สมเด็จพระเทพฯ ทรงติดตามความคืบหน้าพระเมรุมาศ

        เมื่อเวลา 07.12 น. วันที่ 31 มีนาคม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ยังท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ทรงตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ และสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ, นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.), นายกฤษดา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.), นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร, นายอารักษ์ สังหิตกุล อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะทีมวิศวกรที่ปรึกษาวิศวกรรมด้านโครงสร้างพระเมรุมาศ, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.), ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ สำนักราชเลขาธิการ เฝ้าฯ รับเสด็จ

  
      การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ณ วิธานสถาปกศาลา (โรงขยายแบบ) ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าพระบรมหาราชวัง ทอดพระเนตรพระเมรุมาศจำลอง ทรงรับฟังการบรรยายจากนายอนันต์ ชูโชติ ถึงความคืบหน้าการสร้างพระเมรุ จัดสร้างพระโกศจันทน์ และพระโกศทองคำสำหรับบรรจุพระบรมอัฐิ รวมถึงการซ่อมแซมราชรถพระยานมาศ ราชรถปืนใหญ่ จากนั้นทรงพระดำเนินไปยังพื้นที่การก่อสร้างพระเมรุมาศ ทอดพระเนตรจุดก่อสร้างศาลาลูกขุน ศาลาทรงธรรม ซึ่งจัดแสดงแผนผัง และแบบแพลนพระเมรุมาศแบบ 3 มิติ โดยมีสถาปนิก วิศวกรโยธา จากกรมศิลปากร ถวายรายงาน จากนั้นพระดำเนินไปยังอาคารปั่นหล่อและอาคารเขียนสี ทอดพระเนตรการขยายแบบร่าง งานจัดสร้าง ปั้นลวดลาย และหล่อส่วนประกอบ ประดับตกแต่งพระเมรุมาศ อาทิ พระโพธิสัตว์นูนสูงประกอบยอดเหม พระศิวะ พระนารายณ์ พระอินทร์ พระพรหม แบบสัตว์ประจำทิศ ประกอบด้วย สิงห์ ช้าง ม้า วัว สัตว์ป่าหิมพานต์ในโขดหินในสระอโนดาดจำลอง เป็นต้น

         จากนั้นทอดพระเนตรการจัดทำภาพต้นจิตรกรรมฉากบังเพลิง ทั้ง 4 ทิศ ประกอบพระเมรุมาศ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปยัง อาคารจัดสร้างพระโกศจันทน์ ทอดพระเนตรการบูรณปฏิสังขรณ์ พระที่นั่งราเชนทรยาน เพื่ออัญเชิญพระบรมอัฐิ และชมแบบแพลนการจัดสร้างพระราเชนทรยานน้อย อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร และเสด็จพระราชดำเนินกลับ 

      พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ และสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ กล่าวว่า ภาพรวมการจัดสร้างพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศคืบหน้าไป 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทุกอาคารในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเริ่มก่อสร้างหมดแล้ว เพียงแต่มีคืบหน้าลดหลั่นกันไป อาทิ ศาลาทรงธรรมที่วางโครงสร้างและหลังคาคืบหน้าไป 70 เปอร์เซ็นต์ ศาลาลูกขุนก็มีความคืบหน้า ซึ่งภาพรวมถือว่าเร็วกว่าแผนที่กำหนด แต่มีความละเอียดรอบคอบ อย่างการทดสอบเสาต่างๆ ด้วยการตั้งกล้องดูความเบี่ยงเบนแม้จะมีลมพายุต่างๆ ก็ไม่พบปัญหาอะไร ทั้งนี้ วางแผนว่าทุกอย่างจะทำให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนกันยายนนี้ เพื่อมีเวลาทำสิ่งละเอียดปราณีต และรอโปรดเกล้าฯ วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งคิดว่าสามารถนับถอยหลังทำได้ทัน

      "ยังมีความคืบหน้าเรื่องจิตรกรรมประติมากรรม ที่วันนี้แสดงแบบจำลองสัตว์ในวรรณคดี รวมถึงการลงสีของสัตว์ต่างๆที่ประกอบโดยรอบพระเมรุมาศ ซึ่งหากเสร็จสิ้นคิดว่าจะเหมือนจำลองสวรรค์ลงมา อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณกระทรวงวัฒนธรรมที่ทุ่มเททำงานด้วยสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณในหลวงร.9 ด้วยจิตใจเต็มที่" พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว
      ด้าน นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวเสริมว่า ด้วยพระเมรุมาศมีความสูงถึง 4 ชั้น จึงออกแบบให้สามารถติดตั้งลิฟต์จำนวน 2 ตัว เพื่อรองรับการเสด็จพระราชดำเนิน และเสด็จฯ ของพระวงศานุวงศ์ ซึ่งตัวแรกตั้งอยู่ทิศตะวันออกของพระเมรุมาศ สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และอีกตัวตั้งที่ทิศตะวันออก สำหรับการเสด็จฯ ของพระวงศานุวงศ์ โดยได้ออกแบบให้เข้ากับภูมิสถาปัตย์ที่มองภายนอกจะดูไม่ออกว่ามีลิฟต์ ขณะที่พระเมรุมาศขณะนี้เริ่มขึ้นโครงหลังคาชั้นเชิงกลอนของบุษบกประธานแล้ว และเตรียมติดตั้งเรือนยอดของพระเมรุมาศภายในเดือนเมษายนนี้ ก่อนทยอยนำรถเครนออกจากพื้นที่ และนำนั่งร้านเข้ามาเพื่อเริ่มติดตั้งงานประติกรรมตกแต่ง นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าในส่วนแบบร่างซุ้มรับดอกไม้จันทน์ ที่ได้ทูลเกล้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตร ซึ่งมี 3 แบบ ได้แก่ ขนาดใหญ่กว้าง 8 ยาว 9.50 เมตร ขนาดกลาง ขนาดเล็กกว้าง 4.50 สูง 7.75 เมตร และขนาดโต๊ะหมู่กว้าง 3.30 สูง 3.26 เมตร โดยจะมอบให้กทม. และมท.นำแบบซุ้มรับดอกไม้จันทน์ขนาดใหญ่และกลางไปจัดตั้งยังจุดที่กำหนด และมอบให้สถานเอกอัครราชทูตไทยทั่วโลก นำแบบขนาดโต๊ะหมู่ไปจัดตั้งยังจุดที่กำหนด

       ขณะที่ ดร.พรธรรม ธรรมวิมล ภูมิสถาปนิก สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร หนึ่งในผู้รับผิดชอบปั้นสัตว์หิมพานต์ในสระอโนดาด 4 ทิศของพระเมรุมาศกล่าวว่า ได้นำแบบจำลองสัตว์ป่าหิมพานต์หลายชนิดในลักษณะท่าทางต่างๆ และโขดหินภายในสระอโนดาดฝั่งทิศตะวันออกของพระเมรุมาศ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากวรรณคดีชาดก อาทิ ไตรภูมิพระร่วง มาจัดแสดง ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทอดพระเนตรและมีรับสั่งพอพระทัย ขณะที่ผู้ตามเสด็จฯหลายคนก็แสดงความชื่นชอบ เพราะดูมีเรื่องราว และถือเป็นครั้งแรกในการจัดสร้างพระเมรุมาศที่เคยมีมา ทั้งนี้ จากนี้จะเริ่มดำเนินการถอดแบบและปั้นให้ครบทุกทิศและได้ขนาดจริง เพื่อเตรียมนำไปติดตั้งโดยรอบพระเมรุมาศ เมื่อการก่อสร้างพระเมรุมาศเริ่มนิ่ง