คอลัมนิสต์

จับพิรุธ“ปริศนาฆาตกรรม”เศรษฐินีชาวจีนบนเกาะสมุย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ความไม่ชอบมาพากลมาปรากฏ เมื่อครอบครัวของนางลิน ลิน ไม่ยอมแพ้ และได้รวบรวมหลักฐานเท่าที่มียื่นฟ้องต่อศาลเอง ปรากฏว่าศาลประทับรับฟ้อง"

       คดีการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของ นางลิน ลิน เศรษฐินีชาวจีน ในบ้านพักตากอากาศหรูบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อกว่า 4 ปีก่อน กำลังถูกตรวจสอบย้อนกลับโดยคณะทำงานชุดพิเศษที่กระทรวงยุติธรรมตั้งขึ้น  เนื่องจากพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นฆาตกรรมอำพราง โดยสามีของนางลิน ลิน เอง แต่คดีกลับไปไม่ถึงศาล เพราะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของดีเอสไอ และอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง

     ดีเอสไอดึงคดีนี้มาเป็นคดีพิเศษท่ามกลางความกังขาของหลายฝ่าย เพราะคดีไม่ได้มีความสลับซับซ้อนใดๆ แถมเหลือเวลาควบคุมตัวผู้ต้องหาชั้นก่อนฟ้องเพียง 1 เดือน เมื่อรับคดีมาทำ กลับทำความเห็น “สั่งไม่ฟ้อง” และส่งให้อัยการอย่างกระชั้นชิด เหลือเวลาพิจารณาสำนวนเพียง 3 วัน สุดท้ายก็มีความเห็น “สั่งไม่ฟ้อง” เช่นกัน

     ความไม่ชอบมาพากลมาปรากฏ เมื่อครอบครัวของนางลิน ลิน ไม่ยอมแพ้ และได้รวบรวมหลักฐานเท่าที่มียื่นฟ้องต่อศาลเอง ปรากฏว่าศาลประทับรับฟ้อง ทำให้กระทรวงยุติธรรมตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อนำเสนอให้อัยการพิจารณาใหม่

     กระบวนการนี้ เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 ที่เปิดช่องให้อัยการพิจารณาสั่งคดีใหม่ได้ หากมีพยานหลักฐานใหม่ปรากฏชัดซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหา ถือเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ “แพะในคดีอาญา” รูปแบบหนึ่ง เพียงแต่แพะกรณีนี้เป็น “แพะที่ไม่มีลมหายใจ”

    แนวทางการเดินหน้าค้นหาพยานหลักฐานใหม่ของคณะทำงานชุดพิเศษ เริ่มต้นจากการยื่นหนังสือถึงพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ผู้รับผิดชอบคดีในตอนแรก เพื่อขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงประสานขอสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นพนักงานโรงแรมหรูบนเกาะสมุย และพยานคนอื่นๆ รวม 58 ปาก

     นอกจากนี้คณะทำงานยังประสานไปยังหัวหน้าศาลจังหวัดเกาะสมุย เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่ครอบครัวของนางลิน ลิน ยื่นฟ้องโดยตรงต่อศาลเอง กล่าวหานายลิน ยู ผู้เป็นสามีว่าฆาตกรรมอำพรางภรรยาตัวเอง และศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้อง

     พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงแนวทางการรื้อคดีนี้ว่า ทางคณะทำงานชุดพิเศษ นำโดย พ.ต.ท.เบญจพล จันทวรรณ ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ได้ดำเนินการควบคู่กันไป 2 ส่วน ส่วนแรกคือการหาข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอชุดเก่ารับสำนวนมาเป็นคดีพิเศษ และใช้เวลาเพียง 1 เดือนก็มีคำสั่งไม่ฟ้องคดี จนทำให้คดียุติไปท่ามกลางความแคลงใจของครอบครัว

     ส่วนที่สอง คือการหาข้อมูล หรือพยานหลักฐานใหม่ เพื่อนำไปประกอบในสำนวน โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน

    พยานหลักฐานใหม่ของคดีนี้ เจ้าหน้าที่ในคณะทำงานชุดพิเศษบอกว่า เป็นการพิสูจน์ทราบถึงข้อเท็จจริงบางอย่างที่ไม่ถูกพูดถึงในสำนวนการสอบสวนเดิม โดยแบ่งเป็น 2 ประเด็น

     ประเด็นแรก คือหลักฐานและวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ เช่น เสื้อผ้าของผู้ตายที่หายไปจากที่เกิดเหตุ, การสลับสับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของนายลิน ยู ในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ รวมทั้งนาฬิกาที่ผู้ตายสวมใส่ที่หน้าจอแตกหลังจากเสียชีวิต ข้อมูลเหล่านี้ไม่ถูกหยิบยกหรือเอ่ยถึงในสำนวนเดิมมากนัก

      อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือนำอำนาจพิเศษตามกฎหมายของดีเอสไอมาบังคับใช้ ประกอบกับประสานข้อมูลจากต่างประเทศ ทั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศสวีเดน ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการพัวพันฆ่าภรรยาเก่าของนายลิน ยู มาร่วมในการพิจารณา ซึ่งก็อาจพบข้อมูลใหม่ที่เป็นประโยชน์แห่งคดีและนำไปใช้ในชั้นศาลได้

     ต้องติดตามกันต่อว่าพยานหลักฐานในสำนวนคดีเดิม กับพยานหลักฐานใหม่ที่คณะทำงานชุดพิเศษรวบรวมได้ มีความแตกต่างกันอย่างไร และจะนำไปสู่การรื้อฟื้นคดีเพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่“แพะไม่มีลมหายใจ” ได้หรือไม่

    ตำรวจท้องที่ตั้งประเด็นว่า นายลิน ยู สามีของเธอเองเป็นฆาตกร แต่ต่อมาคดีถูกบิด และถูกโอนไปยังหลายหน่วยงาน สุดท้ายอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ทำให้คดีเกือบจะต้องยุติลง ยังดีที่ครอบครัวผู้เสียหายยื่นฟ้องเอง และศาลประทับรับฟ้อง

     จากการลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานใหม่ของ “ทีมรื้อคดี” กระทรวงยุติธรรม พบข้อมูลว่า บ้านพักตากอากาศหลังที่เกิดการตาย ครอบครัวของนางลิน ลิน ซื้อไว้ในราคา 130 ล้านบาท สำหรับเป็นที่พักผ่อนยามเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย มีลักษณะเป็นรีสอร์ทส่วนตัว อยู่ในพื้นที่ของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว มีความเป็นสัดส่วน และมีสระว่ายน้ำในตัว

     นางลิน ลิน พร้อมกับนายลิน ยู ผู้เป็นสามี ได้เข้ามาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย และได้เข้าพักที่บ้านพักตากอากาศหลังนี้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคม 2556 กระทั่งคืนเกิดเหตุ 18 มกราคม ข้อมูลที่พนักงานโรงแรมให้ปากคำไว้กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ระบุว่า นายลิน ยู ทะเลาะกันกับนางลิน ลิน จนมีปากเสียงกันรุนแรง จากนั้นนางลิน ลิน ได้จัดกระเป๋าเดินทาง และเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเดินทาง เธอจึงเรียกให้พนักงานโรงแรมมาเช็ดตัวให้นายลิน ยู ซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรา ก่อนจะพบว่าตอนรุ่งเช้า นางลิน ลิน เสียชีวิตแล้ว

     หลังเกิดเหตุ นายลิน ยู ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า นางลิน ลิน จมน้ำเสียชีวิต แต่คดีมีพิรุธหลายอย่าง

     ประเด็นแรกคือท่าทีของนายลิน ยู ที่พนักงานสอบสวนบอกว่าไม่แสดงอาการเสียใจแม้แต่น้อย ประเด็นต่อมา พนักงานสอบสวนพบรองเท้าแตะของนางลิน ลิน ในสระว่ายน้ำ จึงไม่คิดว่านางลิน ลิน จะใส่รองเท้าแตะลงไปว่ายน้ำด้วย

     เอกสารผลการชันสูตรพลิกศพนางลิน ลิน จากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏสาเหตุการตายว่า ขาดอากาศหายใจจากการกดรัดบริเวณลำคอ ข้อมูลนี้สอดคล้องกับสภาพศพของผู้ตายที่พบรอยแดงรอบลำคอ นอกจากนั้นในวันเกิดเหตุ จากการตรวจร่างกายนายลิน ยู ผู้เป็นสามี ยังพบบาดแผลคล้ายรอยขีดข่วนลึก บริเวณไหล่ ซึ่งนายลิน ยู อ้างกับพนักงานสอบสวนว่าเป็นรอยแผลที่เกิดจากการเกา

     เมื่อผู้ต้องสงสัยอ้างเช่นนี้ เจ้าหน้าที่จึงทดลองให้นายลิน ยู ใช้มือทั้งมือซ้ายและมือขวาเกาตามจุด   ต่างๆ ของร่างกาย แต่เมื่อทดลองแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่า เป็นไปได้ยากที่รอยแผลนี้จะเกิดจากการเกา

     ข้อมูลนี้ยังสอดคล้องกับหลักฐานการตรวจชีววิทยาและดีเอ็นเอจากกองพิสูจน์หลักฐาน ที่พบว่าซอกเล็บมือของนายลิน ยู มีเนื้อเยื่อของนางลิน ลิน ติดอยู่ และแม้ว่าเล็บมือของนางลิน ลิน ไม่พบเนื้อเยื่อของนายลิน ยู แต่นั่นอาจเป็นไปได้ที่เนื้อเยื่อจะหลุดไปเพราะศพจมน้ำเป็นเวลานาน

     อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ คือนาฬิกาที่นางลิน ลิน สวมใส่ หยุดเดินก่อนที่นายลิน ยู จะแจ้งเจ้าหน้าที่นานหลายชั่วโมงว่าภรรยาเสียชีวิต โดยนาฬิกาน่าจะหยุดเดินจากการจมน้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นางลิน ลิน อาจเสียชีวิตมาก่อนหลายชั่วโมงแล้ว กว่าที่นายลิน ยู จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบในตอนเช้า

     นอกจากนั้นยังมีประเด็นเรื่องเสื้อผ้าของนายลิน ยู ที่สวมใส่ก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเป็นคนละชุดกัน พนักงานสอบสวนจึงมองว่า นายลิน ยู อาจเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังก่อเหตุฆาตกรรมภรรยา และจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังหาเสื้อผ้าชุดเดิมไม่พบ

    คดีมีพิรุธเยอะขนาดนี้ พลิกผันได้อย่างไร ติดตามต่อวันพรุ่งนี้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ