ประทับใจไม่ลืมรับปริญญาจากพระหัตถ์ในหลวง ร.9

     บรรยากาศภายในพระบรมมหาราชวังวันที่ 13 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ามากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่เวลา 04.50 น.มีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศมารอต่อแถวเข้ากราบสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวแต่พสกนิกรต่างไม่ย่อท้อต่อการรอคอย

อรัญญา เพ็ชรศรี -สุกัญญา เสนาวงศ์

     นางอรัญญา เพ็ชรศรี อายุ 54 ปี เดินทางมาเป็นครั้งที่ 23 จากบ้านพักย่านพรานนก พร้อมด้วยน้องสะใภ้ นางสุกัญญา เสนาวงศ์ อายุ 48 ปี เผยว่า บ้านอยู่ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวัง ประกอบกับเป็นแม่บ้าน หลังจากส่งหลานไปโรงเรียนแล้วจึงมักหาเวลาว่างมากราบสักการะพระบรมศพอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งมีเพื่อหรือญาติให้พามาบ้าง ครั้งนี้ก็เช่นกันพาน้องสะใภ้มากราบพระบรมศพด้วย 
     "มากราบพระบรมศพหลายครั้งแล้วแต่ทุกครั้งที่มาก็ยังตื้นตันใจ ประทับใจพระองค์ท่านที่ทรงงานมากมายเพื่อประชาชน ที่ผ่านมาจึงได้น้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้กับตัวเองด้วย โดยเฉพาะเรื่องความซื่อสัตย์ ทำอะไรตรงไปตรงมาไม่คดโกง รวมทั้งสอนลูกหลานให้คิดดี ทำดี โดยมีพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง" แม่บ้านวัย 54 ปีกล่าวด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง

ฉัตรชัย ทองปอนด์ และครอบครัว    

        ด้าน นายฉัตรชัย ทองปอนด์ เดินทางมาจากจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยภรรยา นางจงจิต     ลูกอีก 2 คนคือ ด.ญ.กัลยรัตน์ ด.ช.ภูดิท และญาติอีก 1 คนคือ นางจตุพร แสงมี วัย 43 ปี กล่าวว่า ตัวเองเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นครั้งที่ 3 แล้ว รู้สึกประทับใจพระองค์ท่านทุกครั้งที่มา จึงอยากพาคนที่รักมากราบสักการะพระบรมศพบ้าง ครั้งนี้จึงพากันมาแบบพร้อมหน้าครอบครัว
     "ตอนที่ผมเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตร เมื่อปี พ.ศ.2539 ผมได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งผมดีใจมาก หลังจากนั้นผมเข้ารับราชการทำงานด้านวิศวกรในโครงการพระราชดำริของในหลวง ร.9 โดยมีพระองค์ทรงเป็นต้นแบบ ส่วนในบทบาทของครอบครัวผมได้นำคำสอนของพระองค์ท่านในเรื่องความขยันหมั่นเพียร ความสามัคคี และการใช้จ่ายอย่างพอเพียงมาสอนลูกๆ ของผมให้ดำเนินรอยตามพระองค์ท่านด้วย" หัวหน้าครอบครัวทองปอนด์ กล่าว