สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปทรงเททองหล่อพระ
เมื่อเวลา 17.17 น.วันที่ 11 สิงหาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปทรงเททองหล่อพระสัมพุทธโคดมสิริกิติ์บรมราชินีนาถจตุราสีติวรรษมงคล พระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงพระดำเนินเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณี พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่ธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ จากนั้นประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล (ประธานสงฆ์ถวายศีล) จบ
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จพระราชดำเนินออกนอกพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังมณฑลพิธีเททอง ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับช้อนจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงเทแผ่นทอง นาก เงิน ลงในเบ้าแล้วพระราชทานช้อนคืนเจ้าพนักงานพระราชพิธี จากนั้นทรงถือสายสูตรทรงเททองหล่อ "พระสัมพุทธโคดมสิริกิติ์บรมราชินีนาถจตุราสีติวรรษมงคล" เสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินเข้าพระอุโบสถ ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก (พระสงฆ์ถวายอนโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระอุโบสถ) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการที่ธรรมาสน์ศิลา เสด็จฯ ออกจากพระอุโบสถ และเสด็จพระราชดำเนินกลับในเวลา 17.47 น.
โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะกรรมการอำนวยการสร้างฯ กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาของการจัดสร้างพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษาโดยสังเขป ดังนี้ ด้วยคณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคม ร่วมกับ รัฐบาล และพุทธศาสนิกชน พสกนิกร ทุกหมู่เหล่า ได้มีจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้างพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษา เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ขึ้น ด้วยเนื้อทองคำบริสุทธิ์ร้อยละ 99.99 สูงตลอดพระรัศมี 38 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ประดิษฐานบนแท่นฐาน 8 เหลี่ยม สร้างด้วยเนื้อทองคำขาว น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม มีลักษณะและขนาดเดียวกันกับพระพุทธรูปที่จัดสร้างน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
แต่พระพุทธรูปที่จัดสร้างในวาระนี้ยกพระหัตถ์ขวา คณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคม และรัฐบาลได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต และพระราชทานถวายพระนามพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษาองค์นี้ว่า “พระสัมพุทธโคดม สิริกิติ์บรมราชินีนาถจตุราสีติวรรษมงคล” อันมีความหมายว่า “พระสัมพุทธโคดม องค์เป็นมงคลสร้างเมื่อ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนหน้าพระลาน และสนามหญ้าด้านข้างศาลาลูกขุน ซึ่งเป็นเส้นทางเสด็จฯ ผ่าน มีพสกนิกรเดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จจำนวนมาก ต่างยกมือไหว้และเปล่งเสียงทรงพระเจริญดัง ด้วยความปลื้มปีติอย่างหาที่สุดไม่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง