คอลัมนิสต์

ย้อนรอย “พระโจ้” ปฐมบท “ขบถไม่เอาถ่าน”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลายคนอาจสงสัยว่า วิญญาณขบถในเนื้อตัวของผู้ดีมีชาติตระกูลอย่าง ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร นั้นเริ่มต้นเมื่อใดและอย่างไร?


               นาทีนี้ เรื่องราวของไฮโซติดดิน “หม่อมโจ้” ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร กำลังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน อันเนื่องมาจาก “หม่อมโจ้” เป็นหนึ่งในแกนนำเครือข่ายภาคประชาชนอันดามัน คัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ 

               ก่อนหน้านี้ “หม่อมโจ้” ได้เข้ามาเคลื่อนไหว “ปฏิรูปพลังงาน” กับภาคประชาชนกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน และออกโรงวิพากษ์กลุ่มทุนพลังงานอย่างตรงไปตรงมา 

               หลายคนอาจสงสัยว่า วิญญาณขบถในเนื้อตัวของผู้ดีมีชาติตระกูลอย่าง ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร นั้นเริ่มต้นเมื่อใดและอย่างไร? 

 

ย้อนรอย “พระโจ้” ปฐมบท “ขบถไม่เอาถ่าน”

 

               หม่อมโจ้ เป็นบุตรชายของ อาภัสรา หงสกุล นางงามจักรวาล กับสามีคนแรก- ม.ร.ว.เกียรติคุณ กิติยากร เขาจึงเป็นหนึ่งในราชสกุล “กิติยากร” 

               ม.ร.ว.เกียรติคุณ กิติยากร นั้นเป็นบุตรชายของ มจ.ขจรจบกิตติคุณ กับ ม.ร.ว.วิจิตรโฉม กิติยากร ซึ่งในเวลานั้น  ม.ร.ว.เกียรติคุณ เป็นผู้อำนวยการศูนย์พาณิชยกรรม นครลอสแองเจลีส สหรัฐอเมริกา

               ในวัยเยาว์ หม่อมโจ้เรียนอนุบาลที่โรงเรียนยุคลธร และชั้นประถมที่โรงเรียนสาธิตประสานมิตร ก่อนจะข้ามน้ำข้ามฟ้าไปเกาะอังกฤษ ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เข้าเรียนในโรงเรียนเฮอริเบอรี่ และต่อที่โรงเรียนเซนต์มาร์ติน ซึ่งถือว่าเทียบเท่าการเรียนปีแรกในมหาวิทยาลัย

               เมื่อจบปีสอง เขาได้เข้าเรียนต่อที่เซนต์มาร์ติน คอลเลจ นั้นเอง ร่ำเรียนด้านศิลปะจนสอบผ่าน ก็หันเหไปเรียนเศรษฐศาสตร์ แต่ยังไม่ได้เข้าเรียน ก็เกิดจุดเปลี่ยนสละทางโลกย์เข้าห่มครองธรรม

 

ย้อนรอย “พระโจ้” ปฐมบท “ขบถไม่เอาถ่าน”

 

               เมื่ออายุได้ 15-16 ปี หม่อมโจ้สนใจอ่านหนังสือธรรมะภาษาอังกฤษ และมีความปรารถนาจะบวชเรียน แต่ยังละเลิกความสำราญไม่ได้ จนกระทั่งกลับมาเมืองไทย ได้ไปร่วมงานอุปสมบทเพื่อนรัก-ประณต บูรณศิริ ที่วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร จากการได้สัมผัสกับ “วัดป่า” ของพระอาจารย์แบน ทำให้ราชนิกูลเลื่อมใสในวัตรปฏิบัติ และมุ่งมั่นจะเดินตามรอยธรรมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

               ปลายปี 2532 หม่อมโจ้ วัย 20 ปี จึงตัดสินใจบวชเรียนตามความมุ่งมั่นมาแต่วัยรุ่น โดยปล่อยวางความเป็นตัวตนเดิมมาครองผ้ากาสาวพัสตร์ ณ วัดดอยธรรมเจดีย์ บนเทือกเขาภูพาน   

               ข่าว “พระโจ้” บวชเป็นข่าวกอสสิปในกรอบข่าวสังคมของ นสพ.ยักษ์หัวสี ก่อนที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์ จะส่งทีมข่าวไปที่วัดดอยธรรมเจดีย์ แต่ “พระโจ้” ก็เป็นที่เรียกขานกันติดปากของชาวภูไทแห่งภูพาน  

               แม้พระโจ้ จะไม่ยอมเปิดปากให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่จากการพูดคุยกับพระและญาติโยม ในวัดดอยธรรมเจดีย์ ก็ทราบถึงความมุ่งมั่นของพระหนุ่ม ที่ถือวัตรปฏิบัติของพระป่าอย่างเคร่งครัด ทุกเช้าต้องออกรับบิณฑบาตร ย่ำเดินเท้าเปล่าจากเทือกภูลงสู่หมู่บ้านชาวภูไท วันละ 3-6 ก.ม. เพื่อการฉันมื้อเดียว

 

ย้อนรอย “พระโจ้” ปฐมบท “ขบถไม่เอาถ่าน”

 

               “ท่านมาด้วยความจริงใจ ท่านไม่ได้มาเพราะความเป็นดารา แต่ก่อนท่านเป็นนายแบบ มันเป็นเรื่องของความไม่แน่...” พระร่วมชายคาวัดป่า บอกกับนักข่าว

               ภาพที่เห็นในวันนั้น พระโจ้ พำนักอยู่ในกุฎิที่เพียงพอสำหรับการเป็นอยู่ และเป็นกุฎิเพื่อการวิปัสสนาและจำวัด ท่ามกลางความวิเวก ความสงบนิ่งของใจ

               สมัยวันทีนที่เริ่มศึกษาธรรมะ พระโจ้บอกมารดา-อาภัสรา ว่า หากได้บวชเรียนแล้วจะไม่สึก จึงมีข่าวในปีนั้นว่า “หม่อมโจ้ จะบวชไม่สึก”

               อย่างไรก็ตาม พระโจ้บวชอยู่วัดป่า 4 ปี จึงลาสิกขามาใช้ชีวิตบนทางโลกย์ แต่ได้ต้นทุนทางปัญญาที่พลิกผันเส้นทางชีวิตในวัยกลางคน และทำให้ “หม่อมโจ้” กระโจนเข้าสู่วิถีแห่งอิสรชน และเป็น “ขบถต่อทุนสามานย์” ในปัจจุบัน 

 

 

--------------------

ข้อมูลจาก นสพ.ผู้จัดการรายสัปดาห์ ฉบับวันที่ 26 ก.พ.- 4 มี.ค.2533

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ