วัฒนธรรม “โป๊ไม่เปลือย” จาก “พนมเปญ” ถึง “ย่างกุ้ง”

 

          ร้อนแรงไปทั่วโลกสำหรับ “เซ็กซี่สตาร์” แห่งกัมพูชา เมื่อเธอโดนแบนห้ามเล่นหนังและละคร สื่อนอกประโคมข่าวกันเอิกเกริก

          ดาราสาวคนนี้ชื่อ “แดนนี ขวัน” ที่มีผู้ติดตามเฟซบุ๊คของเธอประมาณ 3 แสนคน ตกเป็นข่าวใหญ่ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อกระทรวงวัฒนธรรรมและศิลปะ มีคำสั่งห้ามเผยแพร่ผลงานการแสดงของเธอ ทั้้งในรูปแบบภาพยนตร์หรือละคร เป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากเธอผู้นี้ละเมิดประมวลกฎหมายที่กำหนดให้บุคคลสาธารณะของประเทศแต่งกายสง่าผ่าเผยและคงความเป็นเอกลักษณ์ของชาติ

          ว่ากันว่า แดนนี ขวัน เดินทางมาผ่าตัดเสริมเต้านมในคลินิกศัลยกรรมชื่อดังที่กรุงเทพฯ หลังจากกลับไปพนมเปญ เธอก็เซลฟี่ “โชว์อึ๋ม” บนเฟซบุ๊กอยู่เรื่อยๆ ทำให้กระทรวงวัฒนธรรม อดรนทนไม่ได้ จึงต้องคำสั่งแบนการแสดงของเธอดังกล่าว

          แดนนี ขวัน ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์กัมพูชาเดลี ว่ามีศิลปินเซ็กซี่มากมายในประเทศกัมพูชา บางคนถ่ายภาพเซ็กซี่มากกว่าเธอ ไม่เห็นโดนแบน และนี่เป็นสิทธิของเธอที่จะเลือกแต่งตัวอย่างที่ต้องการ แต่วัฒนธรรมและชาวกัมพูชารับไม่ได้ในสิ่งที่เธอทำ เธอพยายามจะไม่เซ็กซี่อย่างที่เคยทำ
อย่างไรก็ตาม แดนนี ขวัน บอกว่า ในเฟซบุ๊กเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเธอ ก็ยัง “จัดเต็ม” เหมือนเดิม

          จริงๆ แล้ว เมื่อเดือนตพฤษภาคม 2559 การแต่งกายอวดโฉมโนมพรรณของเธอก็ตกเป็นข่าวใหญ่มาแล้วหนหนึ่ง โดยมีกระแสแอนตี้เธอในสื่อโซเชียล 

          ต่อมากระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชา ออกโรงเตือนเรื่องแต่งกาย หากไม่ปรับปรุงตัวเองก็จะมีมาตรการเด็ดขาดกับตัวเธอ

          สุดท้าย แดนนี่ ขวัญ ยอมแพ้กระแสโซเชียล เธอประกาศต่อไปนี้จะไม่โชว์เต้าให้ชาวเขมรดูอีก ยกเว้นผัวเธอคนเดียว
แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่หยุดการโชว์หวิวจนนำมาสู่คำสั่ง “แบน” จากทางการกัมพูชา

          ด้านกลุ่มสิทธิสตรีกัมพูชา ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความเห็นใจเธอ พร้อมระบุว่ารัฐบาลเลือกปฏิบัติทางเพศ หลังออกคำสั่งห้ามนักแสดงสาวชาวกัมพูชา ปรากฏตัวในละคร หรือภาพยนตร์ใหม่นาน 1 ปี ฐานแต่งกายไม่เหมาะสม
ธิดา คุส ผู้อำนวยการของกลุ่มศิลาคา หัวหน้ากลุ่มเรียกร้องสิทธิสตรี ให้สัมภาษณ์ว่า “มันไม่ได้เป็นแค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง แต่มันคือการเลือกปฏิบัติทางเพศ และละเมิดความเท่าเทียมทางเพศ”
 
          รส สุภาพ ผู้อำนวยการองค์การเพศกับการพัฒนาสำหรับกัมพูชา ระบุว่า เธอไม่ใช่คนแรก ผู้หญิงทั้งโลกและในกัมพูชาก็แต่งตัวแบบนี้ ทำไมถึงมีแค่เธอที่ถูกเล่นงานและขัดขวางอาชีพการงานของเธอ 1 ปี

          หันไปทางเมียนมาร์ก็มีข่าวเล็กๆ แต่มีแรงกระเพื่อมทางสังคมคือ ข่าวตำรวจเตรียมจับกุมกลุ่มทำ "หนังโป๊” ระบบเอชดี เป็นครั้งแรกในประเทศที่ยังมีความเป็นอนุรักษนิยมสูง

          เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560 พ.ต.อ.ตุน เนย์ วิน ผู้อำนวยการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางการสื่อสารและเทคโนโลยีของเมียนมาร์ แถลงว่า ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนเพื่อจับกุมบริษัทที่ผลิตและเผยแพร่ภาพยนตร์โป๊ ซึ่งถือว่าเป็นคดีอาญา หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน บริษัทอาร์ต ออฟ เมียนมาร์ โพสต์ตัวอย่างภาพยนตร์โป๊บนเฟซบุ๊กเรื่อง “เดอะ ไวโอเล็ต ออฟ เมียนมาร์” ซึ่งมีความยาว 2 ชั่วโมง และมีความคมชัดระดับเอชดีเรื่องแรกของเมียนมาร์ จนเกิดกระแสฮือฮาทั่วโลกออนไลน์เมียนมาร์

          หนังเรื่องนี้ถ่ายทำเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว โดยดารานำหญิงสวมหน้ากากอนามัยปิดบัง และมีการเบลอใบหน้าเธอตลอดทั้งเรื่อง ขณะที่บริษัทเผยว่าใช้ทุนสร้างราว 400,000 จ๊าด (ราว 10,200 บาท)

          บริษัท อาร์ต ออฟ เมียนมาร์ เปิดเผยว่า หลังโพสต์คลิปตัวอย่างภาพยนตร์ดังกล่าว บัญชีไวเบอร์ของบริษัทก็ถึงกับล่ม เพราะได้รับข้อความจากผู้สนใจกว่า 2,000 ข้อความภายในเวลา 24 ชั่วโมง 

          ทั้งนี้ กฎหมายมาตรา 292 ของเมียนมาร์ ระบุว่า ผู้ผลิตหรือครอบครอง “วัตถุลามก” มีโทษจำคุกสูงสุด 3 เดือน และมีโทษปรับด้วย ในสังคมเมียนมาร์ ซึ่งเป็นชาติที่เคร่งศาสนา นอกจากห้ามครอบครองสื่อลามกแล้ว ยังมีข้อห้ามพูดเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ด้วย

          เมียนมาร์ปิดประเทศไม่ถึง 10 ปี ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน
แน่นอนในโลกสื่อสารไร้พรมแดน  คนพม่ารุ่นใหม่ก็อยากวิ่งไปตามกระแสวัฒนธรรมตะวันตก หรือเกาหลี-ญี่ปุ่น แต่ทางการคงไม่ยอมให้มันล้ำเส้น และออกนอกกรอบวัฒนธรรมแห่งชาติ

          ชาติในอาเซียนไม่เพียงกัมพูชา หรือเมียนมาร์ ชาติอื่นๆ ก็มีการต่อสู้ทางความคิดในประเด็น “วัฒนธรรม” ระหว่างผู้คนในสังคม