ช้างอินดี้!! ป่วนทั้งหมู่บ้าน ลุ้นพา "แก้ว" คืนป่า

          แทบจะไม่มีใครรู้ว่า แต่ละวัน มีเรื่องราวของ “น้องช้าง” ให้คนรักช้างได้ติดตามไม่เว้นแต่ละวัน

          ล่าสุด กับการลุ้นให้ “แก้ว อินดี้” ได้เดินทางกลับบ้าน ก็มีเรื่องราวระหว่างทาง ที่ทั้งสนุกสนาน ลุ้นเอาใจช่วย น่าหมั่นไส้ และสงสารเอ็นดู คละเคล้ากันไป

          แรกเริ่มเดิมที คนไทยได้ยินข่าวนี้ จากสื่อหลักที่ระบุถึง ช้างป่าตัวหนึ่ง พลัดหลงออกมาจากป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง เข้ามาหากินในเขตเทศบาลเมืองแกลง จ.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา แล้วไม่ยอมไปไหน

          สื่อเรียกกันว่า “พลายสีดอแก้ว” อายุประมาณ 13-15 ปี แถมยังให้ฉายาว่า “ช้างป่าจอมแสบมือวางอันดับหนึ่งภาคตะวันออก”

          ที่เรียกเช่นนั้น เพราะมันเที่ยวไปกินกล้วย กินอ้อย แถมด้วยมะม่วงอีกหลายกิโลฯ ของชาวบ้าน เรียกว่าตระเวนกินไปหลายอำเภอ ใน จ.ระยอง และภาคตะวันออก

          โดยนับแต่วันแรกจนถึงวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้งเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติการเขายายดา หน่วยเฝ้าติดตามช้างสีดอแก้ว เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เขาชะเมา ที่ติดตามช้างสีดอแก้ว พวกเขาทำได้เพียงคอยเฝ้าระวัง ตาปริบๆ

          เรื่องราวของแก้ว จึงอยู่ในความสนใจของคน โดยเฉพาะยังมีข้อมูลว่า ช้างสีดอแก้ว ชอบออกเดินหากินไปทั่ว เคยข้ามไปประเทศเขมรมาแล้ว (โอ้วแม่เจ้า)

          แถมช่วงปี 2557 ที่ผ่านมา ได้ออกจากป่าหากินในสวนของชาวบ้านนานร่วม 2 เดือน จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธียิงยาซึม แล้วช่วยกันนำขึ้นรถไปส่งกลับเข้าป่า แต่ไม่นานก็เดินออกมาหากินอีก

          จึงถือเป็นช้างป่าจอมแสบอันดับหนึ่งของภาคตะวันออกในขณะนี้

          แต่ดูเหมือนว่า ยาซึม จะไม่ทำให้ เจ้าแก้ว ทดท้อ ถดถอย แบบว่า “ก็ใจมันอยากไป!!!” (แก้วไม่ได้กล่าวไว้)

          ล่าสุด เรื่องนี้ ยังปรากฏในเฟซบุค “หมู สาริกา” แห่งชมรมฅนรักสัตว์-ป่า บอกเล่าเรื่องของแก้ว ไว้อย่างน่ารัก น่าชัง

          โดยเรียกมันว่า “แก้ว อินดี้” ซึ่งฉายานี้ ได้มาจากความเป็นนักเดินทาง บวกกับมีนิสัยใจคอน่ารัก สุขุมเยือกเย็น เรียนรู้และปรับตัวเข้ากับสังคมมนุษย์ได้ดี

          บางคนบอกว่า “แก้ว” คือนักเดินทางที่ไม่ได้กำหนดระยะทางจนถึงจุดสิ้นสุด แต่การเดินทางทุกๆ ครั้งของแก้วมันมีความหมาย…แค่ “อิ่ม” (ฮา)

          ดังนั้น ภาพแรกของแก้วที่ปรากฏในไทม์ไลน์ของ “หมู สาริกา” ที่โพสต์ถึง การเยี่ยมชมโรงงานมะม่วงอบแห้งของแก้ว อินดี้ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า

          “นับตั้งแต่วันที่แก้ว อินดี้ เริ่มออกเดินทางอำลาสถานฟื้นฟูสุขภาพช้างป่าอ่างฤาไน หรือ “โครงการจัดการช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์” บ้านทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว

          สีดอแก้ว ศิลปินเดี่ยวก็บ่ายหน้าไปตามเข็มทิศชี้บอกทางตะวันตกเฉียงใต้ เป้าหมายของแก้วคืนถิ่นเก่าเคยหากิน ก่อนถูกพามาที่โครงการจัดการช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์

          ถิ่นเก่าที่แก้วจดจำไล่ไปตั้งแต่เขาชะเมา เขาสิบห้าชั้น และเขาคิชฌกูฏ ซึ่ง ณ วันนี้สีดอแก้ว อินดี้ก็เดินทางมาถึงสามย่าน แกลง อยู่ห่างจากถนนสุขุมวิท(แกลง-บ้านบึง) 300 เมตร

          มีพี่เลี้ยงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ช้างอ่างฤาไน และทีมอาสาเฝ้าระวังช้างแก่งหางแมว ดูแล 24 ชม. อีกด้วย”

          วันต่อมา การเกาะติดชีวิตผู้บ่าวขาเลาะ “แก้ว อินดี้” ผ่านไทม์ไลน์ของ หมู สาริกา ยังคงดำเนินไป โดยระบุว่า

          วันที่ 22 มีนาคม แก้ว อินดี้กินอิ่มนอนหลับช่วงใกล้เพลเวลาประมาณ 10.10 น. ตื่นลืมตามองโลกอันโสภาประมาณบ่าย จากนั้นก็เดินหากินอาหารตามฤดูกาลอยู่ข้างวัดหลวงปู่บุญ ต.บ้านนา อ.แกลง ระยอง วนไปยาวๆ

          กระทั่ง วันที่ 23 มีนาคม การเดินทางของแก้ว ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยพอสายๆ ใกล้เพล แก้วยังคงปฎิบัติภารกิจเช่นเดิม แต่วันนี้แก้วเริ่มเคลื่อนที่แล้วไปทางทิศใต้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปหาหมู่ที่.1 บ้านหนองกันเกา ต.ทางเกวียน อ.แกลง ห่างจากจุดเดิมริมถนนสุขุมวิท ประมาณ 3 กม.

          จนกระทั่ง วันที่ 25 มีนาคม เรื่องของแก้วดำเนินมาถึงอีกจุดหนึ่ง ซึ่งเจ้าของเฟซบุคระบุว่า “แก้ว คืนคอน”

          “เช้าวันนี้สดใส เรามาติดตามดู“แก้ว อินดี้” กันต่อไป หลังจากเมื่อคืนแก้วกว่าจะหลับก็ตีสามเศษๆ เช้านี้เลยตื่นสายเล็กน้อยก่อนออกเดินตามทีมอารักขา สู่เป้าหมายต่อไปเขาชะเมา

          นั่นอาจแปลว่า แก้วยังคงต้องหาเรื่อง “อิ่ม” อีกเยอะระหว่างทาง

          แต่การเดินทางของแก้ว ไม่เคยเหงา เพราะอย่างที่เกริ่นว่า มีทีมเกาะติดไม่ห่าง อย่าง กลุ่มอนุรักษ์ช่วยเหลือสัตว์ป่า เจ้าหน้าที่หน่วยคลองครก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา

          แถมด้วยความน่ารักของแก้ว ก็ทำให้โชคดีได้ทั้งชาวบ้านระหว่างทาง เช่น ต.บ้านนา ต.ทางเกวียน ที่นำของอร่อยมาให้ ทั้งกล้วย ขนุน ยังมีเจ้าของโรงอบแห้งมะม่วง ที่แก้วไปเยี่ยมเยียน ไหนจะยังมีแฟนเพจที่เข้ามาคอมเม้นท์เอาใจช่วย และติดตามกันอย่างเกาะติด

          สำหรับ หมู สาริกา เขาคือ บดินทร์ จันทศรีคำ หรือ น้าหมู (ลุงหมู) สาริกา ของพี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักดีในแวดวงคนรักษ์สัตว์ป่าถึงความทุ่มเทเสียสละ รวมถึงวัตถุประสงค์และแนวทางการปฏิบัติของชมรมคนรักษ์สัตว์ป่า เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน

          ก็ไม่รู้ว่า แก้ว อินดี้ จะเดินทางกลับถึงบ้านหรือไม่ บางทีอาจแวะกินแวะเที่ยวไปเรื่อยๆ ตอบสนองนโยบาย ททท. ลัลลาไปตามประสา “ขาเลาะ”