"รถยนต์ช่วยระวังฉันด้วย" เสียงจาก "ผู้ปิดทองหลังพระ"

จากเหตุการณ์นางเถาวัน ธะนันไชย อายุ 50 ปี ลูกจ้างประจำ ตำแหน่งพนักงานทั่วไป เขตสายไหม ถูกรถยนต์ชนเสียชีวิต บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ปากซอยสุขาภิบาล 39 เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่พนักงานคัดแยกขยะหรือพนักงานทำความสะอาด กทม. ถูกรถชนจนเสียชีวิต

 

เพราะก่อนหน้านี้ 12 มกราคม 2558 เกิดเหตุรถเก๋งชนนางธนวรรณ เฟื่องฟ้าขาว อายุ 50 ปี พนักงานกวาดขยะ กทม. เสียชีวิต บริเวณถนนพระราม 3 ซอย 31 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จากนั้น 17 กรกฎาคม 2559 รถเก๋งส่วนบุคคลพุ่งชนนางวิจิตรา จันทร์หอม อายุ 57 ปี พนักงานกวาดถนน เขตบางแคเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนกาญจนาภิเษกทิศทางด้านขาเข้าในช่องทางคู่ขนาน แขวงบางแค เขตบางแค เป็น 2 เหตุการณ์ใหญ่กระทบขวัญกำลังใจของคนทำงานโดยตรง ยังไม่นับกรณีที่พนักงานกทม.เคยถูกเฉี่ยวชน หรือเสี่ยงชีวิตบนถนน ที่เต็มไปด้วยรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วไม่ต่างกับ"ตีนผี"

 

จากอุบัติเหตุการเสียชีวิตของนางเถาวัน"จักกพันธุ์ ผิวงาม"รองผู้ว่าฯกทม. ได้กำชับให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาเช้ามืดสวมเสื้อสะท้อนแสงและเริ่มปฏิบัติงานในจุดที่มีแสงไฟส่องสว่างก่อนทีกครั้งเพื่อความปลอดภัยในชีวิตพร้อมกวดขันให้นำป้ายการทำงานไปติดตั้งห่างจากจุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ผู้ขับขี่รถยนต์สามารถมองเห็นและชะลอความเร็วแต่ในช่วงเวลาตี4ถึงเที่ยงวันเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเลี่ยงปัญหาด้านการจราจรติดขัด

สำหรับเสียงเล็กๆ จากพนักงานกวาดถนน นางยลรดา บุญยินดี หรือป้าจุ๋ม อายุ 59 พนักงานทั่วไป(กวาด) ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงาน สำนักงานเขตดุสิต เล่าให้ฟังว่า ทำอาชีพนี้ตั้งแต่ปี 2533 อยู่ที่สำนักงานเขตดุสิตมาตลอด ตอนนี้รับผิดชอบกวาดถนนและทางเท้า ตั้งแต่แยกศรีย่านถึงแยกร่วมจิตต์ ทำงานตั้งแต่ตี 5 ถึง 8 โมงเช้าพัก 1 ชั่วโมง แล้วทำต่อตั้งแต่ 9 โมงไปจนถึงบ่ายโมงตรง แต่ทุกวันจะต้องลุกทำงานตั้งแต่ตี 4 เพราะหากมาเวลาตี 5 จะทำงานไม่ทัน เวลาทำงานต้องใส่เสื้อสะท้อนแสงทุกครั้ง ก็ถือว่าช่วยได้สำหรับผู้พบเห็นที่มีสติ แต่ที่ผ่านมาอุบัติเหตุมักจะเกิดขึ้นจากคน"เมาแล้วขับรถ"ทำให้ตัวเองจะต้องระมัดระวังเวลาทำงานต้องสะพายบุ้งกี๋ก็เคยถูกรถมาเฉี่ยวหลายคันเขาก็ไม่เคยขอโทษหรืลงมาดูเวลากวาดถนนจึงต้องดูรถไปด้วยถึงแม้จะมีโดนเฉี่ยวบ้างก็ต้องทนเราหลบได้ก็หลบ

 

"ป้าจุ๋ม"เล่าถึงสวัสดิการของอาชีพนี้ว่าบางครั้งก็มีประกันชีวิตกลุ่มให้สำหรับพนักงานแต่ถ้าหมดสัญญาก็ต้องหมดไปซึ่งตนก็มีประกันชีวิตของตัวเองรวมถึงสวัสดิการฌาปนกิจของกทม.ที่หักจากเงินเดือนประมาณ200บาทหากใครเสียชีวิตก็จะมีเงินจากกองทุนนี้นำไปมอบให้ครอบครัวแต่เวลาเจอข่าวพนักงานกวาดถนนถูกรถชนเสียชีวิตก็รู้สึกท้อบ้างต้องคอยเตือนตัวเองว่าจะกวาดตรงไหน ต้องให้รถผ่านไปก่อนแต่ถึงอย่างไรเราก็ทำหน้าที่อย่างมีความสุข ไม่ได้รู้สึกต่ำต้อยใครไม่เห็นก็ไม่เป็นไรเคยไปกวาดที่สนามหลวงถึงจะไม่ใช่เวรก็อยากไปทุกคนไปทำด้วยใจได้ทำเพื่อพระองค์ท่านก็รู้สึกตื้นตันใจแล้ว

 

"อยากให้รถยนต์ช่วยระวังฉันด้วยเคยมีคนมาว่าป้าบ้างเวลากวาดถนนเคยมีคนมาด่าว่ารถกูราคามากกว่ามึงอีกป้าก็ต้องทำใจเพราะเจ้านายบอกเสมอว่าให้ขอโทษเขาไว้ก่อนอย่ามีเรื่องกับใครเมื่อตอนปี2535เคยกวาดน้ำไปโดนผู้ชายคนหนึ่งผู้ชายคนนั้นต่อยป้าเฉียดเข้าที่ใบหน้าก็มีคนมาช่วยแล้วพาป้าไปแจ้งความผู้ชายคนนั้นถูกปรับ500บาทเห็นได้ว่าหากมีเรื่องจะยาวเรายังพยายามถอย"ป้าจุ๋มกล่าว

 

มาที่สำนักงานเขตบางซื่อ จากพนักงานทั่วไป(กวาด) ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ นางสาววรรณา เขียวไหล หรือพี่วรรณ บอกว่า ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่ปี 2557 ความจำเป็นที่ต้องทำงานตั้งแต่เช้ามืด เพราะอยากให้พื้นที่สะอาดก่อนจะสว่าง เวลากวาดถนนไปด้วยก็ต้องมองรถไปด้วย ส่วนเสื้อที่ใส่ก็สะท้อนแสง คนขับรถเห็นได้ชัดในระยะ 200-300 เมตร แต่ตัวเองอยากให้มีการติด"ไฟกระพริบ" ไว้ด้านหลังเพื่อเป็นจุดสังเกตให้คนขับรถแต่ทั้งหมดก็อยู่ที่คนขับรถอีกนั่นแหละ ว่ามีสติในการขับรถหรือไม่เมื่อเจอข่าวพนักงานรักษาความสะอาดถูกรถชนเสียชีวิตก็รู้สึกเห็นใจทำให้เราจะต้องเตือนตัวเองให้มากขึ้นเวลาเกิดเหตุอยากให้ผู้กระทำผิดรับผิดชอบมากกว่านี้เพราะครอบครัวผู้เสียชีวิตที่อยู่ข้างหลังจะเป็นอย่างไร

ขณะที่ นางจำเนียร อำพุชินี หรือพี่เล็ก อายุ 51 ปี พนักงานรักษาความสะอาด เขตตลิ่งชัน เล่าว่า ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่ปี 2532 เวลาลงงานทุกครั้งต้องระมัดระวังตัวเอง ต้องสวมใส่เสื้อกั๊กสะท้อนแสง และต้องหันหน้าให้ถนน หากปฏิบัติงานในช่วงเช้ามืด จะไปอยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่าง แต่บางครั้งช่วงออกพัฒนาพื้นที่ในเขต อยากให้มีรถยนต์หรือกรวยกั้นพื้นที่ให้ผู้ปฏิบัติงาน และอยากให้เทศกิจมาช่วยดูรถให้ด้วย เพราะเวลาดูข่าวเพื่อร่วมอาชีพเสียชีวิต ตัวเองก็รู้สึกเศร้าใจทากเพราะเป็นเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน และไม่รู้ว่าวันหนึ่งวันใดเหตุแบบนี้ จะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่ อย่างน้อยหากกวาดถนนอยู่กับเพื่อน ทุกคนต้องช่วยกันดูแล

"เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพื่อนพนักงานรักษาความสะอาดคนหนึ่ง ถูกรถชนเสียชีวิตคาที่บริเวณสายใต้ใหม่ คนขับรถมีอาการ"เมา" แล้วมาบอกว่าไม่เห็นคนกวาดถนนอยู่พอรู้ข่าวก็รู้สึกช็อกมากเพราะไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ จะมาเกิดกับเพื่อนร่วมงานของเราแต่ไม่ว่าอย่างไรการทำหน้าที่นี้มีความภูมิใจที่ทำให้บ้านเมืองสะอาดอาชีพนี้ทำให้มีความภูมิใจได้"พี่เล็กเล่าถึงความรู้สึก

 

ทั้งหมดคือเสียงจากฟันเฟืองเล็กๆสะท้อนไปถึงผู้ใหญ่ในกทม.ระดมแนวคิดหาแนวทางเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะผู้ขับขี่บนถนนให้ใส่ใจ"เพื่อนร่วมทาง"คอยทำหน้าที่ดูแลความสะอาดบ้านเมืองในฐานะสังคมยกให้เป็น"ผู้ปิดทองหลังพระ"ตัวจริง

-----------