คอลัมนิสต์

เพราะทุกคนอยากเป็นดารา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพราะทุกคนอยากเป็นดารา : โดยวิธีของเราเอง ไพฑูรย์ ธัญญา

กลายเป็นประเพณีไปแล้ว สำหรับคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน นั่นคือหากมีการจัดงานแต่งงานเกิดขึ้นก็จะต้องมีการถ่ายภาพร่วมกัน หรือที่เรียกกันว่าถ่ายภาพ “พรีเวดดิ้ง” ส่งผลให้ทุกวันนี้ใครก็ตามที่หันมายึดอาชีพถ่ายภาพแบบก่อนแต่งร่ำรวยกันไปตามกัน เพราะค่าจ้างในการถ่ายภาพค่อนข้างสูง กระนั้นก็ตามคู่รักหวานแหววก็ยอมกัดก้อนเกลือกิน เพื่อให้ได้ภาพที่ตัวเองและคู่รักดูดีที่สุด เอาไว้ดู

เมื่อปลายหนาวปีที่แล้ว ผมพาลูกศิษย์ไปทำกิจกรรมที่อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ จ.อุบลราชธานี ขณะนั่งอยู่บนที่นั่งใต้ร่มไม้ของที่ทำการอุทยาน กลางแดดบ่ายที่ร้อนเปรีี้ยง เราเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินฝ่าเปลวแดดลงไปในแก่งตะนะ ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำลดมองเห็นโขดหินและหลุมบ่ออย่างชัดเจน ลำพังคนธรรมดาๆ ก็ไม่ถือว่ากระไร แต่คนกลุ่มนี้เป็นทีมงานและคู่บ่าวสาวที่กำลังเตรียมการจะถ่ายภาพ “ก่อนแต่ง” หรือ “พรีเวดดิ้ง” เจ้าสาวอยู่ในชุดสีแดงเจิดจ้า มีชายกระโปรงเป็นหางยาวห้อยลงมาระดินไม่ต่ำกว่า 3 เมตร ลองนึกภาพดูว่า คนที่เดินตามหลังต้องคอยหอบชายกระโปรงของหล่อน เดินฝ่าโขดหินลงไปเพื่อโพสท่าถ่ายรูปกลางแดดเปรี้ยงๆ นั้น มันทุลักทุเลและดูน่ากระอักกระอ่วนแค่ไหน

ไม่เฉพาะหนุ่มสาวชาวไทย ที่คลั่งไคล้การถ่ายภาพแบบนี้ แต่ดูเหมือนมันจะกลายเป็นแฟชั่นสำหรับคู่รักหวานแหววทุกชาติทุกภาษา โดยเฉพาะในย่านเอเชียของเรา ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย ลาว ฯลฯ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการเช่าชุดเจ้าสาวและการถ่ายภาพก่อนแต่งเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก มีการให้บริการครบเซต รวมไปถึงการจัดการแต่งงาน เรียกได้ว่า ทั้งก่อนแต่งไปจนถึงวันทำพิธีแต่งจริง ประมาณเอาว่าค่าใช้จ่ายที่คู่บ่าวสาวต้องจ่ายไปในกิจกรรมนี้ เป็นเลขหลักแสนเลยทีเดียว

แน่ละ สำหรับเจ้าบ่าว เจ้าสาว ในพิธีมงคลสมรส วันแต่งงานมันเป็นวันพิเศษสุดของพวกเขา ฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นไม่สู้กระไร แต่ฝ่ายเจ้าสาวนั่นสิ การได้สวมชุดวิวาห์หรูๆ และถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ถือว่าเป็นอุดมการณ์สูงสุดของพวกเธอก็ว่าได้ เจ้าสาวจะเป็นคนสวยที่สุดในวันแต่งงาน แม้ว่าหน้าตาของเธอจะสวยหรือไม่สวยก็ตามแต่ ทุกคนอยากเป็นนางเอก พระเอกกันทั้งนั้น พวกถ่ายรูปพรีเวดดิ้งเองก็เหมือนจะจับจุดนี้ได้ พวกเขาทำทุกอย่างเพื่อให้ภาพถ่ายของคู่บ่าวสาวออกมาดูดีที่สุด โรแมนติกที่สุด ซึ่งมันก็ต้องจัดองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะถ่ายภาพในสตูดิโอ หรือนอกสถานที่ก็ตามแต่

ที่มหาวิทยาลัยของผม มีหน่วยงานหนึ่งที่กลายเป็นสถานที่ถ่ายภาพก่อนแต่งงานไปโดยปริยาย ทั้งที่ภารกิจหน้าที่ของหน่วยงานนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย เพราะมันคือ "พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย" ที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อรวบรวมและจัดแสดงวัตถุสิ่งของและเรื่องราวที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย เหตุผลที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้กลายเป็นที่ถ่ายภาพก่อนแต่งของคู่บ่าวสาว เพราะมันมีสถานที่ที่ดูพิเศษสักหน่อย คือเขาจัดทำเป็นหมู่บ้านอีสาน มีบ้านไม้ทรงอีสานโบราณหลายหลัง แถมตกแต่งภูมิทัศน์อย่างสวยงาม ทำให้เป็นเป้าหมายดึงดูดใจคู่รักหวานแหววให้มาโพสท่าถ่ายแบบก่อนแต่งงาน คิดดูแล้วก็ชวนตลก ผมว่าหากมหาวิทยาลัยเก็บเงินพวกที่มาถ่ายภาพก่อนแต่งคงมีรายได้เข้าหน่วยงานปีละไม่น้อย

นักจิตวิทยาบอกว่า มนุษย์เรานั้น มักจะมีอาการหลงรูปตัวเองไม่มากก็น้อย พวกที่หน้าตาดี หุ่นดี เป็นหนุ่มหล่อ สาวสวยนี่ มักจะหลงตัวเองมากกว่าคนหน้าตาธรรมดาสักหน่อย เขาเรียกพวกที่มีการลุ่มหลงรูปร่างตัวเอง มากๆ ว่าเป็นพวก "นาร์ซิสซัส" ซึ่งเป็นภาวะบกพร่องด้านบุคลิกภาพอันเนื่องมาจากอาการหลงตัวเองมากเกินไป ชื่อโรคนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายกรีก ที่มีเทพเจ้าคนหนึ่งชื่อ “นาร์ซิสซัส” ที่เห็นเงาตัวเองในน้ำแล้วเกิดคลั่งไคล้หลงรักตัวเอง จนต้องตายไปในที่สุด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คู่รักบ่าวสาวส่วนใหญ่หันมาถ่ายรูปก่อนแต่ง อย่างน้อยพวกเขาจะเก็บมันไว้เป็น “ความทรงจำ” ไว้ให้ตัวเองและลูกหลานดูว่า ครั้งหนึ่ง “ฉันก็เคยสวยและหล่อ” มาก่อน

การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งจึงเป็นรูปแบบหนึ่งของการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ มันเป็นข่าวดังขึ้นมา เพราะมีบ่าวสาวคู่หนึ่งไปถ่ายภาพก่อนแต่งแบบวาบหวิว เหมือนที่เราเห็นในฉากเลิฟซีนภาพยนตร์ ก็เลยถูกมองว่ามัน “แรง” ไปสักหน่อย

ผมคิดเสมอว่า พวกที่ถ่ายรูปก่อนแต่งอย่างหรูหรา อลังการนี่ วันหนึ่งถ้าพวกเขามีอันเลิกรากันไป จะเอารูปถ่าย “พรีเวดดิ้ง” นี้ไปไว้ที่ไหน?

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ