คอลัมนิสต์

พระตุ๊ด-พระเล่นโซเชียลศาสนาเสื่อม?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พระตุ๊ด-พระเล่นโซเชียลศาสนาเสื่อม? : รายการ คม ชัด ลึก

          จากกรณีมีพระสงฆ์บางรูปมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ล่าสุด มีพระสงฆ์รูปหนึ่งลักษณะเป็นบุคคลเพศที่สาม ด่าผู้โดยสารบนรถเมล์ ทำให้ พระราชวิจิตรปฏิภาณ หรือเจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร ต้องออกมาเตือนเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ให้พิจารณากุลบุตรก่อนมาบวชว่า มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศหรือไม่ ถ้ามีก็ไม่ให้บวช และต้องติดตามดูหลังบวช หากต่อมแต๋วแตก ก็ให้สึก นอกจากนี้ยังให้สอดส่องดูแลพระเณรในวัดถึงพฤติกรรมการใช้โซเชียลด้วยว่า มีการโพสต์ภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสมหรือไม่

          พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าว ยังเอาโทษสึกท่านไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำผิดวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ต้องมีการสืบสาวหาสาเหตุก่อนว่า ทำไมท่านถึงมีพฤติกรรมอย่างนี้

          จากที่ได้ฟังได้ดูคลิป รู้สึกคุ้นมาก คล้ายกับลูกศิษย์ หากใช่ก็คือ พระรูปนั้นมีอาการทางประสาท มักจะกำเริบในเวลากลางคืน เวลากำเริบก็อยากจะคุยกับคนอื่น จะโทรศัพท์หาคนที่รู้จัก ถ้ามีใครไปต่อปากต่อคำ ทำให้ไม่พอใจ ท่านก็จะควบคุมอารมณ์ไม่ได้

          ถ้าเป็นภิกษุบ้า ทางพระธรรมวินัยให้การคุ้มครอง ไม่ให้ปรับอาบัติกับพระภิกษุบ้า

          ถ้าเป็นพระปกติ ไม่มีอาการทางจิต ก็ต้องให้เจ้าอาวาสที่ท่านสังกัดพิจารณาว่า ทำไมถึงมีพฤติกรรมอย่างนี้ และพฤติกรรมที่ท่านแสดงออกนั้นจะต้องรับผิดชอบ

          ในพระธรรมวินัย ระบุไว้ว่า บุคคลที่บกพร่องทางเพศ มองไม่รู้ว่าเป็นเพศชาย หรือเพศหญิง ระบุเพศไม่ได้ ห้ามบวช

          สำหรับผู้ชาย 3 ประเภท ที่บวชได้ ไม่มีข้อห้าม ไม่ขัดต่อพระธรรมวินัย ก็คือ ผู้ชายที่มีรสนิยมชอบผู้ชายมาตั้งแต่ก่อนบวช ผู้ชายที่พึงพอใจที่จะดูกิจกรรมทางเพศ และผู้ชายที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ในเวลาข้างแรม ข้างขึ้น

          ทั้งนี้ เมื่อเข้ามาบวชแล้ว ผู้ชายทั้ง 3 ประเภทดังกล่าว ต้องละลายพฤติกรรม เพื่อให้มีพฤติกรรมให้เหมาะสมกับสมณเพศ

          หากเจ้าอาวาสจะไม่ให้ผู้ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศบวช ถือว่า เป็นการลิดรอนสิทธิ เพราะพระธรรมวินัยอนุญาต ภายหลังบวชแล้ว พระอุปัชฌาย์จะต้องดูแลสั่งสอนพระที่บวชให้อย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 5 พรรษา

          มีพระเณรหลายรูป ที่ก่อนบวชไม่ได้มีพฤติกรรมในลักษณะเพศที่สาม แต่มาเบี่ยงเบนภายหลังบวช

          ปัจจุบัน ผู้ที่รู้ตัวอยู่แล้วว่า ตัวเองเป็นเพศที่สาม น้อยมากที่จะบวช สำหรับผู้ที่แปลงเพศแล้วจะไม่บวช

          กรณีที่บอกว่า เจ้าอาวาสต้องรับผิดชอบ โทษถึงกับปลดจากตำแหน่ง ตรงนี้ต้องดูเป็นกรณี ต้องให้ความเป็นธรรมต่อท่านเจ้าอาวาสด้วย

          มีมี่ เทา เพศที่สามที่เคยบวช กล่าวว่า บวชตั้งแต่ 11 ขวบ ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองต้องการเป็นอะไร หลังจากบวชแล้วถึงได้พบความต้องการของตัวเอง ขณะบวชนั้น ไม่ได้แสดงออกถึงพฤติกรรมของความเบี่ยงเบนทางเพศ

          การแสดงออกของแต่ละคนนั้น ขึ้นอยู่กับการสำรวจของตัวเอง

          จากกระแสข่าว โดยส่วนตัวเห็นว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับบางคน บางพวกเท่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นกับพระเณรทุกรูป

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ