คอลัมนิสต์

มาตรการ“ทรัมป์” ทำ“โรบินฮูดไทย” ผวา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"โรบินฮูด" หนทางสร้างโอกาสของใครหลายๆคน จะเป็นอย่างไรเมื่อ นโยบาย "โดนัลด์ ทรัมป์" ไม่ต้อนรับอีกต่อไป

"ตอนนี้ตกใจกันมาก เพราถ้าจะตามจับกันจริงๆแล้วจะทำอะไรไม่ได้เลย"

 

จากกรณีที่กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ ประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศนโยบายใหม่เพื่อจัดการผู้อพยพผิดกฎหมายโดยจะจัดการกับผู้อพยพผิดกฎหมายในสหรัฐอย่างเข้มงวด โดยการผลักดันผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศ ทำให้สหรัฐฯสามารถเนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ทันที หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอยู่ในสหรัฐฯ มานานกว่าสองปี และภายใต้แนวทางใหม่นี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและเนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ในเกือบทุกกรณีและทุกพื้นที

  

 ทำให้ทีมข่าว “คมชัดลึก” ลองสอบถามคนไทยในสหรัฐอเมริกาว่าผู้ที่เข้้าข่ายโรบินฮูดได้รับผลกระทบหรือไม่

 

"บรรลือ สอนบาลี" ผู้ประกอบธุรกิจไทย-อเมริกัน ในนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่านโยบายดังกล่าวไม่มีผลกระทบ หรือมีผลกระทบไม่มากเมื่อเทียบกับคนจากอเมริกากลางและใต้ แต่กฏหมายใหม่ที่จะออกมาใช้ก็ทำให้คนตระหนักเหมือนกัน แต่ไม่มีใครกลัว เพราะก็ยังใช้ชีวิตกันเป็นปกติ โดยเฉพาะในลอสแงเจลิสและเมืองอื่นๆในแคลิฟอร์เนีย เพราะคนไทยจะอาศัยในเมืองใหญ่เพื่อการทำงาน และเมืองเหล่านี้ ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลกลาง ดังที่ถูกเรียกว่า sanctuary cities คือตำรวจเมืองเช่น แอลเอพีดี.หรือตำรวจเคาท์ตี้ ที่เรียกว่าเชอร์รีฟ จะไม่มาคอยไล่จับคนต่างด้าว เพราะไม่ใช่หน้าที่ของเขา หน่วยงานที่จะจับได้ต้องเป็นตำรวจอิมมิเกรชั่นของรัฐบาลกลางที่เรียกว่า ice  แต่เจ้าหน้าที่ไอซ์มีไม่มากนอกจากนี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ชิคาโก นิวยอร์ค วอชิงตัน ไม่ให้ความร่วมมือกับนโยบายนี้

 

“สำหรับคนไทยหรือโรบินฮู้ดไทยที่อยู่ในสหรัฐฯก็ไม่มีใครกลัว แต่ก็ต้องระวังตัวอย่าทำผิดกฏหมาย เพราะหากทำผิดกฏหมายอาญา และมีสถานะที่ไม่ถูกต้อง อย่างนั้นคงลำบาก” 

 

"บรรลือ" บอกอีกว่า ส่วนใหญ่ทางเทกซัส และรัฐตอนใต้ที่เป็นรีพับลิกัน เขาก็ให้ความร่วมมือ แต่แคลิฟอร์เนีย เศรษฐกิจเดินได้ด้วยแรงงานต่างด้าว ซึ่งแยกกันยากมากและจะไม่มีคนทำงาน นอกจากนี้กรณีกรณีเมืองเล็กๆ เพราะไอซ์ดูทั่วถึง แต่เมืองใหญ่อย่างลอสแองเจลิสคงยาก

 

เมื่อถามว่าสถานะของคนไทยทั้งถูกฎหมายและผิดกฎหมายหลังการขึ้นสู่ตำแหน่งของทรัมป์มีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่  นายบรรลือกล่าวว่า ก็มีบ้าง อย่างตนที่เป็นผู้ประกอบการ ก็จะสกรีนคนมากขึ้นต้องรู้ว่าใครเป็นใคร ไม่หละหลวมเหมือนเมื่อก่อน ต้องเช็คไอดี เช็คแบคกราวนด์ ถ้าทำได้ ตนไม่รับเด็กไม่มีใบ หรือแต่ก่อนให้เลขโซเชียลมา เราก็หยวน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าเลขจริง หรือปลอม หรือยืมใครมาใช้แต่ตอนนี้เรารันเลขเลยครับ เราต้องรู้ว่า ใครเป็นใคร สถาณภาพการอยู่ในเมืองอยู่แบบไหน

 

เมื่อถามว่าจะทำให้โรบินฮูดลำบากขึ้น นายบรรลือกล่าวว่า อันนี้ยากแน่นอน ผู้ประกอบการคงไม่อยากเสี่ยงไม่คุ้ม

 

ด้าน “ชัยวัฒน์ วัฒโล” คนไทยที่ไปทำงานในนิวยอร์กอย่างถูกกฎหมาย เปิดเผยว่า นโยบายดังกล่าวใรผลกระทบโดยตรง แม้ว่าหลักจะอยู่ที่คนลาตินอเมริกา และคนแม็กซิโก เพราะเป็นการขยายฐานการจับกุม จากเดิมให้อำนาจเฉพาะเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือ (หรือ ICE) ก็มาให้อำนาจกับตำรวจท้องที่ด้วย นอกจากนี้ขยายฐานการจับกุมจากเดิมที่จะสนใจกับผู้หลบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายเฉพาะกรณีที่ไปก่ออาชญากรรมใหญ่ๆ แต่ครั้งนี้รวมถึงการกระทำผิดกฎหมายเล็กน้อยด้วย นอกจากนี้ยังมีการลิดรอนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยตัดขั้นตอนลัดขั้นตอนทุกอย่างและไปถึงขั้นตอนการเนรเทศโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามเท่าที่ตนติดตามดูตอนนี้มีเพียงนโยบายแต่ยังไมมีแนวระเบียบปฏิบัติออกมาจากกระทรวงยุติธรรมซึ่งต้องตามดูต่อไป

มาตรการ“ทรัมป์” ทำ“โรบินฮูดไทย” ผวา

 

"ชัยวัฒน์" กล่าวต่อว่าทั้งนี้สร้างความตื่นตระหนกให้กลุ่มคนไทยที่เข้ามาทำงานในสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย ทุกคนกลัวมากมีข่าวลือตลอดว่ามีการจับกุมที่โน่นที่นี่ เราก็ต้องคอยเช็คข่าวกัน อย่างในลอสแองเจลิส หรือ นิวยอร์ก ยังไม่เท่าไหร่ เพราะเป็นรัฐที่ถูกเรียกว่า sanctuary cities กล่าวคืออะลุ่มอล่วยกับผู้ที่ทำงานอย่างผิดกฎหมาย แต่รัฐที่สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมพ์ อย่าง อริโซนา และ เท็กซัสนั้นน่าเป็นห่วง

 

 

“ตอนนี้ตกใจกันมาก เพราถ้าจะตามจับกันจริงๆแล้วจะทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะไปเปิดบัญชีธนาคาร การซื้อของผ่านอีเบย์ หรือการจ่ายผ่านเพย์พาล (Paypal) เพราะจะรู้ว่าอยู่ที่ไหน เพราะต้องมีการลงทะเบียนเอาไว้ หรืออย่างการเปิดบัญชีธนาคารที่เมื่อก่อนทำได้โดยง่ายแค่มีหมายเลขโทรศัพท์แต่ตอนนี้่เขาต้องทราบสถานะของการอยู่ในสหรัฐฯว่าอยู่แบบไหน ส่วนคนที่หมายจับ หรือทำผิดก็ต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อบๆ หรือกระทั่งพยายามไม่ขับรถ ทำผิดเล็กๆน้อยๆก็มีโอกาสเสียงถูกจับสูงมาก ” ชัยวัฒน์เล่าถึงสภาพที่เกิดขึ้น

 

"ชัยวัฒน์" ระบุต่อว่า นโยบายนี้จะกระทบกับเศรษฐกิจเพราะจต้องยอรับว่างานที่คนที่อยู่อย่างผิดกฎหมายทำนี้เป็นงานที่คนอเมริกาไม่ทำเช่นล้างจาน ตัดใบยาสูบ

    

เรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศโดย นายจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ รองอธิบดีกรมการกงสุล ระบุว่า ในหลักการแล้ว คนไทยในต่างประเทศจะต้องเคารพ และดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายบ้านเมืองของประเทศนั้นๆ ยกตัวอย่าง ถ้าพบคนไทยพำนักอยู่ในประเทศนั้นๆ อย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าการอยู่แบบไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง วีซ่าผิดประเภท หรือวีซ่าขาดอายุ หากถูกทางการประเทศนั้นๆจับกุม และเตรียมส่งกลับ โดยรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายการเดินทางทั้งหมด แต่จะมีการประสานแจ้งมายังสถานเอกอัครราชทูต หรือกงสุลใหญ่ไทย ให้ทราบ ปกติแล้วกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการก็ต่อเมื่อมีการร้องขอจากคนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างกรณีดังกล่าว จะเป็นเรื่องการออกเอกสารสำคัญประจำตัว (ซีไอ) ใช้แทนหนังสือเดินทางเพื่อกลับประเทศ

 

ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ขอแนะนำคนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย ให้พยายามปฏิบัติตามกฎหมายของสหรัฐฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหา และถูกส่งตัวกลับประเทศ แม้ว่า กระทรวงฯ จะไม่มีสถิติคนไทยที่อยู่อย่างผิดกฎหมายในสหรัฐฯ เพราะเป็นเรื่องที่พวกเค้าไม่ต้องการเปิดเผยสถานะอยู่แล้ว แต่ก็เป็นที่รู้กันอยู่ในเครือข่ายและชุมชนคนไทยที่นั้น อย่างไรก็ตาม จากการติดตามนโยบายสหรัฐฯ ในเรื่องนี้ ยืนยันว่า สหรัฐฯ ปราบปรามและดำเนินการเอาผิดอย่างจริงเอาจัง โดยจับส่งกลับประเทศจริงๆ จึง อยากให้คนไทยที่เป็นโรบินฮู้ดในสหรัฐฯ คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา และสวัสดิภาพของตนเองด้วย

  

เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากนโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์”หลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี ทำให้หลายที่ปรารถนาจะไปเป็น “โรบินฮูด” เพื่อ “ขุดทอง” สร้างอนาคตในดินแดนแห่งโอกาส  ดูจะเป็นเรื่องยากไม่เปิดกว้างเหมือนเมื่อก่อนเสียแล้ว 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ