'ตำรวจ'ฟ้อง'ตำรวจ'โกงเงินสหกรณ์? :

          จากกรณีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการปลอมเอกสารตำรวจชั้นผู้น้อยกว่า 400 คน เพื่อกู้เงินสหกรณ์ ขณะที่ประธานสหกรณ์ ได้ออกมายืนยันว่า ขบวนการนี้มีการทำอย่างแยบยล แต่ไม่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 19 ล้านบาท ไม่ใช่ 41 ล้านบาท และมีการนำเงินกำไรส่วนหนึ่งของสหกรณ์ มาจ่ายคืนให้แก่สมาชิกแล้ว

          พ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุบผา รอง ผบก.ภ.จว.อ่างทอง และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สัญญากู้ปลอมมีทั้งหมด 1,607 ฉบับ แต่ละฉบับมีมูลค่าเงินไม่เท่ากัน จากการตรวจสอบของคณะกรรมการ ผู้ทุจริตนำเงินส่วนหนึ่งไปโปะบัญชีของสมาชิกที่ถูกนำชื่อมากู้ หรือเอาเงินที่ทุจริตไปโปะยอดบัญชีที่โกง ยอดเงินจึงไม่ตรงกัน โดยผมคิดยอดเงินที่ถูกโกงทั้งหมด 41 ล้านบาท แต่ประธานสหกรณ์ได้ออกมาระบุว่า ยอดที่ถูกโกงนั้นมีมูลค่ากว่า 19 ล้านเท่านั้น ซึ่งเป็นการคิดจากยอดที่เหลือจากมีการโปะบัญชีที่ถูกโกง

          ยอดเงินที่แท้จริง ผมมั่นใจมากกว่า 41 ล้านบาท เพราะยังมีเงินส่วนอื่นอีก อย่างเช่น เงินฌาปนกิจ เป็นต้น

          ในร่างคำฟ้องของผมนั้น ระบุไว้ที่ 19.7 ล้านบาท จริง ไม่ได้ระบุ 41 ล้านบาท เพราะร่างฟ้องยังไม่สมบูรณ์ อีกทั้งยังไม่ทราบยอดเงินที่แน่ชัด

          สัญญาเงินกู้ 1,607 ฉบับนั้น ทั้งรองผู้จัดการสหกรณ์ และผู้จัดการสหกรณ์ เป็นผู้เซ็นอนุมัติ ซึ่งถือเป็นพยานเอกสาร

          พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.กองร้องทุกข์และประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากเอกสารร่างคำฟ้องของ พ.ต.อ.สุรินทร์ ร่างฟ้องเพื่อเรียกค่าเสียหายจากผู้ทุจริต ด้วยทุนทรัพย์ 19.7 ล้านบาท ไม่มีตรงไหนที่ระบุว่า 41 ล้านบาท ซึ่งเคยถามแล้วว่า ทำไมไม่เรียก 41 ล้านบาท

          ขณะนี้พยานหลักฐานที่ชัดเจนในทางอาญา มีเพียงเจ้าหน้าที่สหกรณ์ที่เป็นผู้หญิงเพียง 2 คนเท่านั้น

          ส่วนในทางแพ่งได้ชี้แจงแล้วว่า รองผู้จัดการสหกรณ์ และผู้จัดการสหกรณ์ ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุจะต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

          สำหรับคดีนี้ อยู่ในระหว่างการตรวจพิสูจน์ ผลการตรวจพิสูจน์ยังไม่ได้ส่งมายังพนักงานสอบสวน

          การดำเนินคดีอาญา ไม่ใช่ใช้ความรู้สึก จะต้องใช้พยานหลักฐาน คดีนี้ไม่มีการปกป้องคนผิดอย่างแน่นอน

          ขอยืนยันว่า สมาชิกที่ถูกปลอมลายเซ็นทุกคน ไม่ต้องรับภาระในหนี้นั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตมีเงินฝากในบัญชีเป็นจำนวนมากนับล้านบาท ขณะนี้ถูกอายัดบัญชีไว้แล้ว

          ปัญหาการเลือกคณะกรรมการสหกรณ์ ไม่ใช่มีแต่ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเท่านั้น สหกรณ์ตำรวจที่อื่นก็มี ความเสียหายมากกว่า แต่ไม่มีเรื่องราวฉาวโฉ่ เพราะเขาไม่มีความมุ่งหวังผลประโยชน์