คอลัมนิสต์

ย้อน 13 ชั่วโมงมาราธอน ตัดสิน‘คดีโรฮิงญา’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การอ่านคำพิพากษาคดีที่มีผู้ตกเป็นจำเลยถึง 103 คน และทุกคนถูกคุมขังระหว่างการพิจารณา จะนึกภาพกันออกหรือไม่ว่า ศาลต้องบริหารจัดการอย่างไร

            ‘คดีค้ามนุษย์โรฮิงญา’ เป็นอันจบไปแล้วในยกแรกสำหรับการพิสูจน์เจตนา-การกระทำจำเลย 103 ราย(ตายไป 1 ราย)

           เมื่อองค์คณะผู้พิพากษาแผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา มีคำตัดสินโทษจำคุกหนัก 75-78 ปี “กลุ่มอดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา - อดีตนายก อบจ.สตูล” ผู้บริหารท้องถิ่น ที่สมคบกันค้ามนุษย์โดยทำกับเด็กอายุไม่เกิน15 ปี , อายุเกิน 15 ปีแต่ไม่ถึง 18 ปี , บุคคลอายุเกิน 18 ปี และความผิดมีส่วนร่วมอาชญากรรมข้ามชาติฯ

          กับจำคุก 27 ปี พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และจำเลยร่วมอื่นๆ อีกรวม 62 คนที่รับโทษต่ำสุดจำคุก 4 ปี ถึงโทษสูงสุด 94 ปี แตกต่างกันไปตามพฤติการณ์กระทำผิดในขบวนการค้าแรงงานเมียนมาและบังกลาเทศ ซึ่งเป็นชาวโรฮิงญา

          ส่วนจำเลยกลุ่มพลเรือนอีก 40 ราย พยานหลักฐานยังไม่ถึง ศาลยกประโยชน์ความสงสัย ให้ยกฟ้องไป

          การอ่านคำพิพากษาคดีที่มีผู้ตกเป็นจำเลยถึง 103 คน และทุกคนถูกคุมขังระหว่างการพิจารณา จะนึกภาพกันออกหรือไม่ว่า ศาลต้องบริหารจัดการอย่างไร ?? ไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และจำเลยเองที่มีทั้งคนไทย - ต่างด้าว ก็ไม่ถูกกระทบสิทธิเสรีภาพในการได้รับฟังคำพิพากษาทุกประเด็นไม่ตกหล่นกับรายละเอียดในคำพิพากษา 540 หน้า

          ตายแล้ว !!! “540 หน้า” จะอ่านกันยังไงนะให้เสร็จ ให้ทุกคนเข้าใจ ไม่งง ไม่สับสนกับจำเลยที่มีตั้ง 103 คน..??

          เอกสารก็เยอะ จำเลยก็แยะ!!นี่คงเป็นคำถามและข้อสงสัยที่เกิดขึ้นกับทุกคน ซึ่งศาลได้บริหารจัดการทุกอย่างเป็นระบบ

          เริ่มจากการนัดเวลาให้จำเลย เข้าห้องพิจารณาพร้อมเพรียงตั้งแต่ 08.00 น.เศษ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวจำเลยชาย-หญิง 103 คนมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพและทัณฑสถานหญิงกลาง จากย่านบางเขน มาถึงศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ช่วงเวลาเช้าตรู่ไม่เกิน 07.00 น.

          กระทั่ง 08.30 น.ศาลได้เริ่มไล่เรียงเรียกขานชื่อจำเลยแต่ละคนจนครบ ขณะที่มีทนายความและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อยู่ร่วมกับจำเลยในห้องพิจารณาคดี 704 ด้วย ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่รองรับคนได้ร่วม 300 คน

          ส่วนครอบครัวและญาติจำเลย ที่มากันนับร้อยซึ่งมีทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่ ศาลก็ต้องแยกให้อยู่ห้องพิจารณาถัดไปอีกเป็นการเฉพาะ เพื่อไม่ให้โกลาหลวุ่นวาย โดยศาลก็เชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงผ่านทีวีวงจรปิดให้ญาติๆ ร่วมฟังชัดเจนไปพร้อมจำเลยทุกคน

          ขณะที่บรรดานักข่าวทั้งไทย-เทศอีกหลายสิบสำนัก ศาลก็จัดทีวีวงจรปิด แพร่ภาพ-เสียง ให้ที่ชั้น 2 ของอาคารไว้ให้เฉพาะเหมือนกันเพื่อสะดวกในการฟังและการใช้เครื่องมือสื่อสารส่งข่าว แต่ห้ามเด็ดขาดในการถ่ายภาพจำเลยและบรรยากาศห้องพิจารณาจากทีวีวงจรปิด และเสียงการอ่านคำพิพากษาศาลไปเผยแพร่ เรียกว่า ทุกขั้นตอนศาลมีความรัดกุมไม่ให้ฝ่ายใดถูกละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน

          แล้วก็มาถึงนาทีสำคัญ !!! ในการอ่านคำพิพากษา ศาลจัดล่ามแปลภาษาให้ครบ เหมาะกับคนต่างด้าวทุกสัญชาติที่ตกเป็นจำเลย

          โดยการอ่านพิเคราะห์คำตัดสิน เริ่มต่อเนื่องตั้งแต่ 08.40– 21.40 น.รวมถึง 13 ชั่วโมง เรียกว่า “มาราธอน”ได้เลย ซึ่งนับว่าเป็นเวลายาวนานที่สุดของการอ่านคำพิพากษาของศาลเท่าที่เคยมีมา

          ขณะที่ศาลเอง ก็พยายามจัดการกับเวลา ด้วยการแบ่งสันปันส่วนอ่านคำพิพากษากันคนละช่วงคนละตอน ผู้พิพากษาองค์คณะทั้งชาย-หญิง 7 คน ผลัดเปลี่ยนรับไม้ต่อกัน

          โดยมีการหยุดพักเพียง 2 ช่วงเท่านั้นเอง!! คือช่วงพักกินข้าวเที่ยง เวลา 12.30-13.00 น. และช่วงเย็น ที่ศาลอาจเห็นว่าจำเลยก็คงล้าเพราะนั่งฟังมาต่อเนื่อง ก็ให้พักได้อีกช่วง 18.30 น.- 19.00 น. การอ่านคำพิพากษาที่ยาวนานถึงครึ่งวัน พักรวมก็แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น!!

         ขณะที่มีการนับกันว่า ความเร็วในการอ่านคำพิพากษา คือ 30-40หน้า/ชั่วโมงกันเลยทีเดียว คำพิพากษา 540 หน้า ความเร็ว ก็เท่ากับ 13 ชั่วโมง  โอ้โห..กันทีเดียว !!

         ในการอ่านมิใช่เพียงแค่ทำเวลาให้เหมาะสม ไม่ให้ล่วงเวลาไปเกิน 1 วัน เท่านั้น แต่ในคำพิพากษาศาลยังได้จัดกลุ่มพฤติการณ์ของจำเลยไล่เรียงกันไป  ได้แก่ เจ้าของแคมป์-ผู้คุมแคมป์กักกันแรงงานโรฮิงญา , กลุ่มนายหน้า-ขนส่งแรงงาน , กลุ่มดูแลเส้นทางที่มีพลเรือนและเจ้าหน้าที่ , กลุ่มจัดยานพาหนะทั้งรถ-เรือประมงขนส่งแรงงาน , กลุ่มอดีตเจ้าหน้าที่ทหาร-อดีตตำรวจ รับคุ้มครองดูแล,กลุ่มเครือข่ายค้ามนุษย์ และสายเชื่อมโยงการโอนเงินกระทำผิด ผลที่ได้คือ จำเลย-ล่าม-สื่อ นั่งฟังมาราธอนกัน 13 ชั่วโมงก็ไม่งุนงง สับสน ฟังจับความกันได้เป็นช่วงๆ

           เมื่อจบถ้อยคำพิพากษา ณ เวลา 21.40 น. วันที่ 19 ก.ค.60  ก็กลายเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ อีกหน้าหนึ่งของการตัดสินคดีอาญาขบวนการค้ามนุษย์ที่มีความเชื่อมโยงเครือข่ายใหญ่ การก่ออาชญากรรมข้ามชาติ และเป็นที่ลุ้นกันมากในการใช้เวลาถึงครึ่งวันที่ยาวนานถึง 13 ชั่วโมงของการอ่านคำพิพากษาคดีในศาลยุติธรรม !!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ