ฟ้าหญิงฯ ทรงเปิดศูนย์การแพทย์-พร้อมให้บริการ ม.ค.61

        เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม  ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงเป็นประธานเปิดอาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ภายในศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ที่จัดสร้างโดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสที่ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ในการนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ศาสตราจารย์ นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และคณะผู้บริหารวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ เฝ้ารับเสด็จ

       ในการนี้ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จกดปุ่มเปิดผ้าแพรคลุมป้าย 3 ป้าย ชื่อ “อาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และโรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ กับห้องปฏิบัติการเอ็ม อาร์ ไอ” จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา และทรงลงพระนามในแผ่นศิลา เสด็จไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ 

 

        ต่อมา เสด็จไปยังอาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และโรงเรียนนักอัลตร้าซาวด์ทาวการแพทย์ แล้วเสด็จทอดพระเนตรเครื่องจำลองการตรวจอัลตร้าซาวด์เพื่อการเรียนการสอนและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอน การสาธิตการสวนหัวใจและหลอกเลือด ก่อนเสด็จกลับ

 

        สำหรับ อาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ดำเนินโครงการจัดสร้างอาคารบนพื้นที่ 17 ไร่ ตั้งอยู่ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนซี ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อขยายการให้บริการของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ในส่วนของอาคารผู้ป่วยทั่วไป (OPD) และผู้ป่วยฉุกเฉิน (ER) และเป็นอาคารสนับสนุนอาคารศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ส่วนต่อขยายขนาด 400 เตียง ในโครงการเฉลิมพระเกียรติ 90 ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 

 

         ทั้งนี้ เพื่อสนองพระปณิธานอันแน่วแน่ที่ทรงอยากให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ขยายการรักษาพยาบาลให้ครอบคลุมทุกโรค ไม่ใช่แต่เพียงโรคมะเร็งแต่เพียงอย่างเดียว และเป็นที่พึ่งพิงให้กับประชาชนคนไทยโดยเฉพาะผู้ป่วยยากไร้และด้อยโอกาสให้ได้รับการรักษาอย่างดีเยี่ยม ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานนาม "ศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ" แก่อาคารดังกล่าว และพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแก่ประชาชน‪ในวันที่ 8 มกราคม 2561‬

 

        ศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยโรคอายุรกรรมทั่วไป และโรคเฉพาะทาง โดยมีศูนย์หัวใจและหลอดเลือดเป็นศูนย์การแพทย์เฉพาะทางครบวงจรที่เปิดให้บริการเพื่อรองรับการตรวจรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งจัดเป็นกลุ่มโรคที่คร่าชีวิตประชาชนไทยเป็นอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็ง ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจ การรักษาโรคหัวใจด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในห้องปฏิบัติการสวนหัวใจและหลอดเลือด ด้วยเครื่องเอกซเรย์ตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือดชนิดระนาบเดียว เครื่องแรกที่เปิดให้บริการในประเทศไทยและในอาเซียน โดยเป็นเครื่องมือที่มีความทันสมัยมากที่สุดในปัจจุบันที่ใช้เทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยให้การตรวจรักษาของแพทย์สามารถทำได้รวดเร็วและแม่นยำ และด้วยตัวเครื่องที่มีความคล่องตัวสูงที่นอกจากการตรวจรักษาโรคในหลอดเลือดหัวใจได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังสามารถรองรับการตรวจรักษาหลอดเลือดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดแขน ขา ได้เป็นอย่างดีด้วย พร้อมด้วยนวัตกรรมห้องผ่าตัดอัจฉริยะ Hybrid OR พัฒนาการก้าวใหม่ของเทคโนโลยีทางการแพทย์ในด้านการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยกลุ่มโรคหลอดเลือดที่ใช้เทคโนโลยีภาพทางรังสีชั้นสูง ติดตั้งในห้องผ่าตัดเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในด้านการผ่าตัด

 

          ทั้งนี้ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เข้ามารับการผ่าตัดรักษาโรคซับซ้อนได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ การส่งเสริมดูแลเชิงป้องกันด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางสหสาขาวิชาชีพ และการดูแลทุกสถานการณ์หัวใจฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังให้บริการตรวจรักษาด้วยศูนย์เฉพาะทางด้านอื่นๆ ได้แก่ ศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ ศูนย์เต้านม คลินิกอายุรกรรมทั่วไป คลินิกทันตกรรม คลินิกกายภาพบำบัด และศูนย์รังสีวินิจฉัยที่ให้บริการตรวจด้วยเครื่องมือทางรังสีที่ทันสมัยชนิดต่างๆ

 

         ภายในอาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติยังได้จัดแบ่งออกเป็นโซนการศึกษาวิจัยของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ด้วยส่วนหนึ่ง โดยมีห้องปฏิบัติการเอ็ม อาร์ ไอ ห้องจำลองการทำงานการตรวจวินิจฉัยเอ็มอาร์ไอเพื่อใช้สำหรับการศึกษาวิจัย และโรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ (Sonographer School) แห่งแรกในประเทศไทย โดยหลักสูตรดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งผลิตนักอัลตราซาวด์ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสิทธิภาพให้มีจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการเสริมการบริการทางการแพทย์ และยกระดับมาตรฐานการบริการและวิชาการทางอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ของประเทศไทย ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการในการเข้ารับบริการได้อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดยได้รับความร่วมมือในการจัดทำหลักสูตรระหว่างวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กับทาง Monash University จากประเทศออสเตรเลีย

 

          จากโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง สู่ศูนย์การแพทย์แบบครบวงจรที่พร้อมให้บริการตรวจรักษาครอบคลุมทุกโรค ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล และด้วยใจที่มีผู้ป่วยเป็นสำคัญ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์จะเป็นโรงพยาบาลของประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้ป่วยยากไร้ที่จะได้มีโอกาสเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานอย่างเท่าเทียมกัน ดั่งพระทัยอันมุ่งมั่นของ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในการสืบสานพระปณิธาน ตามรอยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่มีพระประสงค์ให้ชาวไทยทุกคนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

    นพ.นิธิ กล่าวว่า ศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติจัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบในปีนี้ โดยศูนย์แห่งนี้จะเปิดเป็นโรงพยาบาลทั่วไป มีศูนย์การรักษาที่เด่นได้แก่ ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด กระดูกและข้อ มะเร็งเต้านม นอกจากนี้ยังมีคลินิกทันตกรรม กายภาพบำบัด ซึ่งการบริหารงานอยู่ภายใต้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นโยบายการรักษานั้นให้บริการคนไข้ในทุกระดับ โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส ชนชั้นกลาง ด้วยวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงต้องการให้บริการคนไข้ทุกระดับ ให้ผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสได้รับการรักษาเหมือนโรงพยาบาลเอกชน ทรงอยากให้โรงพยาบาลดูดี โดยทรงหาเครื่องไม้เครื่องมืออย่างดีเพื่อรักษาให้สถานที่แลดูสวยงาม เหมือนโรงพยาบาลเอกชน ไม่ต้องทนทุกข์กับความแออัด โรงพยาบาลนี้จะดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกันกับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์​ซึ่งตั้งมาแล้ว 8 ปี ศูนย์การแพทย์ฯ จะเปิดให้บริการอย่างเต็มที่ในวันที่ 8 มกราคม ซึ่งหลังจากวันนี้จะเปิดรับผู้ป่วยนอกและบางส่วนของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เพื่อระบายความแออัด ซึ่งปัจจุบันเตียงเต็มกว่า 80-90% จากเตียง 100 เตียง โดยมีผู้ป่วยนอกถึงวันละ 400-500 คน เป็นโรคมะเร็ง 80-90% แต่ปัจจุบันมีคนไข้ทั่วไปมากขึ้น

    ​“เมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯไปเยี่ยมประชาชนกับโครงการพอ.สว. ได้ทอดพระเนตรเห็นประชาชนลำบาก ทุกข์ยากมาก กว่าจะเข้ามารักษาได้ตามระบบต้องใช้เวลานาน พระองค์จึงรับประชาชนเหล่านี้ไว้เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ สมัยก่อนมีแต่คนไข้มะเร็ง แต่ช่วงหลังก็เปิดรับโรคอื่นๆด้วย ซึ่งเมื่อคนไข้รักษามะเร็งหายก็มักจะมีโรคอื่นๆตามมาด้วย พระองค์จึงไม่สบายพระทัยที่จะส่งคนไข้ไปยังโรงพยาบาลอื่น การมีศูนย์การแพทย์นี้ จึงสามารถรองรับผู้ป่วยในพระองค์ได้มากขึ้น” 

     นพ.นิธิ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้พระองค์ยังทรงมีวิสัยทัศน์ จากการที่เสด็จฯไปต่างประเทศ ทำให้พระองค์ทรงสร้างหลักสูตรทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ขึ้นมา ในจุดที่ประเทศไทยขาดแคลน อาทิ โรงเรียนอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นหลักสูตรจากประเทศออสเตรเลีย หลักสูตรนี้จะเปิดสอนในหลายระดับทั้งพยาบาล นักรังสีวิทยาและเทคนิคการแพทย์ เพื่อแบ่งเบาภาระของแพทย์ เนื่องจากปัจจุบันโรงพยาบาลต่างๆประเทศไทยมีเครื่องมือแต่แพทย์ไม่มีเวลาที่จะเป็นคนทำ ในต่างประเทศจึงมีการฝึกบุคคลากรเพื่อช่วยทำแทนแพทย์ นี่ถือเป็นตัวอย่างที่พระองค์จะทรงเติมเต็มจุดเล็กน้อยที่เราไม่ค่อยคิดถึงกัน”