คอลัมนิสต์

บันทึกคำบอกเล่า...เด็กสาวเหยื่อค้ากาม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทีมข่าวอาชญากรรม

     แม้ว่า ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ, น.ส.ปิยะวรรณ หรือเมย์ สุขมา และ น.ส.ปิยทัสน์ หรือฟ้า ภาพเทียนสุวรรณ ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยกระทำต่อบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่ถึง 18 ปี จะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาและขอให้การในชั้นศาล

     แต่พนักงานสอบสวนยังมั่นใจพยานหลักฐานที่สามารถขยายผลเอาผิดผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม

ย้อนเหตุการณ์ก่อนนำไปสู่การขอหมายจับผู้ถูกกล่าวหาในเบื้องต้น 3 คน แม่ของเหยื่อบอกเล่าว่า เมื่อปลายปี 2559 ขณะที่อยู่ในเซฟเฮ้าส์ของตำรวจ กก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ตำรวจต้องการจะล่อซื้อประเวณีหญิงขายบริการ จึงได้สอบถามไปยัง ด.ต.ยุทธชัย ซึ่งให้เบอร์โทรศัพท์ของ น.ส.ปิยะวรรณ พูดคุยติดต่อ ซึ่ง น.ส.ปิยะวรรณ ส่งภาพของหญิงสาวที่จะขายบริการให้ดู เมื่อเห็นภาพพบว่ามี น.ส.บี (นามสมมุติ) คนใกล้ชิดรวมอยู่ด้วย จึงวางแผนกับตำรวจเพื่อล่อซื้อดำเนินคดีกับผู้จัดหาหญิงบริการ เมื่อล่อซื้อสำเร็จจึงสอบถาม น.ส.บี ทราบว่า น.ส.ปิยะวรรณ และ น.ส.ปิยทัสน์ ชักชวนให้เสพยาเสพติดแล้วบันทึกภาพไว้ และบังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ยอมก็ข่มขู่จะบอกเรื่องยาเสพติด ทำให้ น.ส.บีจำใจค้าประเวณี อีกทั้งยังทราบว่า น.ส.ซี และ น.ส.ดี (นามสมมุติ) ก็ถูกบังคับให้ค้าประเวณี โดยถูก น.ส.ปิยะวรรณ น.ส.ปิยทัสน์ และ ด.ต.ยุทธชัย ร่วมกันทำร้ายบังคับให้ค้าประเวณีด้วยเช่นกัน

     ทันทีที่แม่เหยื่อได้ร้องทุกข์กล่าวโทษโดยพา น.ส.บี น.ส.ซี และ น.ส.ดี พบพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการตามกฎหมายเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในความผิดฐานค้ามนุษย์ โดย น.ส.บี บอกเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรู้จักกับ น.ส.ปิยะวรรณ และ น.ส.ปิยทัสน์ จนกระทั่งประมาณเดือนพฤศจิกายน 2556 อยู่กับ น.ส.ปิยะวรรณ และ น.ส.ปิยทัสน์ ภายในห้องเช่าโดยมีบุคคลติดต่อมายัง น.ส.ปิยทัสน์ เพื่อให้จัดหาส่งเด็กสาวไปขายบริการทางเพศ ซึ่ง น.ส.บี ทราบว่าบุคคลทั้งสองคนมีอาชีพจัดหาเด็กสาวขายบริการทางเพศ แต่ปรากฏว่าเด็กสาวของ น.ส.ปิยทัสน์ ไม่มีใครว่าง จึงสอบถามว่าสนใจออกงานหรือไม่ น.ส.บีปฏิเสธ แต่ น.ส.ปิยะวรรณ และ น.ส.ปิยทัสน์ ข่มขู่ว่าหากไม่ขายบริการทางเพศจะนำภาพขณะที่เสพยาเสพติดโพสต์ประจานในเฟชบุ๊ก น.ส.บีจึงกลัวและยินยอมขายบริการทางเพศครั้งแรก โดยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของ น.ส.ปิยะวรรณ และ น.ส.ปิยทัสน์ ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อไปส่งให้แก่ลูกค้าและรับเงิน 2,000 บาท โดยได้ส่วนแบ่ง 1,000 บาท ซึ่งหลังจากนั้นยังถูกข่มขู่บังคับให้ขายบริการอีกเดือนละประมาณ 10 ครั้ง โดยทราบว่า น.ส.ซี และ น.ส.ดี ก็ถูกบังคับเช่นเดียวกัน

     น.ส.บี เล่าอีกว่า ประมาณเดือนสิงหาคม 2559 พบกับ ด.ต.ยุทธชัย หลังจากที่ได้รับการติดต่อขายบริการทางเพศที่สถานที่แห่งหนึ่ง ได้ยินเสียง ด.ต.ยุทธชัย และ น.ส.ปิยะวรรณ พูดคุยเรื่องจัดหาเด็กสาว 4 คน ไปส่งที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลาเด็กสาวมาไม่ครบ ด.ต.ยุทธชัยให้ น.ส.ปิยะวรรณ โทรศัพท์ติดต่อ น.ส.ซี มาสมทบ ซึ่ง น.ส.ปิยะวรรณพาเด็กสาวทั้งหมดไปส่งลูกค้าที่จองห้องไว้ และ ด.ต.ยุทธชัยบอกให้ น.ส.ปิยะวรรณ ไปรับเงินที่สถานที่แห่งหนึ่ง

     เช่นเดียวกับ น.ส.ซี ที่เปิดเผยว่า ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2557 กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับ น.ส.ปิยทัสน์ และ น.ส.ปิยะวรรณ จากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ น.ส.ปิยะวรรณโทรศัพท์แจ้งว่าจะมารับที่หอพักโดยให้แต่งตัวสวยดูดี จากนั้นพาขึ้นรถจักรยานยนต์ไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง น.ส.ปิยะวรรณได้ดึงมือลงจากรถจักรยานยนต์แล้วพาไปที่ห้องพัก ก่อนผลักเข้าไปในห้องโดยพูดว่า ให้ทำๆ ไปจะได้มีเงินใช้หรือจะถูกตี ให้ทำตัวดีๆ อย่าให้แขกบ่น

     น.ส.ซี บอกเล่าอีกว่า หลังเสร็จงานได้เงินจากลูกค้า 2,000 บาท โดย น.ส.ปิยะวรรณมารอรับหน้าห้องพักในรีสอร์ท จากนั้นแบ่งเงินให้ 1,000 บาท ซึ่งหลังจากนั้น น.ส.ปิยะวรรณ พยายามติดต่อให้ขายบริการทางเพศ ซึ่ง น.ส.ซีพยายามหลบเลี่ยง จนกระทั่งไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงติดต่อกลับไปหา น.ส.ปิยทัสน์ ว่าไม่มีเงินใช้อยากหาเงิน ซึ่ง น.ส.ปิยทัสน์ พาไปขายบริการทางเพศกับลูกค้าประมาณปีกว่าๆ ระหว่างทำงานทราบว่ามีผู้จัดหาเด็กสาวให้ขายบริการทางเพศคือ น.ส.ปิยะวรรณ, น.ส.ปิยทัสน์,  ด.ต.ยุทธชัย, พี่ตั๊ก, น.ส. “ก”, พี่จอย และ น.ส. “ป” โดยทำงานมากที่สุดวันละ 4 ครั้ง เดือนหนึ่งประมาณ 20 ครั้ง ทำมาประมาณ 2 ปี 6 เดือน จึงเริ่มไม่อยากทำงาน และเดินทางไปพักอาศัยที่ต่างจังหวัด

     ขณะที่ น.ส.ดี เปิดเผยว่า ประมาณเดือนมีนาคม 2556 รู้จักกับ น.ส.ปิยทัสน์ ได้ชักชวนให้ไปเที่ยวที่ห้องอาหารแห่งหนึ่งโดย น.ส.ปิยทัสน์ บอกว่าพี่ชายจะเลี้ยงอาหาร หลังจากรับประทานอาหารเสร็จผู้ชายที่อ้างเป็นพี่ชายให้เงิน น.ส.ปิยทัสน์ 1,000 บาท แต่ก็ไม่ได้สอบถามว่าเป็นเงินค่าอะไร จนกระทั่งถัดมาอีกประมาณ 2-3 วัน น.ส.ปิยทัสน์โทรศัพท์มาบอกว่าให้มาขายบริการทางเพศ จากนั้นก็ทำเรื่อยมา โดย น.ส.ปิยทัสน์เป็นผู้ติดต่อให้ทำงานเดือนละ 20 ครั้ง ได้รับส่วนแบ่งครั้งละ 1,000 บาท ซึ่งภายหลัง น.ส.ปิยทัสน์ ไม่ว่างจึงให้ น.ส.ปิยะวรรณ ทำหน้าที่รับส่งและรับเงินค่าส่วนแบ่งแทน

     น.ส.ดี เล่าว่า การขายบริการทางเพศในแต่ละครั้งได้เงินประมาณ 1,700–2,000 บาท บางครั้งได้ทิปจากลูกค้าโดยลูกค้าเป็นผู้ออกค่าห้องพัก ซึ่ง น.ส.ปิยทัสน์ เป็นผู้ติดต่อและนัดแนะให้ไปพบกับลูกค้า ช่วงประมาณปี 2558 น.ส.ดี พักอยู่ใกล้ห้องพักของ น.ส.ปิยะวรรณ ทราบว่า น.ส.ปิยะวรรณ เป็นคนชอบใช้กำลัง แล้วมักยืมรถจักรยานยนต์ของ น.ส.บี ไปส่งลูกค้า โดยบางครั้ง น.ส.บีก็ไปขายบริการทางเพศด้วยกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งไปเจอรถตู้ตำรวจของ สภ.น้ำเพียงดิน จอดอยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง น.ส.บีไม่กล้าเข้าไปเพราะกลัวพบกับ น.ส.เอ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด อีกทั้งไม่พอใจ ด.ต.ยุทธชัย ที่ใช้คำพูดที่รุนแรงทำนองว่า “พวกมึงไม่เข้าไปจะเก็บพวกมึง จะทำให้ไม่มีที่ยืนใน จ.แม่ฮ่องสอน” น.ส.ดี และ น.ส.บี จึงปรึกษากันก่อนตัดสินใจเข้าไปแล้วได้เงินค่าเสียเวลาคนละ 200 บาทก่อน

กลับไป

     ทั้งหมดคือคำบอกเล่าที่นำไปสู่การคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ซึ่งยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้อยู่ระหว่างการถูกออกหมายจับเพิ่มเติม รวมถึงลูกค้าในเครื่องแบบที่ซื้อบริการทางเพศเด็กสาว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ