หน้าแล้งมีน้ำท่าไว้ใช้ทำไร่ทำนา

         วันนี้ (14 มีนาคม) สำนักพระราชวัง เปิดประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา  04.50 น.ให้ประชาชนเดินเข้าไปรอขึ้นกราบสักการะพระบรมศพ บรรยากาศตลอดทั้งวันมีพสกนิกรทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ อุดรธานี, ชัยภูมิ, นนทบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ราชบุรี, ระยอง, จันทบุรี เชียงราย, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สงขลา, ภูเก็ต เป็นต้น  เดินทางมาอย่างไม่ขาดสายด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความจงรักภักดีแด่ในหลวง ร.9 ที่ทรงงานเพื่อประชาชนอย่างไม่รู้จักเหน็จเหนื่อยตลอด 70 ปี

     
        น.ส.เกวลิน ล้วนดี อายุ 33 ปี และ น.ส.นิภา ใต่ไม้งาม อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ที่หอบหิ้วกระเป๋าสัมภาระพะรุงพะรัง ร่วมกันเล่าความรู้สึกหลังจากได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มาประทับใจมาก พากันเดินทางโดยรถประจำทางจากบ้านเกิดตั้งแต่ 6 โมงเย็นวานนี้ มาถึงสนามหลวงแล้วเข้าคิวรอเมื่อเวลาตี 5 ครึ่ง และได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพเวลา 7 โมงครึ่ง ใช้เวลารอ 2 ชั่วโมงถือว่าเร็วกว่าที่คิดไว้มาก นอกจากจะภูมิใจที่ได้มากราบในหลวง ร.9 แล้วยังประทับใจที่เห็นผู้คนมากันมากมาย ถ้ามีโอกาสก็อยากจะมาอีกเรื่อยๆ
       "เราอยู่อุดรฯ ไกลจากกรุงเทพฯ พอสมควร ไม่เคยรับเสด็จในหลวง ร.9 สักครั้งในชีวิต ทำให้ต้องมากราบท่านให้ได้เป็นครั้งสุดท้าย เห็นท่านทำงานลำบากเพื่อประชาชนมาตลอด รู้สึกรักท่านมาก ไม่คิดว่าท่านจะจากไปเร็วขนาดนี้ ไม่ว่าจะเดินทางลำบากแค่ไหนบอกกับตัวเองและเพื่อนที่มาด้วยกันว่าต้องมาให้ได้ พอได้มาก็ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก ตัวเองทำนา พอหน้าแล้งก็ปลูกอ้อย ก็ได้ประโยชน์จากโครงการเกี่ยวกับน้ำของในหลวง อย่างเขื่อนอุบลรัตน์ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งอยู่ในอุดรฯ แต่ก็ได้รับประโยชน์ไม่น้อย เพราะมีคลองส่งน้ำมาถึง ทำให้มีน้ำท่าปลูกอ้อยยามหน้าแล้ง ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงด้วยการพึ่งตัวเอง ปลูกข้าว ปลูกผักไว้กินเอง เพื่อนบ้านก็ทำเหมือนกัน แล้วเอามาแบ่งกันกิน อยู่ได้สบายๆ โดยไม่ต้องใช้เงินซื้อหาอะไรมากมาย คิดว่าจะใช้ชีวิตแบบนี้แหละ มีความสุขดี" น.ส.เกวลิน กล่าว
       

       เช่นเดียวกับ น.ส.วิลาวรรณ บุตรนามดี อายุ 30 ปี ชาว ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมสามี ลูกสาว และแม่ เป็นครั้งแรกที่ได้มา ความจริงอยากจะมาช่วงแรกๆ แต่เห็นคนเยอะมาก วันนี้สามีหยุดงานจึงได้ขับรถพาครอบครัวมากันเอง โดยมาถึงสนามหลวงเมื่อเวลาตี 4 และได้เข้ากราบถวายพระบรมศพตอน 7 โมงเช้า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวไทยอย่างมากทรงมีโครงการในพระราชดำริต่าง ๆมากมาย ซึ่งที่ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง ก็มีอ่างเก็บน้ำดอกกราย แม่เล่าให้ฟังว่าเมื่อ 40 กว่าปีก่อนท่านเคยเสด็จฯไปเปิดอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ด้วย นอกจานนี้ใน อ.ปลวกแดง ยังมีอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ซึ่งนอกจากใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้งยังมีคลองระบายน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้ทำการเกษตร และยังมีการส่งเสริมพัฒนาอาชีพการเกษตรให้กับชาวบ้านให้มีอาชีพอีกด้วย
       

   ขณะที่ นางปุณณัฐฐา หล่อปุรทรัพย์ อายุ 54 ปี อาชีพแม่บ้าน และ นางฉัตร์ชลี สุขมา อายุ 55 ปี พนักงานโรงงานเย็นผ้าแห่งหนึ่ง เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก ร่วมกันกล่าวว่า เดินทางมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า ตอนกราบพระบรมศพรู้สึกขนลุก ปลื้มปีติ อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ตลอดชีวิตประทับใจในหลวง ร.9 ทุกๆด้าน อยู่ในดวงใจของพวกเราคนไทยตลอดไป ทั้งความอดทน อดกลั้น ความดีและความพยายามของพระองค์ เช่น ในหลวงร.9 ทรงอดทนอดกลั้นกับการทำงาน และคนไม่ดี ทรงเป็นต้นแบบของการปิดทองหลังพระที่แท้จริง ทำดีอย่างไม่หวังผลตอบแทนแม้ว่าจะไม่มีใครรู้ ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติในชีวิตจริงได้อย่างดี