ข่าว

ภารกิจสุดท้าย...จิตอาสาฯ บิ๊กคลีนนิ่งรอบ"พระเมรุมาศ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ภารกิจสุดท้าย 3 พันชีวิต"จิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ" มาด้วยหัวใจ ร่วมบิ๊กคลีนนิ่งรอบพระเมรุมาศก่อนเปิดนิทรรศการฯ2พ.ย.นี้

 

          ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้ประชาชนทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมถวายความอาลัยรัก น้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในห้วงเดือนตุลาคม จึงได้พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดตั้ง “จิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ” ขึ้น เพื่อเป็นการรวมพลังความรักอันมีค่า รวมพลังน้ำใจ ของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่จะน้อมถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อนเสด็จสู่ สวรรคาลัย และเป็นการสานต่อพระราชดำริของโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ซึ่งเป็นโครงการทำความดีร่วมกับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระบรมชนกนาถ

         โดยจิตอาสาเฉพาะกิจฯ มีทั้งหมด 8 ประเภทด้วยกันประกอบด้วย 1 งานดอกไม้จันทน์ 2.งานประชาสัมพันธ์ 3.งานโยธา 4.งานขนส่ง 5.งานบริการประชาชน 6.งานแพทย์7.งานรักษาความปลอดภัย และ 8.งานจราจร โดยเริ่มปฎิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ 18-31 ตุลาคม 2560

           31 ต.ค.60-เวลา 08.00 น. เป็นวันสุดท้ายของการปฎิบัติหน้าที่จิตอาสาเฉพาะกิจฯ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง เดินทางมาเป็นประธานปิดกิจกรรมจิตอาสาเฉพาะะกิจ พร้อมปล่อยแถวบิ๊กคลีนนิ่งพื้นที่โดยรอบพระเมรุมาศ ในมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดย จิตอาสาที่เข้าร่วมในครั้งนี้มีทั้งสิ้น 3,000 คน ประกอบด้วย นักเรียนจากโรงเรียนนายร้อย จปร., โรงรียนนายร้อยตำรวจ, โรงเรียนนายเรืออากาศ, โรงเรียนวชิราวุธราชวิทยาลัย, โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ และโรงเรียนจิตรลดา พร้อมด้วยผู้ปกครอง นอกจากนี้ยังมีจิตอาสาเฉพาะกิจภาคประชาชนร่วมด้วย

          ภายหลังพิธีเปิด พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในกิจกรรมครั้งนี้ได้จัดแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ การตั้งเต็นท์และทำความสะอาดรอบพื้นที่พะเมรุมาศ, การปลูกข้าว และการทำความสะอาดพระเมรุมาศบริเวณชั้นที่ 1 และ 2 เพื่อให้มีความพร้อมและเรียบร้อยอย่างสมพระเกียรติ ในวันที่จะเปิดนิทรรศการฯ ให้ประชาชนเข้าชม ในวันที่ 2 พ.ย.2560 นี้

          "โดยกิจกรรมครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกินครึ่งวัน ก็น่าจะเสร็จเรียบร้อยเพราะมีจำนวนจิตอาสามาร่วมเยอะกว่าภารกิจ แต่ถือว่าทุกคนมาด้วยหัวใจและเป็นความเสียสละของทุกคน ซึ่งตรงตามพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่ ที่ทรงอยากให้ประชาชนร่วมทำความดี และเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่าเป็นการจุดประกายให้ทุกคนเกิดความรักความสามัคคีต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในภายภาคหน้า" พล.ต.ต.สุทิน  กล่าว

ภารกิจสุดท้าย...จิตอาสาฯ บิ๊กคลีนนิ่งรอบ"พระเมรุมาศ"

นางสาวชุลีพร  แจ่มถนอม

 
        นางสาวชุลีพร แจ่มถนอม ครูจากโรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อโรงเรียน ภ.ป.ร.ฯ และต่อประชาชนชาวไทยตลอด 70 ปีที่ผ่านนั้น การที่นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนได้มาร่วมกิจกรรมในฐานะจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ทุกคนมาด้วยหัวใจด้วยความตั้งใจทำความดีถวายพระองค์ท่าน แม้จะเป็นงานทำความสะอาดหรืองานเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ทุกคนยินดีทำถวายพระองค์

          "สำหรับเด็กๆ ทางโรงเรียนได้จัดแบ่งผลัดกันเพื่อเฉลี่ยให้เด็กทุกคนได้มีส่วนร่วม และแม้ว่าภารกิจของงานจิตอาสาเฉพาะกิจฯ จะเสร็จสิ้นลงในวันนี้แล้ว ตัวเองอยากฝากว่า ทุกคนยังสามารถทำงานจิตอาสาในชุมชน โรงเรียน และบ้านของตัวเองได้ตลอด เพราะจิตอาสาไม่มีวันหมดอายุ"นางสาวชุลีพร  กล่าว

 

ภารกิจสุดท้าย...จิตอาสาฯ บิ๊กคลีนนิ่งรอบ"พระเมรุมาศ"

เด็กหญิงศุภาพิชญ์  เหล่าสุนทรวณิช

          เด็กหญิงศุภาพิชญ์ เหล่าสุนทรวณิช อายุ 11 ปี จากโรงเรียนวรรัตน์ศึกษา นนทบุรี ซึ่งวันนี้เดินทางมาร่วมกิจกรรมพร้อมกับพ่อ เล่าว่า สมัครเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจพร้อมกับครอบครัว  ก่อนงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ตัวเองมาช่วยประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า ส่วนในวันพระราชพิธีฯ ได้ทำหน้าที่แจกของที่ระลึกให้แก่ประชาชนที่มาวางดอกไม้จันทน์ ที่พระเมรุมาศจำลอง บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต

          "และในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทำกิจกรรม คุณพ่อพามาร่วมกันทำความสะอาดพื้นรอบพระเมรุมาศ เมื่อทำแล้วรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ถึงจะเป็นเพียงการทำความดีทีละนิดทีละนิด ก็ตั้งใจว่าจะทำสะสมไปเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่าในวันข้างหน้าจะมีเยอะๆ ตามที่คุณพ่อคุณแม่สอนไว้"เด็กหญิงศุภาพิชญ์ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ภารกิจสุดท้าย...จิตอาสาฯ บิ๊กคลีนนิ่งรอบ"พระเมรุมาศ"

นายกำธร  จิราโรจน์

          อีกหนึ่งจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งพระเมรุมาศในครั้งนี้ นายกำธร จิราโรจน์ พยาบาลวิชาชีพ วัย 58 ปี เผยว่า ทันทีที่ทราบว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ ตัวเองจึงมาสมัครในรุ่นแรก และเมื่อมีโครงการจิตอาสาเฉพาะกิจ ก็ได้ลงชื่อทำต่อ โดยรับผิดชอบให้บริการทางการแพทย์ให้กับประชาชนในบริเวณถนนราชดำเนินกลาง และป้อมมหากาฬ เพราะตรงกับความรู้ความสามารถของตัวเอง

          "รู้สึกภูมิใจที่ไดถวายงานแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย อยากตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงทำงานหนักเพื่อประชาชนมาตลอด 70 ปี และตั้งใจว่าถึงแม้งานในฐานะจิตอาสาเฉพาะกิจฯ จะเสร็จสิ้นลงแล้ว ก็จะยังช่วยงานจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจต่อไปเมื่อมีโอกาสและหากไม่ติดงานประจำ"นายกำธร  กล่าวด้วยสัหน้้าเปื้อยรอยยิ้ม

          ต่อมาเมื่อเวลา 08.30 น. จิตอาสาเฉพาะกิจฯจำนวน 229 คน มารวมพลกันที่สวนนคราภิรมย์ เพื่อแปรแถวเป็นเลข ๙ อันเป็นการถวายพระเกียรติ และถวายราชสดุดีในหลวง ร.9 และร่วมกันร้องเพลงความฝันอันสูงสุด ซึ่งเป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์อันดับที่ 43 ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2514

ภารกิจสุดท้าย...จิตอาสาฯ บิ๊กคลีนนิ่งรอบ"พระเมรุมาศ"

พล.ร.ต.ยงยุทธ  พร้อมพรหมราช

          งานเริ่มขึ้นเมื่อ พล.ร.ต.ยงยุทธ พร้อมพรหมราช ผู้บัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพ ในฐานะประธานในพิธี นำจิตอาสาเฉพาะกิจฯทุกคนแปรแถวเป็นเลข ๙ และนำจิตอาสาเฉพาะกิจฯทุกคนกล่าวคำปฎิญาณ “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” พร้อมกัน 3 ครั้ง และกราบสักการะในหลวง ร.9 แล้วจึงเริ่มร้องเพลงพระราชนิพนธ์ความฝันอันสูงสุดดังกึกก้องทั่วคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา

          พล.ร.ต.ยงยุทธ กล่าวภายหลังที่เสร็จสิ้นพิธีการ ว่าวันนี้ถือเป็นภารกิจสุดท้ายของจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ที่เกี่ยวเนื่องกับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ แต่หลังจากนี้จะเป็นภารกิจจิตอาสาบริการประชาชน คือการดูแลและทำความสะอาดพื้นที่บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งจิตอาสาทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจในการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นจิตอาสาในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และต้องพร้อมใจกันสนองพระราชปฎิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการทำความดีด้วยหัวใจ

          จากนั้น พล.ร.ต.ยงยุทธ จึงปล่อยแถวจิตอาสาเฉพาะกิจฯทั้ง 229 เพื่อออกไปทำความสะอาดปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบพระบรมมหาราชวัง โดยได้แบ่งเส้นทางกันออกเป็น 2 สายด้วยกัน คือ เริ่มจากถนนท่าช้างราชนาวีสโมสร ไปจนถึงถนนท่าราชินี และอีกสายคือเริ่มจากสวนนคราภิรมย์ ถึง ท่าเตียนไปตามถนนท้ายวัง เพื่อให้ทุกพื้นที่มีความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนไทยและชาวต่างชาติ

         นายปฏิญญา เพราทองชมพูนุช อายุ 45 ปี พ่อค้าจากจ.อุดรธานี เริ่มปฏิบัติงานจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม จนถึงวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการปฏิบัติหน้าที่จิตอาสาเฉพาะกิจฯ เผยว่า เดินทางจากจังหวัดอุดรธานีมาเพียงลำพัง และได้เช่าห้องเล็กๆไว้สำหรับพักอาศัยช่วงงานพระราชพิธีฯ

           “ถ้าอยู่ที่บ้านผมก็ร่วมงานฯได้แค่วันเดียวคือ 26 ตุลาคม ตามสถานที่ที่ทางราชการฯจัด แต่ผมอยากมาทำประโยชน์เพื่อคนอื่น ในสถานที่ที่ใกล้ชิดในหลวงร.9 มากที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย” ปฏิญญากล่าว

          นายปฏิญญาเผยความประทับใจระหว่างปฏิบัติหน้าที่จิตอาสาเฉพาะกิจฯ ในวันพระราชพิธีฯ ว่า “ในคืนของวันที่ 25 ตุลาคม ผมกำลังเดินเก็บขยะ เห็นประชาชนที่มาปักหลักรอเพื่อเข้าจุดคัดกรองจำนวนมาก ผมรู้สึกตื้นตันในความจงรักภักดี จำได้ว่าตอนนั้นฝนตกหนักมากแต่ทุกคนไม่ย่อท้อ ในฐานะที่เป็นจิตอาสา ทำได้แค่อำนวยความสะดวกและให้กำลังใจ แต่ผมไม่เห็นความท้อแท้เลย เป็นภาพเหตุการณ์ที่จะประทับอยู่ในใจผมตลอดไป”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ