เปิดบันทึกนักสืบ คลี่ปม ‘คดีฆ่าหั่นศพแอ๋ม’

           แม้ว่า...คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม  สาวคาราโอเกะ จะมีการจับกุมผู้ต้องหาและดำเนินคดีได้ครบทุกคนแล้วก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้ก็ยังสับสน เริ่มตั้งแต่กลุ่มผู้ต้องหาพบ น.ส.วริศรา ผู้ตาย โดยบังเอิญแล้วชวนขึ้นรถไปหรือว่าถูกหลอกขึ้นรถ  ,มีการใช้ถุงคลุมหัวผู้ตายบนรถหรือบีบคอจนเสียชีวิต, การซื้ออุปกรณ์ในการหั่นศพเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการหั่นศพ , มีการหั่นทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือหั่นหลังเสียชีวิตแล้ว เพราะกระจกห้องน้ำในรีสอร์ทที่มีการนำ น.ส.วริศรา เข้าไป มีรอยแตกร้าว บ้างก็ว่ามีการต่อสู้กันจนทำให้กระจกแตก แล้ว...ข้อเท็จจริงในคดีนี้เป็นอย่างไรกัน

           ความสับสนเหล่านี้กระจ่างขึ้น  เมื่อเราได้คุยกับ‘นักสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ ’ซึ่งเล่าให้ฟังว่า เหตุในคดีทั้งหมดเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เริ่มจาก น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น โทรเข้าโทรศัพท์มือถือ ‘แอ๋ม’ นัดคุยธุระเรื่องงานและให้ออกมาพบ  เมื่อ‘แอ๋ม’ เดินไปหน้าปากซอยของหอพัก ก็เจอรถเก๋งซีอาร์วี โดยมี ‘เอิร์น’ นั่งอยู่หน้ารถด้านซ้ายนายวศิน นามพรม คนขับ ส่วนคนที่นั่งด้านหลังตรงคนขับ คือ  น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิตหรือแจ้ , ‘แอ๋ม’ จึงไปนั่งข้าง ‘แจ้’ เบาะด้านหลัง จากนั้นรถก็ออกตัวและล็อคทันที ทันทีทันใดนั้น น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว ซึ่งนอนหมอบซ่อนตัวอยู่ในส่วนใส่ของท้ายรถ ก็โผล่ตัวขึ้นมา เอามือรัดคอและบีบคอ‘แอ๋ม’ เกิดการต่อสู้กันในรถ  ‘แอ๋ม’พูดขึ้นว่า‘ ถ้ามึงทำกู ต้องเอาให้ตาย ถ้าไม่ตาย มึงตาย’  ทำให้ ‘เปรี้ยว’ โมโหหนักขึ้น เอาผ้าอุดปาก ‘แอ๋ม’

           จากนั้น‘ แจ้’กับ‘เอิร์น’  คว้าเอาสายหนังจูงสุนัข ที่มีคนลืมอยู่ในรถ (รถคันนี้เช่ามา) มามัดข้อมือด้านขวาของ ‘แอ๋ม’ แล้วใช้เชือกที่เตรียมมามัดที่ข้อเท้าข้างหนึ่ง จากนั้น เปรี้ยว'ก็นำเอา‘ถุงดำ’มาคลุมศีรษะ ‘แอ๋ม’ จนขาดอากาศหายใจตายในรถ 

          จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้มีการหารือกันว่าจะทำอย่างไร ตอนแรกคิดว่าจะเอาร่างของ ‘แอ๋ม’ โยนลงในน้ำ  แต่เนื่องจากร่างของ‘ แอ๋ม’ เริ่มแข็งแล้ว เกรงว่า จะลอยน้ำขึ้นมาเร็ว จึงตัดสินพากันมาที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่บ้านหัวถนน ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่ง ‘เปรี้ยว’คุ้นเคย เนื่องจากเคยมาพักที่นี่ โดยมาถึงในช่วงดึกมากแล้วใกล้สว่าง  โดย ‘วศิน’ เป็นคนแบกร่าง ‘แอ๋ม’  เข้าห้องพักที่รีสอร์ท แล้วนำไปไว้ในห้องน้ำ  

           หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้มีการปรึกษาหารือกัน และได้ข้อสรุปว่าจะใช้วิธีหั่นศพ  จึงรอจนรุ่งเช้า จึงออกกันไปซื้อเลื่อยคันธนู,มีดปังตอ. ถุงมือ.ถุงดำ และอุปกรณ์ต่างๆที่จะใช้ในการทำลายศพ เมื่อซื้ออุปกรณ์เสร็จเรียบร้อย ก็กลับมาที่รีสอร์ท  ลงมือหั่นศพ โดย ‘เปรี้ยว’ ลงมือหั่นคนแรก แต่ทำคนเดียวไม่ไหว วศิน,แจ้,เอิร์น จึงเข้าช่วยกันหั่นแขนและท่อนล่าง ระหว่างที่หั่นศพ ‘วศิน’ ได้ลื่นหลังไปกระแทกกับอ่างน้ำ และเซไปโดนกระจก ทำให้กระจกร้าว เนื่องจาก ‘วศิน’ รูปร่างใหญ่  เมื่อหั่นศพเสร็จ ก็เอาชิ้นส่วนทั้งหมดใส่ถุงดำ จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสี่คนนั่งรถซีอาร์วี เอาศพไปทิ้งในป่าละเมาะ อ.เขาสวนกวาง โดย‘เปรี้ยว’ เป็นคนให้ไปฝัง ณ สถานที่ดังกล่าว เพราะคุ้นเคยเนื่องจากเป็นละแวกบ้าน‘เปรี้ยว’ เมื่อไปถึง‘วศิน’ เป็นคนขุดดิน กลบ และใช้สังกะสีบังอำพราง

            หลังจากมีการฆ่าและฝัง‘แอ๋ม’ เพียงไม่กี่วัน เปรี้ยว .เอิร์น ,วศิน ก็ได้เจอกับ น.ส. จิดารัตน์ พรหมคุณหรือเบนซ์ ที่ร้านอาหารที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน กทม.และรับประทานอาหารกัน‘ เปรี้ยว’บอกว่าต้องการขายโทรศัพท์  จากนั้น‘วศิน’กับ‘เบนซ์’ ซึ่งมีความสนิทสนมกัน จึงนำโทรศัพท์มือถือ(ซึ่งเป็นของแอ๋ม) ไปขายที่ร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่งในห้างฯดังกล่าว โดย ‘เปรี้ยว’ มอบบัตรประชาชนของตนให้กับทั้งสองคนไป แต่ขายไม่ได้เพราะเจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือ เห็นว่า รูปหน้า ‘เปรี้ยว’ ตามบัตรประชาชน ไม่ตรงกับผู้นำโทรศัพท์มาขาย จึงไม่รับซื้อ  ‘วศิน’ กับ‘เบนซ์’ จึงติดต่อกลับไปยัง‘เปรี้ยว’ จากนั้นไม่นานก็มี‘เอิร์น’ เดินมาที่ร้านโทรศัพท์มือถือ และใช้บัตรประชาชนของ‘เอิร์น’ ในการขายโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าว