คอลัมนิสต์

ถอดหน้ากาก "จารุวงศ์ เรืองสุวรรณ" นี่ไง!! “ลุงเย็นลมป่า”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แม้ประวัติทั่วไป "จารุวงศ์ เรืองสุวรรณ" จะหายาก แต่ถ้าเป็นโปรไฟล์ลูกไม้ใต้ต้น มีเยอะ !!


               ถ้า จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หรือ “ลุงโต้ง” ผู้ที่เจอปัญหาญาติระอา ค่าที่โดนการเมืองกินหัว จนสายตระกูล เรืองสุวรรณ คนอื่นพลอยเดือดร้อนไปด้วย

               ลูกชาย คนโตของเขา จารุวงศ์ เรืองสุรรณ ไม่แน่วันนี้ก็กำลังโดนพี่น้องรุมบ่นแบบเดียวกัน

               เพราะน้องชายและน้องสาว อย่าง “จารุพันธุ์” และ “จารุพัตตรา” ทั้งคู่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางการเมืองแต่อย่างใด

               แต่กับคนพี่ อย่าง จารุวงศ์ เรืองสุวรรณ ที่แม้ประวัติทั่วไปจะหายาก แต่ถ้าเป็นโปรไฟล์ลูกไม้ใต้ต้น มีเยอะ!

               จารุวงศ์ เรืองสุรรณ เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2517 เป็นบุตรคนโตของ จารุพงศ์ และ สุพัตรา เรืองสุวรรณ

               ประวัติการศึกษาชั้นต้นของเขา ไม่มีแจ้งไว้ในฐานข้อมูล หากแต่พบว่า เขาได้ทำวิทยานิพนธ์ ป.เอก ในหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ จ.ปทุมธานี เมื่อปี 2556

               ซึ่งเวลานี้ คงมีตำแหน่ง “ดอกเตอร์” นำหน้าไปแล้ว นอกเหนือจากยศ “นายหมวดตรีจารุวงศ์” ที่บางคนเรียก โดยมิได้บอกที่มาที่ไป

               อย่างไรก็ดี หากว่ากันที่งานการเมืองในนามพรรคเสื้อแดง ที่เขาเดินตามพ่อแบบติดๆ แม้จะยังมาไม่ไกลเท่า แต่ จารุวงศ์ ก็เคยนั่งเก้าอี้เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จักรภพ เพ็ญแข เมื่อปี 2551

               จนเมื่อบิดาเริ่มขึ้นหม้อในพรรคเพื่อไทย ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปี 2554 ได้นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค จารุวงศ์ ผู้ลูกก็ได้เป็นเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ต่ออีกด้วย

               จนภายหลัง บิดายังได้เป็นถึง รัฐมนตรีคมนาคม และรัฐมนตรีมหาดไทยต่อในรัฐบาลปู 3 จนมาเป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” เมื่อปี 2555 เวลานั้น จารุวงศ์ คงแอบหวังอะไรๆ มิใช่น้อย

               แต่แล้วเมื่อสะพานขาดลงในปี 2557 จากเหตุรัฐประหาร โดย คสช. เรื่องราวจึงพลิกผันมาจนทุกวันนี้

               มีเรื่องเม้าท์กันวงใน กล่าวถึงสองพ่อลูกคู่นี้ ว่า ที่มาถึงขนาดนี้ได้เพราะเป็น “คนของคนที่ดูไบ” แต่หากถามว่าคืออะไรกันน้า ? ก็ต้องย้อนไปดู ตอนที่นักการเมืองฝั่งเพื่อไทยตกงานเพราะ คมช. ตั้งแต่ปี 2549

               ช่วงปี 2552 ท่ามกลางสงครามเสื้อแดง ก็เกิดกระบอกเสียงพรรคการเมือง ผ่านสื่อโทรทัศน์กันทั้งฟ้า ทั้งแดง โจ๋งครึ่ม

               ทีวีแดงดาวเทียม Asia Update ที่ทำเพื่อช่วยให้บางคนได้กลับบ้าน ก็มีชื่อของ จารุพงศ์ ผู้พ่อ เป็นกรรมการถือหุ้น 15,000 หุ้น และ จารุวงศ์ ผู้ลูก ถือหุ้นอยู่ 10,000 หุ้น นอกเหนือจากรายชื่ออื่นๆ (ก่อนที่ภายหลัง ช่วงปี 2554 ผู้พ่อได้โอนหุ้นทั้งหมดให้คนอื่น เพื่อไปรับตำแหน่งทางการเมืองของรัฐบาลเสื้อแดง)

               ขณะที่ จารุวงศ์ ผู้ลูก ก็ยังเคยได้ลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2552 หลังจากที่ศาลสั่งยุบพรรคไป 3 พรรค คือ พรรคพลังประชาชน , พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ก่อนหน้านั้น

               แต่พื้นที่ กทม. เขต 10 มิได้เทใจให้กับพรรคเพื่อไทย เพราะ จารุวงศ์ พ่ายเป็นรองให้กับ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ พรรคประชาธิปัตย์

               หลังจากนั้น จารุวงศ์ ก็ใช่ว่าจะเดินเล่น เตะฝุ่น อยู่ในพรรค แต่ก็ยังมีผลงานแปลกๆ ออกมา

               เช่น ช่วงเดือนกรกฎาคม 2552 เขาเป็นแกนนำในการทำพิธีหงายบาตรแก้กรรมให้กับทักษิณ ที่วัดแก้วฟ้า จ.นนทบุรี แต่ตอนหลังมีคนร้ายบุกเข้าขโมยพระพิฆเนศที่ใช้ในพิธีดังกล่าวไป

               วันนั้น จารุวงศ์ กล่าวว่า งานนี้มีเจตนาเพื่อจะทำลายพิธีหงายบาตรแก้กรรมให้กับทักษิณ แต่ไม่กระทบอะไร เพราะได้ทำสำเร็จและแก้กรรมให้กับทักษิณไปแล้ว

               “จะกลุ่มเสื้อเหลืองศัตรูดั้งเดิม หรือรัฐบาล หรือกลุ่มเสื้อน้ำเงินที่สลับขั้วไปนั้น ยังไม่ปักใจว่าเป็นฝีมือของกลุ่มไหน แต่คนที่ทำอย่างนี้จะได้รับผลกรรมในไม่ช้า” (ว้าว)

               ถึงจะงั้นก็เหอะ จารุวงศ์ คนนี้ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เพราะเขาเคยได้รางวัลลูกกตัญญู นะเอ้า!

               โดยเป็นรางวัล “ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่” ปี 2555 ของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ ซึ่งขณะนั้นเป็นที่ปรึกษาเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอีกด้วย

               แต่เมื่อเส้นทางชีวิตพลิกผัน ช่วงปี 2557 ไม่น่าเชื่อว่าชื่อ จารุวงศ์ กลับมาโผล่เป็นผู้หลบหนีคดี ที่ตามด้วยหมายจับอีก 6 คดี

               จากการที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดไม้แปรรูปจำนวนมาก มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ที่ปายริเวอร์ร็อครีสอร์ท อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเขาเป็นเจ้าของ

               แถมยังมีการตรวจพบวัตถุระเบิดและชิ้นส่วนอาวุธสงครามอีกหลายรายการ รวมทั้งสัตว์ป่าสงวน เช่น เก้ง กวางและไก่ป่า

               วันนี้ เจ้าตัวและบิดาจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ โดยพ่อเป็นประธาน “องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย” หรือ The Organization of Free Thai for Human rights and Democracy (OFHD) ขณะที่ตัวเอง ก็คอยเดินสายพบปะ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ในต่างแดน

               อย่างล่าสุดทาง ยูทูบ ดร.จารุวงศ์ ได้ฟุตฟิตฟอไฟ ที่ ม.ฮาร์วาร์ด เมื่อ 6 มีนาคม 2558 แถลงถึงจุดยืนของกลุ่ม

               แปลเป็นไทย ประมาณว่า OFHD ไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับพี่น้องชาวไทย แต่ไม่ยอมรับอำนาจของคณะรัฐประหาร และจะต่อสู้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกอย่างเสรีตามระบอบการปกครองตามหลักการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

               อีกบทบาทหนึ่งของ “จารุวงศ์” คือ การจัดรายการประเภท “เรื่องเล่าลับ-ลับ” ทางยูทูบ ในนาม “เย็นลมป่า” หรือที่แฟนคลับเรียกว่า “ลุงเย็นลมป่า”

               หากเข้าไปดูในเฟซบุ๊ก ของ OFHD จะพบว่า มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยมากเป็นผลงานของ เสน่ห์ ถิ่นแสน (หรือนามแฝง ดร.เพียงดิน รักไทย) ชูพงศ์ ถี่ถ้วน , และ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ

               ทั้งนี้ หากดูถึงที่อยู่ของ OFHD จะพบว่า ตั้งอยู่ที่ ซานบรูโน่ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้จะไกลจากบ้านของ จารุพัตตรา อาร์ นีล ลูกสาวของจารุพงศ์ (อาร์ คือตัวแรกของนามสกุลเดิม Ruangsuwan) โดยเธอไปสร้างครอบครัวปักหลักอยู่ที่ ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ มานานมากแล้ว

               แต่มีข้อมูลทางออนไลน์ในแอพพลิเคชั่นที่ปักหมุดการเดินทางพบว่า เธอเคยไปมาระหว่าง 4 รัฐ คือ แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย อิลลินอยส์ และวอชิงตัน

               ขณะที่ เคยมีข่าวจากหน่วยข่าวกรองของ คสช. ที่ให้ข้อมูลแก่สำนักข่าวอิศรา ว่า ช่วง 2 - 3 เดือน ก่อนรัฐประหาร 2557 ลูกสาวคนนี้ได้เดินทางเข้ามาในไทย และตั้งคำถามว่า อาจมีส่วนช่วยเหลือคนในครอบครัวหลบหนีออกนอกประเทศหรือไม่

               นี่จึงเป็นเรื่องราวของ “จารุวงศ์” แห่งตระกูล เรืองสุวรรณ ที่เลือดการเมืองนี้ ได้พ่อมาเต็มๆ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ