ข่าว

ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 1-3 ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพื้นที่จริงเป็นครั้งที่ 2

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ  

   ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

     วันที่ 15 ตุลาคม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 1-3 ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพื้นที่จริงเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งวันนี้เป็นการซ้อมริ้วขบวนที่ 1-3 และริ้วขบวนที่ 6 จากทั้งหมด 6 ริ้วขบวน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ และกำลังพลจากกรมสรรพวุธ และกองทัพภาคที่ 1 จำนวนกว่า 3,000 นาย และมีราชสกุล ข้าราชบริพาร รวมทั้งผู้ถวายงานเข้าร่วมในการซ้อมด้วย

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

    การซ้อมริ้วขบวนที่ 1 เริ่มขึ้นในเวลา 7.00 น.เจ้าพนักงานเปลื้องพระลองออกจากพระโกศทองใหญ่ แล้วอัญเชิญพระลองลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เชิญพระลองขึ้นเสลี่ยงแว่นฟ้าไปยังประตูกำแพงแก้ว ขึ้นประดิษฐานบนเกยลา แล้วประกอบพระโกศทองใหญ่ จากนั้นเลื่อนไปประดิษฐานบนพระยานมาศสามลำคาน ซึ่งเป็นพระยานที่มีคานหามขนาดใหญ่ทำด้วยไม้จำหลักลวดลายลงรักปิดทอง มีพนักโดยรอบ 3 ด้าน และมีคานหาม3 คาน จากนั้นเจ้าพนักงานประกอบพระโกศทองใหญ่ 

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

     และในเวลา 08.00น. อัญเชิญพระโกศทองใหญ่ ออกทางทางประตูสรีสุนทร ซึ่งเป็นประตูชั้นในและประตูเทวาภิรมย์ เพื่อตั้งริ้วขบวนบนถนนมหาราช โดยมี รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เป็นผู้ประคองพระบรมโกศ เมื่อถึงถนนมหาราชแล้วเจ้าพนักงานอัญเชิญพระมหาเศวตฉัตรกางกั้นพระบรมโกศ ต่อมา ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ขึ้นไปประคองพระบรมโกศบนพระยานมาศสามลำคาน จากนั้นเวลา 8.10 น.เมื่อเจ้าพนักงานรัวกลับเป็นสัญญาณครบ 3 ครั้งแล้ว วงมโหระทึกเริ่มบรรเลง ริ้วขบวนจึงเริ่มเคลื่อนตามสัญญาณกลองไปตามถนนมหาราช เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนท้ายวัง มุ่งหน้าไปยังถนนสนามไชย โดยริ้วขบวนที่1หลักๆ จะประกอบด้วย เสลี่ยงพระนำทหารกองเกียรติยศ เครื่องราชอิสริยยศ ทหารม้านำ 2 ม้า ทหารม้าตาม 4 ม้า และเหล่าข้าราชบริพาร รวมระยะทาง 817 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ริ้วขบวนที่ 1 มาถึงบริเวณวงเวียนหน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เพื่อรวมกับริ้วขบวนที่ 2 ซึ่งตั้งรออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นเจ้าพนักงานอัญเชิญพระโกศทองใหญ่เทียบเกรินบันไดนาค ขึ้นประดิษฐานบนบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ ที่จอดอยู่บริเวณวงเวียนหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

      เวลา 9.24 น.เจ้าพนักงานประโคมมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ เป็นสัญญานริ้วขบวนพระมหาพิชัยราชรถ และราชรถพระนำ เริ่มเคลื่อน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุรี ทรงพระดำเนินตามหลังพระมหาพิชัยราชรถ โดยมี ร.อ.จิทัศ ศรสงคราม พระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นผู้อัญเชิญเครื่องทองน้อย และข้าราชบริพารในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้อัญเชิญเครื่องราชอิสริยยศ และเครื่องราชูปโภค และราชสกุลประกอบด้วยหม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์ และหม่อมหลวงตามลำดับ โดยในริ้วขบวนนี้มี หม่อมเจ้า 4 พระองค์คือ พล.ท.ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล, ร.อ.ม.จ.นวพรรษ์ ยุคล, ม.จ.หญิงศรีสว่างวงศ์ ยุคล (บุญจิตราดุลย์) และท่านหญิงนภดลเฉลิมศรี ยุคล มีพล.ต.อเนก กล่อมจิตร เป็นผู้กำกับพระมหาพิชัยราชรถ, พ.อ.พสิษฐ์ ภูวัตณัฐสิทธิ เป็นผู้ควบคุมฉุดชักราชรถ และพ.ท.สวรจน์ สุภเวชย์ เป็นผู้ควบคุมฉุดชักหลัง ซึ่งริ้วขบวนนี้จะมีความงดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดเนื่องจากใช้ผู้ร่วมขบวนมากกว่า 4,000 คน ใช้จังหวะการเดินแบบเดินเปลี่ยนเท้า ประกอบบทเพลงพญาโศก

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

    สำหรับริ้วขบวนที่ 2 นี้จะเคลื่อนไปบนถนนสนามไชย เข้าสู่ถนนราชดำเนินใน ผ่านหน้ากระทรวงกลาโหม ศาลหลักเมือง ศาลฏีกา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ท้องสนามหลวง รวมระยะทาง 890 เมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อเข้าสู่บริเวณท้องสนามหลวงขบวนทหารขบวนพระราชอิสริยยศ อัญเชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถ โดยเกรินบันไดนาคประดิษฐานพระบรมโกศทองใหญ่บนราชรถปืนใหญ่ที่ได้จัดสร้างขึ้นใหม่ เพื่อตั้งริ้วขบวนที่ 3 โดยมีราชสกุลทุกมหาสาขา ตั้งแถวรอภายในราชวัติพระเมรุมาศ จากนั้น อัญเชิญพระโกศพระบรมศพ โดยราชรถปืนใหญ่เวียนรอบพระเมรุมาศโดยอุตราวัฎ คือการเวียนซ้าย 3 รอบ ระยะทาง 260 เมตรต่อรอบ โดยพระประยูรญาติจะร่วมเดินในริ้วขบวนนี้ด้วย

     จากนั้นจึงเทียบราชรถปืนใหญ่ที่เกรินบันไดนาคพระเมรุมาศ อัญเชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ประกอบพระโกศจันทน์ บนพระเมรุมาศเป็นอันเสร็จพิธีอัญเชิญพระบรมศพออกสู่พระเมรุมาศ

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

     ส่วนช่วงบ่ายเวลา 12.39 น.พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ได้เสด็จไปทรงร่วมในการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 6 ซึ่งเป็นริ้วขบวนสุดท้าย ที่จะอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร ในวันที่ 29 ตุลาคม โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงฉลองพระองค์เสื้อสีขาว พระสนับเพลาสีเทาเข้ม พร้อมด้วยหมวกสีดำประดับด้วยพู่สีฟ้าเข้ม ทรงม้านำขบวน ตามด้วยขบวนกองทหารม้าจำนวน 77 ม้า ใช้กำลังพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม2.รอ)และกำลังพลของกองบัญชาการตำรวจนครบาล เชิญพระบรมราชสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่ออัญเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคารไปยังพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรสบรรจุลงในถ้ำศิลาและอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารไปยังบัลลังก์พระพุทธชินสีห์ และบรรจุลงในถ้ำศิลา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

    ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 6 นี้จะใช้เส้นทางออกประตูวิเศษไชยศรี เลี้ยวขวาไปตามถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนสนามไชย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกัลยาณไมตรี ข้ามสะพานช้างโรงสี เลี้ยวขวาเข้าถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายเทียบที่เกยหน้าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จากนั้นออกจากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เลี้ยวขวาถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานช้างโรงสีไปตามถนนกัลยาณไมตรี เลี้ยวขวาถนนสนามไชยเข้าสู่ถนนราชดำเนินใน ข้ามสะพานผ่านพิภพลีลา ไปตามถนนราชดำเนินกลาง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระสุเมรุ ไปเทียบหน้าประตูวัดบวรนิเวศวิหาร

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

    สำหรับม้าทรงของ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ที่ใช้ร่วมริ้วขบวนที่ 6 มีชื่อว่า W-CALATA ( เว-คาลาตา ) เป็นม้าทรงประจำพระองค์ฯ สายพันธุ์โฮล์สไตเนอร์ วอร์มบลัด สีแซมขาว เพศเมีย อายุ 11 ปี ความสูง 170 เซนติเมตร จากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งเป็นม้ากีฬาประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางที่มีความสามารถ ผ่านการฝึกขั้นสูง ตอบสนองต่อการบังคับควบคุมได้ดี โดยเคยเข้าร่วมการแข่งขันในรายการต่างๆ และได้รับรางวัลมากมาย ในการแข่งขันประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ในสหภาพยุโรป

    ในขณะที่พระองค์ทรงเป็นผู้บังคับกองทหารม้าเกียรติยศ ทรงดำเนินการควบคุมการซักซ้อมด้วยพระองค์เอง ด้วยการนำเอาแบบอย่างหน่วยทหารม้ารักษาพระองค์ในประเทศที่มีการจัดกำลังในลักษณะเดียวกันมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ เช่น การปรับรูปขบวนในขั้นตอนต่างๆ ท่านั่งม้า การควบคุมบนหลังม้า ทั้งนี้พระองค์ท่านทรงตรวจกำลังพลและม้า ก่อนปฏิบัติภารกิจ เพื่อให้เกิดความพร้อมและถูกต้อง รวมทั้งทรงให้มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกและมาตรฐานการจัดการคอกม้าให้เป็นมาตรฐานด้วย 

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

      ทั้งนี้ ในวันที่ 21 ตุลาคม จะมีการซ้อมใหญ่ในพื้นที่จริงอีกครั้ง โดยจะเป็นการซ้อมริ้วขบวนที่ 1-3 และในวันที่ 22 ต.ค. เป็นการซิ้วขบวนที่ 4-6 โดย พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ จะทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนที่ 6 ซึ่งเป็นริ้วขบวนกองทหารม้าเชิญพระบรมราชสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์ ในวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และขบวนกองทหารม้าเชิญพระบรมราชสรีรางคารจากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ไปบรรจุ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

     ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซ้อมย่อยครั้งนี้ว่า เป็นไปอย่างราบรื่น เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูจุดคัดกรองให้ประชาชนเข้าชมการซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ได้ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ซึ่งบริเวณที่ให้ประชาชนเข้าชม ได้แก่ ฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ท่าช้างถึงท่าเตียนหน้าศาลหลักเมืองและฝั่งตรงข้ามมณฑลพิธีท้องสนามหลวงยกเว้นถนนท้ายวัง หน้าวัดโพธิ์ โดยประชาชนจะต้องผ่านจุดคัดกรองที่มีทั้งหมด 9 จุด ประกอบด้วย บริเวณแยกสะพานมอญ ท่าช้าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม่พระธรณีบีบมวยผม ถนนกัลยาณไมตรี แยกสะพานช้างโรงสี แยกวัดพระเชตุพนฯ ท่าจันทร์ และใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า มีประชาชนสวมใส่ชุดสีดำไว้ทุกข์มาเข้าแถวรอเข้าจุดคัดกรองกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ท่ามกลางสถาพอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

     นางสาวโสฬสศภา น่วมพิพัฒน์ อายุ 46 ปี เดินทางมาจากบ้านพักใน จ.นนทบุรี พร้อมกับเพื่อนรวม 4 คน โดยผ่านจุดคัดกรองถนนกัลยาณไมตรีเข้ามาจับจองที่นั่งบริเวณด้านข้างสวนสราญรมย์เป็นกลุ่มแรกๆ กล่าวว่า ออกจากบ้านมาตั้งแต่ 03.00 น.มาถึงบริเวณท้องสนามหลวงประมาณ 04.00 น.ที่ตั้งใจมาชมขบวนพระบรมราชอิสริยยศในวันนี้เพราะในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงจริง 26 ต.ค.จะต้องไปเป็นจิตอาสาทำหน้าที่บริการประชาชนที่ลานพระราชวังดุสิต จึงไม่มีโอกาสได้มาร่วมในพระราชพิธีที่นี่ วันนี้เลยชักชวนเพื่อนๆ มาชมการซ้อมย่อยเพราะเป็นการซ้อมเสมือนจริง และได้ยินว่าสมเด็จพระเทพฯ จะทอดพระเนตรการซ้อมด้วย จึงอยากมารับเสด็จฯ

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

     ครอบครัวปูชนียบุคคล ประกอบด้วยนางสาวกานต์สุดา อายุ 47 ปี นายเอกชัย อายุ 49 ปี และนางอัญมณี อายุ 49 ปี เดินทางมาจากบ้านพักใน ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่ 01.00 น.โดยมีพี่สาว นางสาวภณิดา อายุ 53 ปี เดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ มาสมทบบริเวณท้องสนามหลวง โดยผ่านจุดคัดกรองบริเวณแยกสะพาญมอญ และจุดคัดกรองถนนกัลยาณไมตรี แล้วเข้ามาจับจองพื้นที่ด้านข้างสวนสราญรมย์ใกล้กับวงเวียนด้านหน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน

     นางสาวกานต์สุดา ปูชนียบุคคล กล่าวว่า ในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพคงไม่มีโอกาสได้มาร่วมงานเนื่องจากต้องดูแลคนป่วย อีกทั้งตัวเองสมัครเป็นจิตอาสาด้านประชาสัมพันธ์ที่วัดเจษฎาราม จ.สมุทรสาคร จึงถือโอกาสนัดแนะพี่ชายและพี่สาวมาร่วมชมขบวนพระบรมราชอิสริยยศพร้อมกันในวันนี้ ส่วนในวันที่ 26 ต.ค.ซึ่งเป็นวันถวายพระเพลิงจริงจะไปวางดอกไม้จันทน์ที่พระเมรุมาศจำลองที่วัดเจษฯ

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

     ด้านนางสาวภณิดา ปูชนียบุคคล กล่าวเสริมว่า ปกติตัวเองอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ แต่วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงคิดว่าคนคงมาเป็นจำนวนมากและไม่สามารถเข้ามาถึงจุดนี้ได้ จึงตั้งใจมาชมขบวนพระบรมราชอิสริยยศวันนี้ ส่วนวันถวายพระเพลิงพระบรมศพจะไปวางดอกไม้จันทน์ที่พระเมรุมาศจำลอง ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เชียงใหม่

     ปิดท้ายที่นางสอน เครือชัย อายุ 68 ปี ชาว อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เดินทางมาจากบ้านพักในซอยรามคำแหง 68 พร้อมด้วยญาติอีก 2 คน กล่าวด้วยความปลื้มปิติว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เพราะในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพน่าจะผู้คนจำนวนมากจนไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ได้ วันนี้ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่มาถึงบริเวณท้องสนามหลวงประมาณ 07.00 น.โดยผ่านจุดคัดกรองถนนกัลยาณไมตรี และมานั่งรอชมขบวนบริเวณหน้าศาลหลักเมืองซึ่งตรงจุดนี้คนมานั่งรอกันเนืองแน่น

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

      “อยากมาชมขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เพราะอยากเห็นพ่อหลวง ยิ่งเมื่อขบวนเคลื่อนผ่านก็ยิ่งทำให้คิดถึงพระองค์ท่านมากขึ้น ที่ผ่านมาพระองค์ท่านทรงช่วยประชาชนมากมาย อย่างที่ศรีสะเกษพระองค์พื้นที่แห้งแล้ง พระองค์ท่านก็ทรงริเริ่มโครงการฝนหลวง เพื่อพลิกพื้นดินให้สามารถกลับมาทำการเกษตรได้อีกครั้ง ทั้งยังได้ยินว่าแถวบ้านมีโครงการนำร่องเศรษฐกิจพอเพียงด้วย วันนี้ได้มากราบพระองค์ท่านอีกครั้งจึงเป็นวันที่มีความสุขมาก” นางสอนกล่าวด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งในพระมหากรูณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

 ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ  ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนฯ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ