คอลัมนิสต์

ชีวิต...ที่ปลายกระบอกปืน!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กลุ่มเด็กหนุ่มจากหมู่บ้านไทยพุทธ 5 คน นัดหมายออกไปล่าสัตว์และหาของป่าในพื้นที่สวนยางพารา ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านตอหลัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี แต่เกิดความรุนแรงขึ้น

     “มึงรู้ไหม?? ที่นี่ใครคุม..กูนี่แหละ”

     ถ้อยคำที่ก้องดังในโสตประสาทของเด็กชายวัย 14 ปี ที่เพิ่งรอดชีวิตจากห่ากระสุนปืนของสองแนวร่วมคนสำคัญในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ไล่ยิงหวังปิดปากเยาวชนให้สิ้นทั้ง 5 คน หลังจากได้แสดงพฤติกรรมอันป่าเถื่อนลั่นไกสังหารสามพี่น้องร่วมชุมชนไทยพุทธบ้านดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานีไปต่อหน้าต่อตา

     คำถามแกมคำขู่ที่ดังวนเวียนกระชากความรู้สึกให้ตื่นผวาในทุกวันคืน...ความรู้สึกที่สุดอัดอั้นถูกระบายออกมาพร้อมกับร่างเล็กๆ ของเด็กหนุ่มที่สั่นสะท้านเมื่อนึกย้อนเล่าถึงเหตุการณ์อันเลวร้ายในชีวิต

     9 โมงเช้าวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2560 กลุ่มเด็กหนุ่มจากหมู่บ้านไทยพุทธ 5 คน นัดหมายออกไปล่าสัตว์และหาของป่าในพื้นที่สวนยางพาราที่อยู่ห่างออกไปจากชุมชนไม่ไกลนัก

     เรื่องราว..ความรุนแรงเกิดขึ้นที่นี่สวนยางพาราในพื้นที่หมู่ 1 บ้านตอหลัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ขณะที่ 5 เยาวชนวัยคะนองจอดรถจักรยานยนต์ไว้ข้างทาง ก่อนเดินเลาะลงไปตามร่องสวนยางที่ปลายทางด้านหน้าพบขนำสภาพเก่าพร้อมร่างชาย 2 คน นอนอยู่ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 1 คัน

     จิตใต้สำนึกสั่งการเตือน...อย่าเข้าไปใกล้...ทุกคนพร้อมใจเบี่ยงหน้าหลบไปอีกทางหวังเลี่ยงการเผชิญหน้า แต่คงไม่ทันการณ์ 10 นาทีให้หลังชายฉกรรจ์ 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามมา ก่อนทำทีเดินมาสอบถามด้วยท่าทีไม่พอใจนัก

     การตอบคำถามไม่กี่ประโยค..ก็ทำให้ชายสองคนแสดงตัวเป็นคนร้าย...ปลายกระบอกถูกยกขึ้นมาจ่อใส่ร่างของเด็กหนุ่มอายุ 18 สองคน และอายุ 19 อีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสามคนที่ยืนใกล้กับคนร้ายมากที่สุด และนั่นคือวินาทีที่ทำให้อีก 2 คนรอดชีวิตวิ่งหนีห่ากระสุนได้อย่างหวุดหวิด

ชีวิต...ที่ปลายกระบอกปืน!      “พี่ชายทั้ง 3 คนยืนอยู่ด้านหน้าใกล้คนร้าย โดยที่ผมและพี่อีกคนที่รอดชีวิตมาด้วยกัน ยืนอยู่ด้านหลัง จนจังหวะหนึ่งที่เงยหน้ามองก็เห็นคนร้ายชักปืนออกมาแล้วยิงเลย ผมก็วิ่งสุดชีวิต ไม่รู้ว่าวิ่งไปไกลแค่ไหน จนได้เจอพี่อีกคน จึงหลบออกมาขอความช่วยเหลือ” เด็กหนุ่มเล่าวินาทีรอดชีวิต พร้อมวาดผังอธิบายตำแหน่งขณะยืนคุยสองคนร้ายใจเหี้ยม

     บุคคลอันตรายที่อยู่ใกล้ตัวมากขนาดนี้...ไม่ต้องจำชื่อแต่ก็คุ้นหน้า เพราะเป็นสองคนร้ายที่มีใบหน้าติดประกาศตามหมายจับคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่โชว์หราอยู่เกือบทุกทางแยกสำคัญ ไม่เว้นกระทั่งทางแยกเข้าชุมชนไทยพุทธแห่งนี้ด้วย

     “ซอบือรี เจะหะ” และ “มาหะมะ สะอิ” คือมือสังหาร 3 เยาวชนผู้บริสุทธิ์และเป็นแกนนำแนวร่วมคนสำคัญที่ก่อเหตุความรุนแรงมานับครั้งไม่ถ้วนที่เจ้าหน้าที่ตามตัวแต่ไม่เคยเจอ..ส่วนคนที่บังเอิญเจอกลายเป็นเพียงเยาวชนผู้บริสุทธิ์ที่ออกไปหาของป่าในสวนยาง

     สิ่งที่เยาวชนผู้รอดชีวิตรายนี้เล่าให้ฟังอย่างมีเหตุผลว่า การที่ออกไปล่าสัตว์ในพื้นที่สวนยางเป็นวิถีลูกผู้ชายปฏิบัติกันมาตามวัยคะนอง และสวนยางไม่ได้ตั้งอยู่ในทำเลป่าเขาที่สุ่มเสี่ยงอันตรายแต่อย่างใดและไม่คิดว่าจะต้องเอาชีวิตมาแลกเพียงแค่สิ่งนี้

     สิ่งที่ตอกย้ำความโหดเหี้ยมของคนร้ายอย่างไม่น่าให้อภัยคือ ทั้งหมดเป็นเพียงเยาวชนอายุ 14-19 ปีเท่านั้น

     อะไร??? คือความสุ่มเสี่ยง พื้นที่ไหน?? ปลอดภัยหรืออันตราย

     หัวอกที่ช้ำและกลัดหนองของแม่ผู้สูญเสียลูกชายวัย 18 ปี  ที่วันนี้รอบดวงตาเริ่มคล้ำดำจากการอดนอน ขณะที่กายเริ่มซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด ญาติต้องคอยประคองให้นั่งนิ่งๆ ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นว่าได้เสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับ

     ยิ่งกว่าความเจ็บที่แม่ต้องแบกรับ นั่นคือความทุกข์ทรมาน เมื่อผู้เป็นแม่เฝ้าตามหาลูกที่ถูกคนร้ายไล่ฆ่าตั้งแต่เวลา 11 โมงวันเสาร์แต่ไม่เจอ

     ความกระวนกระวายใจด้วยห่วงลูก ความหวังขอให้ลูกมีชีวิตรอด..ความสิ้นหวังให้เจอร่างลูกแม้ไร้ลมหายใจ ทุกอย่างถาโถมเข้ามาหัวอกแม่แทบหยุดหายใจให้รู้แล้วรู้รอด

      13 ชั่วโมงที่เฝ้ารอสุดท้ายก็ได้เจอร่างลูกชายที่ไร้ลมหายใจมากอดแนบอกเป็นครั้งสุดท้าย

ชีวิต...ที่ปลายกระบอกปืน!

     “แนวร่วม คงไม่ทำร้ายเด็กหรอกแม่” ถ้อยคำสุดท้ายที่ลูกชายบอกกับแม่ที่รั้งไม่ให้ลูกออกไปล่าสัตว์ในช่วง 10 วันสุดท้ายเดือนรอมฎอน คำพูดที่ทิ่มแทงหัวอกแม่ที่สูญเสียลูกชายที่ไม่ได้เป็นความหวังของครอบครัว แต่ลูกได้ให้ความหวังกับครอบครัวด้วยถ้อยสัญญา “ผมจะเรียนวิศวะให้ได้” ประโยคสุดท้ายของการสนทนาที่จบด้วยเสียงสะอื้นไห้ที่ต้องกลืนความเจ็บนี้ไว้ตลอดกาล

     ความโศกเศร้าเสียใจอันโหดร้ายนี้ได้แพร่กระจายเข้าครอบงำจิตใจพี่น้องชาวไทยพุทธใน ต.ดอน อ.ปะนาระ จ.ปัตตานี ที่มีอยู่ 4 หมู่บ้าน ประชากรที่เหลืออยู่เพียงหลักพันคนให้ต้องทนอยู่แบบหวาดผวาและสิ้นหวังที่จะไขว่คว้าคำว่าสันติสุข

     พื้นที่ปลอดภัย...ความหวังในดินแดนปลายด้ามขวานทองผืนนี้ ยังเป็นสิ่งที่เอื้อมไม่ถึง อีกกี่ชีวิตที่ต้องใช้ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย

สุพิชฌาย์ รัตนะ...เรื่อง //ภาพ...ภูชิสส์ พิรุณละออง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ