คอลัมนิสต์

ย้อนวัยขาสั้น-คอซองไม่มีใครแก่เกินเรียน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ย้อนวัยขาสั้น-คอซองไม่มีใครแก่เกินเรียน : วิจิตร ชุณหกิจขจรรายงาน

           จากสัดส่วนประชากรและอายุเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี 2552 หลายหน่วยงานจึงกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อรองรับการดูแลผู้สูงอายุที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ภาคีเครือข่ายในเขตเทศบาลตำบลสนม อ.สนม จ.สุรินทร์ ได้ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนการเรียนรู้ตลอดชีวิต การดูแลสุขภาพ สร้างพื้นที่การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนให้ช่วยกันดูแลผู้สูงอายุ ภาคีเครือข่ายจึงมีโครงการโรงเรียนสูงวัยเทศบาลตำบลสนม หรือ โรงเรียน ส.ว.ส. โรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยแห่งแรกใน จ.สุรินทร์ ขึ้น

ย้อนวัยขาสั้น-คอซองไม่มีใครแก่เกินเรียน

           เทศบาลตำบลสนม เป็นเทศบาลขนานเล็ก ครอบคลุมพื้นที่ 6 หมู่บ้าน 10 ชุมชน มีชมรมผู้สูงอายุ 7 ชมรม มีพื้นที่ 5.03 ตารางกิโลเมตร 1,438 ครัวเรือน มีประชากรผู้สูงอายุ 727 คน คิดเป็นร้อยละ 14 ของจำนวนประชากรทั้งหมด มีผู้พิการ 254 คน ผู้สูงอายุที่เป็นภาวะพึ่งพิง 70 คน ผู้สูงอายุที่เป็นผู้พิการ 150 คน

           การติดตามดูแลกลุ่มผู้สูงวัยในเขตเทศบาลตำบล ทำให้ ประภัสสร ผิวหอม หัวหน้าฝ่ายบริหารงานสาธารณสุข รักษาการแทนผู้อำนวยการงานสาธารณสุขเทศบาลตำบลสนม มีข้อมูลผู้สูงอายุมี 727 คน คิดเป็นร้อยละ 14 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ที่ต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มติดเตียง กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยไม่สามารถลุกจากเตียงได้ 150 คน กลุ่มติดบ้าน ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป เป็นผู้สูงอายุ ที่อยู่โดดเดี่ยว เป็นโรคซึมเศร้า และกลุ่มติดสังคม มีอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มนี้จะมีสุขภาพจิต คุณภาพชีวิตที่ดี

ย้อนวัยขาสั้น-คอซองไม่มีใครแก่เกินเรียน

           “จากข้อมูลของผู้สูงอายุ ทำให้มีแนวคิดในการพัฒนาคุณภาพชีวิต จึงนำหลักสูตร 3 อ. คือ อารมณ์ อาหาร และออกกำลังกาย ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ทำไว้เดิม มาปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสภาพพื้นที่ และความต้องการของผู้เรียน ด้วยการเปิดเป็นโรงเรียนสูงวัย มีกิจกรรมการเรียนการสอนทุกวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น. มีครูพี่เลี้ยงผู้ดูแล 13 คน เป็นข้าราชการบำนาญที่อาสาเข้ามาดูแลให้ความรู้" ประภัสสร กล่าว

ย้อนวัยขาสั้น-คอซองไม่มีใครแก่เกินเรียน

           สำหรับกิจกรรมในชั้นเรียน เธออธิบายว่า แบ่งเป็น 4 วิชาหลัก คือ การดูแลสุขภาพ การจัดการตามอัธยาศัย วิถีชีวิตภูมิปัญญาท้องถิ่น ศาสนา และการส่งเสริมอาชีพ ทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาผู้สูงอายุ มีพื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยน ทั้งการดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งไม่ใช่เพียงการเรียนในชั้นเรียนเท่านั้น ยังมีการเรียนนอกห้องเรียน เช่น การพบปะผู้สูงอายุที่ติดเตียง รวมถึงทำกิจกรรมพัฒนาชุมชนด้วย

           การกำหนดยุทธศาสตร์ พร้อมแนวทางการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โดยจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงวัยขึ้นเป็นแห่งแรกของ จ.สุรินทร์ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้การจัดการสุขภาพของผู้สูงอายุ ยืดเวลาการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจากภาวะเสื่อมถอยของสภาพร่างกาย รวมทั้งลดภาวะพึ่งพิงวัยแรงงานในครอบครัวและสังคม

ย้อนวัยขาสั้น-คอซองไม่มีใครแก่เกินเรียน

           เพ็ญศรี ชัยนาม ผู้อำนวยการโรงเรียนผู้สูงวัยเทศบาลตำบลสนม เปิดเผยว่า โรงเรียนเปิดรับสมัครนักเรียนผู้สูงวัย ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2559 มีผู้สูงวัยที่ทราบข่าวสนใจเดินทางมายื่นใบสมัคร 108 คน เป็นชาย 13 คน หญิง 95 คน สำหรับโรงเรียนผู้สูงวัยเทศบาลตำบลสนมนี้เป็นการสร้างพื้นที่ในการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการกำหนดยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงอายุมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาความสามารถ การดูแลรักษาสุขภาพทั้งของตัวเองและผู้สูงอายุด้วยกัน พัฒนาทักษะความรู้ ด้านสังคม วัฒนธรรมและความรู้ด้านต่างๆ แก่ผู้สูงอายุให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

ย้อนวัยขาสั้น-คอซองไม่มีใครแก่เกินเรียน

           ชุดนักเรียนหญิงชุดใหม่ที่ ยายเจียง อุ่นจิต อายุ 74 ปี นักเรียนรุ่นแรกของโรงเรียน ส.ว.ส. เตรียมไว้สำหรับรับเปิดเทอมใหม่ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2559 นี้ ยายเจียงบอกว่า รู้ข่าวว่าจะมีโครงการโรงเรียนสูงวัยจากเจ้าหน้าที่เทศบาล จึงมีความสนใจมาสมัครเรียน เพราะไม่ต้องการอยู่บ้านเพียงอย่างเดียว หากมีเวลาว่างต้องการพบเจอเพื่อนในวัยเดียวกัน เพื่อพบปะ พูดคุย สร้างความสัมพันธ์ เพราะเพื่อนๆ ร่วมชั้นส่วนใหญ่จะรู้จัก เห็นหน้ากันมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อมีครอบครัว และอยู่คนละหมู่บ้านก็ไม่มีโอกาสได้พบเจอกัน การได้กลับมาเป็นนักเรียนใหม่อีกครั้ง ทำให้เหมือนได้กลับไปเป็นเด็ก มีศูนย์รวมได้พบเจอเพื่อนๆ ได้พูดคุย ออกกำลังกาย ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

ย้อนวัยขาสั้น-คอซองไม่มีใครแก่เกินเรียน

           “ยายกับตาไปสมัครเรียนด้วยกัน เพราะอยากพบปะเพื่อนฝูง ตอนนี้ซื้อชุดนักเรียนเตรียมพร้อมแล้ว ชุดนักเรียนของยายต้องซื้อใหม่ ส่วนชุดของตาเอาของลูกมาใส่ได้ ยายมีลูกชาย 3 คน ก็ยังเก็บชุดนักเรียนชุดเก่าของลูกไว้ ลองใส่ชุดนักเรียน มัดผมแกละเหมือนเด็กๆ เสร็จก็ถ่ายภาพส่งไลน์ให้ลูกดู ลูกบอกว่าแม่ใส่ชุดนักเรียนแล้วน่ารัก สำหรับโครงการนี้ช่วยให้ได้พบเพื่อนฝูง ได้พูดคุย หัวเราะเล่นกันไม่ต่างจากวัยเด็ก จากที่ยายเป็นโรคหัวใจ โรคไต พอได้มาเข้าสังคมก็ทำให้ยายสุขภาพดีขึ้น”

           ไม่ต่างจาก คุณตาสำลี ค้ำชู วัย 69 ปี เพื่อนร่วมชั้น ที่ใช้เวลาว่างจากการปลูกหมามุ่ยอินเดีย มาสมัครเป็นนักเรียนสูงวัยที่โรงเรียน ส.ว.ส. ชุดนักเรียนเก่าของหลานนำไปปักชื่อใหม่ นามสกุล ชื่อโรงเรียน และหมายเลขประจำตัวนักเรียน 47/1 ต้อนรับเปิดเทอมวันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคมนี้ ตาสำลีเตรียมวางจอบเสียม ใช้เวลาในช่วงครึ่งวันแรกของการเปิดเทอม ร่วมทำกิจกรรมรับน้อง สนุกกับเพื่อนร่วมชั้น 108 คน ที่สนใจสมัครมาเรียนด้วยกัน

           “หลังจากรู้ข่าวตาก็เตรียมเอกสารบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านไปสมัครเรียนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นลูกหลานเขาก็ไปหาชุดนักเรียนเก่าที่เก็บไว้มาซักทำความสะอาดนำไปปักชื่อ โรงเรียน เตรียมไว้ให้แล้ว เตรียมทำกับข้าวห่อไว้ให้ ไปรับประทานกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน เขาบอกว่าตาไม่ต้องทำอะไร ให้ตาได้ไปเจอเพื่อนๆ ตาไปเรียนครึ่งวันก็ไม่กระทบกับงานเพาะปลูกที่ทำ ไม่เสียเวลา เพราะว่าเราอยากสนุก อยากพูดคุย อยู่กับเพื่อนๆ ต่อชีวิตให้ยืนยาว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ”

           สำหรับวันที่ 28 กรกฎาคม 2559 เปิดโรงเรียนสูงวัยอย่างเป็นทางการ และเป็นวันเปิดเทอมวันแรก ทางโรงเรียนจึงเตรียมจัดกิจกรรมรับน้อง 5 ฐาน วอล์กแรลลี่ สร้างความสัมพันธ์ ให้นักเรียนทั้ง 108 คน ได้รู้จักกัน แต่ละฐานจะมีกิจกรรมสนุกๆ ทั้งการแต่งหน้า ทำผม ประแป้ง และกิจกรรมพรายกระซิบ เป็นต้น

           จากข้อมูลของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย ระบุว่า ประเทศไทยพบผู้สูงอายุร้อยละ 13 คาดการณ์ว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในอีก 10 ปีข้างหน้า แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่วางแผนพัฒนาสำหรับผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2545-2564) มีวิสัยทัศน์ คือผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม และผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยการดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี พึ่งตนเองได้และมีหลักประกันที่มั่นคง


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ