คอลัมนิสต์

บัตรปชช.หาย ถูกสวมรอยเสียหายกว่า1ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บัตรปชช.หาย ถูกสวมรอยเสียหายกว่า1ล้าน : รายการ คม-ชัด-ลึก 

             จากกรณีนักศึกษาคนหนึ่งใน จ.พะเยา ทำบัตรประชาชนหาย และมีคนร้ายเก็บได้ แล้วนำไปปลอมแปลงก่อนนำไปเปิดบัญชีธนาคาร และเปิดซิมโทรศัพท์มือถือ จากนั้นคนร้ายนำเอกสารทั้งสองอย่างไปทำธุรกรรมในการซื้อขายมูลค่านับล้านบาท ทำให้เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชี หลังจากนั้นคนร้ายได้ปิดบัญชีพร้อมถอนเงินออกไป

             โสภณ สาตนันทธปรีดา ผู้เสียหาย กล่าวว่า ทำธุรกิจรับซื้อของเก่า โดย เจ๊ บ. ซึ่งค้าขายด้วยกันมานาน เป็นผู้แนะนำคนร้ายชื่อ นายจักรี ให้รู้จัก หลังจากนายจักรีบอกเจ๊ บ.ว่า จะขายอะลูมิเนียมอัดก้อน 20 ตัน แต่เจ๊ บ.ไม่สามารถรับได้ เจ๊ บ.จึงส่งต่อมาให้

             ในวันนัดส่งของที่มีนบุรี นายจักรีให้คนขับรถบรรทุกอะลูมิเนียมมาให้ โดยที่นายจักรีไม่ได้มา คุยกันทางโทรศัพท์ แต่วันดังกล่าวเกิดไฟไหม้บริเวณใกล้เคียงโรงงาน ทำให้ลงของได้เพียง 15 ตัน จากทั้งหมดที่ตกลงซื้อขายกัน 30 ตัน หลังจากนั้นเขาก็ถามว่า ให้โอนเงินให้เลยได้หรือไม่ ก็ออกไปโอนเงินให้รวม 1 ล้านบาท พอกลับมาถึง คนขับรถที่นำของมาส่งก็ถามว่าโอนเงินให้เถ้าแก่หรือยัง ก็ตอบว่า โอนเงินแล้ว คนขับรถก็บอกว่าต้องโอนเงินที่อีกบัญชีหนึ่ง จึงรีบติดต่อธนาคารขอระงับเงินที่โอนไปก่อนหน้านี้ ก็ได้รับคำตอบว่า ระงับไม่ได้ ต้องติดต่อเจ้าของบัญชีก่อน ขอเวลา 5 วัน

             ขณะที่ไปโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มได้ดูชื่อผู้ที่รับโอนเป็นชื่อผู้หญิง และได้สอบถามนายจักรี เขาก็บอว่า เป็นแฟนของเขา

             ต่อมาได้พบกับเจ้าของอะลูมิเนียมตัวจริงที่นายจักรีอ้างว่าเป็นลูกชาย หลังจากเจ้าของตัวจริงไม่ได้เงินจากนายจักรี พร้อมกับบอกว่า จะขออะลูมิเนียมคืน พร้อมส่งคนงานมาขนสินค้ากลับไป หลังจากนั้นจึงไปแจ้งความ อย่างไรก็ตาม ได้สอบถามนักศึกษาเจ้าของบัตรประชาชนได้รับการยืนยันว่า ทำบัตรประชาชนหายจริง และไม่เคยไปที่เชียงราย และน่าน

             อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า การหลอกลวงของคนร้ายนี้ เมื่อไปติดต่อกับเจ้าของสินค้าที่ลพบุรี จะบอกว่า เป็นน้องชายของโสภณ แต่เมื่อมาติดต่อกับโสภณก็จะบอกว่า เป็นลูกชายของเจ้าของสินค้า โดยเขาไปบอกทางลพบุรีว่า ต้องการซื้อสินค้าให้ราคา 40 บาทต่อกิโลกรัม คนร้ายได้ถ่ายรูปรถ ทะเบียนที่ใช้ส่งสินค้า หลังจากนั้นก็มาติดต่อกับโสภณว่า จะขายให้ราคา 35 บาทต่อกิโลกรัม เพราะต้องการเงินด่วน โสภณก็บอว่า ให้เอาของไปลงโกดังที่มีนบุรีแล้วจะจ่ายเงินสด

             จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งไปถอนเงินและปิดบัญชีที่ธนาคารแห่งหนึ่งที่ จ.น่าน โดยใช้ชื่อตามบัตรประชาชนของนักศึกษาหญิงคนหนึ่งใน จ.พะเยา ที่ทำหาย และจากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายนำบัตรประชาชนดังกล่าวไปเปิดบัญชีที่เชียงราย

             จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ จ.น่าน ได้คำตอบว่า ดูเพียงลายเซ็นเท่านั้น ไม่ได้ดูหน้า ส่วนที่เชียงรายก็ได้คำตอบว่า คนที่มาเปิดบัญชีใช้ผ้าปิดหน้า จึงไม่ได้ดูหน้า ซึ่งตรงนี้ยังไม่แน่ใจว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ทำเป็นขบวนการ เบื้องต้นจะดำเนินคดีทางแพ่งต่อธนาคาร ฐานประมาทเลินเล่อ
 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ