คอลัมนิสต์

อย่าหลงประเด็น ! คดีครูจอมทรัพย์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เจ้าหน้าที่ซึ่งทำคดีนี้ บอกว่าอย่าหลงประเด็นที่ถกเถียงกันท่วมโซเชียล หรือโยงเข้ามาเล่นเกมกัน เพราะเนื้อๆแล้วรื้อฟื้นคดีหรือไม่ มีแค่ 2 ประเด็นเท่านั้น

    คดีครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ที่อ้างว่าไม่ได้ขับรถชนคนตาย แต่กลับต้องติดคุกฟรีถึง 1 ปี 6 เดือนนั้น กำลังเป็นเหมือนสงครามข้อมูลข่าวสาร

    ฝ่ายคุณครูก็ออกมายืนกรานว่าตัวเองเป็น “แพะ” และกำลังอยู่ในกระบวนการไต่สวนเพื่อรื้อคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ขณะที่ฝ่ายตำรวจ ซึ่งขณะนี้มีสถานะเป็น “จำเลยสังคม” ก็กำลังดิ้นหาหลักฐานด้านอื่นมาตอบโต้ โดยเฉพาะการอ้างว่า "นายสับ วาปี" ที่ออกมารับสมอ้างว่าเป็นคนขับชนตัวจริงนั้น น่าจะอยู่ในกระบวนการแอบอ้างเพื่อรับผิดแทน

    ย้อนไปดูรายละเอียดในคำพิพากษาจะพบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ศาลให้น้ำหนักต่างกัน โดยศาลชั้นต้นกับศาลฎีกา พิพากษาลงโทษครูจอมทรัพย์ ส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง

    ประเด็นที่ศาลชั้นต้นกับศาลฎีกาให้น้ำหนัก คือ ครูจอมทรัพย์เป็นผู้ครอบครองรถในวันเกิดเหตุ มีประจักษ์พยานยืนยันว่าเห็นป้ายทะเบียนรถที่ขับชนจักรยาน ทะเบียน บค 56 สกลนคร ซึ่งเป็นรถที่ครูจอมทรัพย์ครอบครองอยู่ โดยศาลเชื่อว่าพยานจำเลขทะเบียนได้จริง

    นอกจากนั้นยังมีหลักฐานจากผู้เชี่ยวชาญว่ามีรอยครูดที่กระโปรงรถซึ่งเข้ากันได้กับจักรยานที่ชน มีสีเขียวของป้ายทะเบียนรถกระบะติดอยู่ที่รถจักรยานคันที่ถูกชน และศาลไม่ให้น้ำหนักคำให้การพยานว่าคนขับรถที่ชนเป็นผู้ชาย ขณะที่พยานของครูจอมทรัพย์เป็นญาติกัน จึงมีน้ำหนักน้อย

    ส่วนประเด็นที่ศาลอุทธรณ์เห็นต่างจนนำมาสู่คำพิพากษายกฟ้องก็คือ พยานมีข้อพิรุธว่าจำป้ายทะเบียนรถที่ชนได้จริงหรือไม่ เพราะไม่ได้บอกเพื่อนที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาทันทีว่าทะเบียนรถที่ชนคืออะไร นอกจากนั้นพยานยังเบิกความว่าคนที่ลงจากรถกระบะที่ชนเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง

อย่าหลงประเด็น ! คดีครูจอมทรัพย์

    ส่วนรอยครูดที่ปรากฏบริเวณกระโปรงรถด้านซ้ายนั้น ศาลเห็นว่าไม่น่าจะเข้ากับลักษณะการขับแซงขึ้นไปชน ซึ่งน่าจะมีรอยชนด้านขวามากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นแผ่นป้ายทะเบียนรถของครูจอมทรัพย์ก็ไม่มีร่องรอยบุบ ทั้งที่อ้างว่ามีสีของป้ายทะเบียนไปติดอยู่ที่รถจักรยานคันที่ถูกชน ทั้งหมดนี้ทำให้ศาลยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ครูจอมทรัพย์

    นี่คือเหตุผลของศาลแต่ละชั้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะถูกนำไปพิจารณาใหม่ในกระบวนการรื้อฟื้นคดี

    ทีนี้มาดูข้อสังเกตนอกศาลกันบ้าง “ฝ่ายตำรวจและชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม” ฟันธงว่า ครูจอมทรัพย์ไม่ใช่ “แพะ” แต่เป็น “แกะ” เพราะในคดีนี้มีกระบวนการแอบอ้างเพื่อรับผิดแทนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่สรุปว่าครูจอมทรัพย์รู้เห็นหรือไม่ โดยตำรวจเตรียมแจ้งความดำเนินคดีแก่บุคคล 6 คนที่อยู่ในกระบวนการ รวมถึงนายสับ วาปี ที่อ้างว่าเป็นผู้ขับรถชนตัวจริงด้วย

    ขณะที่ข้อมูลในโซเชียลมีเดีย วิเคราะห์เจาะลึกกันว่าครูจอมทรัพย์อาจเป็น “แกะ” ด้วยการหา “แพะ” มารับผิดแทน เพื่อหวังผลกลับเข้ารับราชการ เพราะจะได้ไม่มีมลทินเรื่องติดคุก บ้างก็ว่าหวังหาผลประโยชน์จากเงินเยียวยาและเงินบริจาค

    แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลโต้แย้งว่าเงินเยียวยาหากจะได้รับก็เป็นเงินเพียง 2 แสนกว่าบาทเท่านั้น จะคุ้มกับการจ้าง “แพะ” มารับผิดแทนหรือไม่

    “ทีมล่าความจริง” ช่อง NOW26 ได้พูดคุยกับ นิธิต ภูริคุปต์ อดีตเลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือครูจอมทรัพย์

    เขาบอกว่าหลักฐานที่อ้างกันนอกศาลในขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคดี เพราะข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์กันมีเรื่องเดียวเท่านั้น คือ ครูจอมทรัพย์ขับรถชนคนตายหรือไม่

    โดยข้อเท็จจริงอีกด้านที่ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้รวบรวมได้ก็คือ 1. ประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าคนที่ลงจากรถกระบะที่ขับชนทางฝั่งคนขับเป็นผู้ชาย 2.รถที่ชนไม่ใช่ของครูจอมทรัพย์ แต่เป็นรถทะเบียน บค 56 มุกดาหาร เพราะได้สืบไปถึงรถของผู้กระทำผิดตัวจริงแล้วมีการนำไปซ่อมหลังเกิดเหตุ ขณะที่รถของครูจอมทรัพย์ไม่มีรอยชนเลย

อย่าหลงประเด็น ! คดีครูจอมทรัพย์

    หลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมได้ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ได้ส่งเข้าไปในกระบวนการขอให้ศาลรื้อคดีขึ้นพิจารณาใหม่

    เขายังตั้งข้อสังเกตถึงสงครามข่าวทางสื่อแขนงต่างๆ ขณะนี้ว่า ดูเหมือนแต่ละหน่วยงานออกมาปกป้ององค์กรของตนเอง แต่ไม่ได้มองถึงความทุกข์ยากของคนที่ประสบปัญหา และประเด็นที่ต้องคิดเผื่อไปถึงกรณีอื่นๆ คือ เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดี จะมีหน่วยงานไหนอีกบ้างที่เข้าไปช่วยประชาชนดูพยานหลักฐาน นอกเหนือจากพนักงานสอบสวนฝ่ายเดียว

    ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตกันอย่างหลากหลาย เช่น เหตุใดครูจอมทรัพย์ถึงไม่ให้การในชั้นสอบสวนนั้น นิธิต บอกว่า มีผู้ถูกกล่าวหามากมายที่ไม่ให้การในชั้นสอบสวน อาจจะเป็นเพราะไม่เชื่อถือในกระบวนการ หรือบางคนก็ไม่มีความรู้ บ้างก็ไม่มีเงินจ้างทนาย สำหรับกรณีของครูจอมทรัพย์ เนื่องจากเชื่อว่าตนเองไม่มีความผิด จึงพร้อมนำหลักฐานเข้าต่อสู้ในชั้นศาล

    ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการไปจ้างวานคนอื่นมารับผิดแทน ถามว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นหรือยัง เพราะถึงที่สุดแล้วครูจอมทรัพย์ก็ติดคุกไปเรียบร้อย สำหรับนายสับ วาปี จะเป็นผู้กระทำผิดตัวจริงหรือไม่ ต้องไปว่ากันในชั้นการรื้อคดีขึ้นพิจารณาใหม่

    นิธิตยังฝากทิ้งท้ายว่าสังคมไม่ควรหลงประเด็น เพราะคดีนี้มีข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คือ ครูจอมทรัพย์ขับรถชนคนตายหรือไม่ ส่วนพฤติกรรมด้านอื่นๆ ของครู ล้วนเป็นเรื่องนอกสำนวน

                                                                   ทีมล่าความจริง พิกัดข่าว NOW 26

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ