สิ้น “ประยูร” สิ้นสกุลไทย 

 

          ช็อคกันไปตามๆ กัน สำหรับนักอ่านรุ่นคุณแม่ยังสาว เมื่อนิตยสารเก่าแก่อายุ 61 ปี อย่าง “สกุลไทย” รายสัปดาห์ ประกาศปิดตัวลง

          โดยคณะผู้บริหารนิตยสารสกุลไทย ได้มีมติให้ยุติการจัดทำนิตยสารสกุลไทย โดยฉบับที่ 3237 ซึ่งจะวางจำหน่ายวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2559 จะเป็นฉบับสุดท้าย    

          ว่ากันว่า สาเหตุหนึ่งที่สกุลไทย ต้องถึงคราอวสานนั้นมาจากหัวเรือใหญ่ ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ

          นั่นคือ ประยูร ส่งเสริมสวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งนิตยสารสกุลไทย 
    

 

 

          “ประยูร” เริ่มต้นชีวิต “คนโรงพิมพ์” ที่ย่านเสาชิงช้า จ.พระนคร ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอักษรโสภณ เมื่อ 66 ปีที่แล้ว
    
          บริษัทอักษรโสภณ ดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ พิมพ์คัมภีร์ใบลาน และหนังสือพระ เช่นเดียวกับโรงพิมพ์ทั้งหลายละแวกเสาชิงช้า รวมทั้งรับจ้างพิมพ์หนังสือและนิตยสาร

          ต่อมา “ประยูร” สนิทกับพวกนักข่าวโรงพัก และบรรดานักเขียน จึงทำหนังสือเล่มแรก ชื่อหนังสือ “หลังข่าวอาชญากรรม” แต่พอหนังสือออกมาแล้ว ก็พบว่าหนังสือแนวนี้ยากต่อการทำตลาด ให้ผู้อ่านเข้ามานิยม
    
          ประยูรจึงเปลี่ยนแนวมาทำนิตยสารผู้หญิง คือนิตยสารสกุลไทย ซึ่งเขาได้ร่วมกับ ลมูล อติพยัคฆ์ บรรณาธิการในยุคแรก โดยมีการเปิดตัว “สกุลไทย” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2497
    
          “ประยูร” ทำหน้าที่ผู้จัดการโรงพิมพ์และนักการตลาดในคนคนเดียวกัน ด้วยการใช้รถยนต์ป่าวประกาศข่าวสารโฆษณาตามถนนสายหลักต่างๆในกรุงเทพฯ 
    
          หลังจากที่สกุลไทยวางตลาดแล้วก็ได้รับนิยมเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ด้วยจุดขายคือ “นวนิยาย” ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักของหนังสือ 
    

 

          วันเวลาล่วงผ่านมานานหลายสิบปี “สกุลไทย” ผ่านพายุคลื่นลมมรสุมมากมาย จนกลายเป็นนิตยสารที่ได้รับรางวัลดีเด่นระดับชาติ 3 สมัย และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย
    
          “ประยูร” เป็น “คนโรงพิมพ์” ด้วยเลือดเนื้อและชีวิตจิตใจ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการพิมพ์หนังสือ “สกุลไทย”มาอย่างต่อเนื่องยาวนานไม่ขาดตอนเลยแม้แต่สัปดาห์เดียว 
    
          “ประยูร” จากไปในวัย 90 ปี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2559 และได้มีพิธีฌาปนกิจ ณ วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 22 สิงหาคม 2559
    
          หลังงานศพ “ประยูร” ก็มีข่าวมาจากค่ายสกุลไทยว่า ทายาทตระกูลส่งเสริมสวัสดิ์ อาจยุติกิจการนิตยสาร เพราะแกนหลักของสกุลไทยได้ลาลับไป
    
          เมื่อสกุลไทยย่างเข้าสู่ปีที่ 62 ก็จะเป็นวันที่ต้องจากลาอย่างไม่มีหวนวันกลับมาอีก