งคราวใด สมเด็จฮุน เซน จะจุดไฟชาตินิยมในใจคนกัมพูชา เพื่อเรียกคะแนนเสียง

 

               อย่าง 5 ปีที่แล้ว สมเด็นฮุนเซน ปลุกกระแสชาตินิยมด้วยเรื่องปราสาทพระวิหาร จนถึงขั้นเปิดศึกรบกับกองทัพไทย

               ว่ากันว่า กัมพูชา-ลาว คงไม่ถึงขั้นแตกหัก และเกิดสงครามย่อย เพราะมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งมาแต่ในอดีต

               เพียงแต่ครั้งนี้ นายกฯ ทองลุน ตกกระไดพลอยโจน ต้องเข้าฉากเล่นละครหาเสียงล่วงหน้า ตามสไตล์ฮุนเซน