"บิ๊กตู่" ยิ่งอยู่ ยิ่งเหนื่อย!!

 

            นับเป็นกำลังใจอย่างดีเยี่ยมสำหรับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ที่หอบหิ้ว ครม.สายทหาร พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ณ บ้านสี่เสาเทเวศร์ 

            "ผมรู้ว่าพวกเราทำงานเหนื่อยมาก รัฐบาลก็เหนื่อย และคิดว่านายกฯยิ่งเหนื่อยเท่าไหร่ ความสำเร็จจะมีมากขึ้นเท่านั้น เพราะนายกฯ มุ่งมั่นทำความสุขให้กับชาติ พร้อมทั้งทุ่มเทพลังต่างๆด้วยความเหนื่อยยาก ดังนั้นก็ต้องเหนื่อยต่อไป เพื่อนำความสุขให้ประชาชนให้ได้

            ผมดีใจ ที่นายกฯ และพวกเรา ทุ่มเทความเหนื่อยทั้งกายใจ ให้ชาติบ้านเมือง แม้เราเหนื่อย เราไม่ท้อแท้ แต่จะทำต่อไป ขณะเดียวกันผมดีใจที่พวกเราร่วมมือกันด้วยความปรารถนาดีต่อชาติ บ้านเมือง ที่ยอมเหนื่อยให้คนไทยมีความสุข เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนมั่นใจว่าภายใต้การนำนายกฯ และรองนายกฯ จะทำให้ความเหนื่อยของเราสิ้นสุดโดยเร็ว ความเหนื่อยคือความต้องการให้คนอื่นมีความสุข นี่เป็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่ทำให้ชาติบ้านเมือง ผมจะเฝ้าดู และเป็นกำลังใจให้" พล.อ.เปรม กล่าวอวยพร

           

            นับเป็นพรที่ทำเอานายกฯและคณะหัวใจพองโต ก่อนได้พักหายใจหายคอกันเฮือกหนึ่งช่วงปีใหม่ ก่อนจะกลับมาลุยหลายเรื่องร้อนที่ค้างคามาแต่ปีกลาย ที่ทำเอาปวดหัวตุ๊บไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะเรื่องแฮกเกอร์ ที่ค้านพ.ร.บ.คอมพ์ แก้เผ็ดรัฐด้วยการเจาะข้อมูลหน่วยราชการมาเปิดเผย 

            หรือล่าสุด กรณีที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ มาตรา 7 ที่เป็นการถวายคืนพระราชอำนาจในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ทำเอาพระสงฆ์บางรูปนั่งไม่ติด ถึงกับต้องโพสต์เฟสบุ๊ค สับ สนช. ว่า "ลักไก่ ทำกันทั้งสภา" แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องนี้คงไม่บานปลาย เพราะถือว่ากฎหมายได้ผ่านการพิจารณาทั้ง 3 วาระไปแล้ว เหลืออย่างเดียวคือรอว่า ใครจะได้รับการสถาปนาให้เป็น “ประมุขฝ่ายสงฆ์องค์ใหม่”

            ฟากประเด็นการเมือง ที่กำลังจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างในปีนี้ ไล่เรียงตั้งแต่การประกาศใช้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ  โดยเฉพาะที่จำเป็นสำหรับการเลือกตั้ง ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง กฎหมายที่เกี่ยวกับกกต. กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายว่าด้วยการได้มาของส.ว. รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ถ้าออกมาเมื่อไหร่ ไม่ต้องให้หมอดูฟันธง ก็พอจะมองออกว่าฝ่ายการเมือง คงไม่ยอมอยู่เฉย รอให้โดนทุบข้างเดียวแน่ เพราะหลายเรื่องถูกมองว่า เขียนขึ้นเพื่อบล๊อคคนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมโดยยากลำบาก

            อีกเรื่องที่หลายคนตั้งตารอ ตามที่บิ๊กตู่ ประกาศไปแล้ว คือการตั้งคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูป โดยต้องการสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้นในปี 2560 เพื่อรวมเรื่องที่แม่สาย 5 สาย ชงให้ปฏิรูป ซึ่งวางรออยู่เป็นตั้ง ให้เกิดเป็นรูปธรรม ตามที่ "บิ๊กตู่" พูดชัดมัดตัวเองเรียบร้อยว่าต้องการให้สัมฤทธิ์ในปี 2560 โดยจะเริ่มเลยตั้งแต่ มกราคมนี้ แต่จะว่าไปแล้ว ผลสัมฤทธิ์ที่ว่ามา จะไปได้ซักกี่น้ำ คงต้องติดตามดู ยิ่งเป็นเรื่องการปฏิรูปตำรวจ ทุจริตคอร์รัปชั่น ลดความเหลื่อมล้ำ กระบวนการยุติธรรม การศึกษา ถ้ายังเหลวไม่เป็นท่า คงไม่ต้องพูดอะไรกันต่อ นอกจากยักไหล่แล้วเบ้ปากเล็กๆ

            แล้วไหนจะเรื่อง คนใกล้ตัว "บิ๊กตู่" ที่มักหลุดมาเป็นกระแสเป็นขี้ปากสังคมให้พูดถึงตลอด โดยเฉพาะ "น้องติ๊ก" พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สนช. และอดีตปลัดฯกลาโหม กับ ปม บ้านหรู ที่พิษณุโลกนั้น ซึ่งมีข้อสงสัยว่าได้ระบุในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อครั้งเกษียณราชการหรือไม่ หรือ ความเหมาะสมด้านจริยธรรม กรณี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับเงินที่ปรึกษาบริษัทน้ำเมา รวมถึงอีกหลายต่อหลายกรณีที่สังคมมองด้วยความเคลือบแคลงสงสัย ก็ไม่วายจะเป็นเป้าให้ต้องโดนเตะพับนอก พับใน เจาะยางอีกหลายดอก 

            เลยต้องดูว่าเข้าปีที่ 3 ของรัฐบาลบิ๊กตู่ และคณะ จะจัดการกับภาวะรุมเร้าก่อนส่งมอบสิ่งที่ฝ่ายการเมืองบูชาเสมือนพระเจ้า อย่างการเลือกตั้ง ที่วางไว้ปลายปี จะราบรื่นแค่ไหน หรือมีอุบัติเหตุจนต้องยืดออกไปหรือไม่

            เพราะปีที่ผ่านๆ มา นับว่ายากแล้ว ปีนี้อาจจะเรียกว่าสาหัสก็ไม่ปาน ในจังหวะที่ใกล้ลงจากหลังเสือ เปลี่ยนผ่านเข้าสู่โหมดเตรียมหย่อนบัตรลงหีบ 

            เลยไม่ต้องแปลกใจ ถ้าการยิ่งอยู่นาน จะยิ่งเหนื่อย เพราะความรับผิดชอบมันมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และดอกผลที่พยายามปลุกปั้นแก้ไขตั้งแต่ 22 พ.ค.57 เริ่มทยอยออกมาให้เห็น แต่นั่นยังต้องรอการนำไปปฏิบัติอยู่อีกมาก

            พล.อ.เปรม ก็คงรู้ถึงข้อนี้ คำอวยพร ที่มอบให้บิ๊กตู่ และคณะ ปีนี้ เลยไม่มีอะไรจะดีไปกว่า “กำลังใจ”