ข่าว

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ และทรงมีพระราชดำรัสให้ทุกคนทำงานเต็มหน้าที่ความสามารถ

 

  เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2559   เวลา 19.51 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โอกาสนี้ นายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม, นางปิยนุช มนูรังสรรค์ เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย จากนั้น เวลา 20.01 น. พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด นำตุลาการศาลปกครองสูงสุด เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โอกาสนี้ นายไกรรัช เงยวิจิตร เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง และนายอติโชค ผลดี รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย

  เวลา 20.07 น. พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ร้อยตำรวจตรี พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด นำอัยการประจำกอง สำนักงานอัยการสูงสุด เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โอกาสนี้ รองอัยการสูงสุด, อธิบดีอัยการ, สำนักงานคณะกรรมการอัยการ และเลขานุการอัยการสูงสุด ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย

  ในการนี้ ได้มีพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ และทรงมีพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า 

  “อันอัยการนั้นมีหน้าที่มากมายหลายอย่างแต่ก็อยู่ในกรอบขอบเขตของการปฏิบัติการทางด้านกฏหมายและชีวิตของราษฏร ก็คือ ดูแล รักษา อำนวยความยุติธรรม และช่วยขบวนการยุติธรรมให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยถูกต้อง อัยการมีหน้าที่กว้างขวาง ใส่หมวกหลายใบ มีหน้าที่มากมาย แต่จำไว้ว่ามีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมและอำนวยการขั้นตอนต่างๆ ในการปฏิบัติการ ให้ความยุติธรรมต่อประชาชน จรรยาบรรณ หรือทัศนคติที่ดี หรือความรู้เรื่องกฎหมายและศึกษาเข้าใจปรัชญา ชีวิตของประชาชนหรือของคน ปกติคนก็ไม่มีใครอยากทำผิด ไม่มีใครอยากทำไม่ดี ไม่มีใครอยากถูกโทษ แต่สถานการณ์บางอย่างบีบบังคับให้มันอย่างนั้น จะว่าดวงก็ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราต้องรู้ถึงพยานหลักฐานและขั้นตอนในการดำเนินการต่างๆ ให้เป็นธรรมโปร่งใส ถูกต้อง ความรู้ในด้านกฎหมาย การมีศีลธรรมในจิตใจ จรรยาบรรณ และประสบการณ์นำมาใช้ในทางที่ดีพวกท่านก็จะช่วยประเทศชาติและประชาชนอย่างมาก” 

  จากนั้นเวลา 20.32 น. พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อการศึกษาและวิจัยทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ในพระราชูปถัมภ์ฯ นำนิสิต นักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่มีผลการเรียนดี และสอบได้เป็นที่ 1 ประจำปี 2559 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเหรียญรางวัลเรียนดี และผู้ได้รับรางวัลประกวดตำราดีเด่น ประจำปี 2559 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณ ในการนี้ มีพระราชดำรัสชื่นชมผู้แต่งตำราวิชาการด้านวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ความตอนหนึ่งว่า 

      “ในประเทศไทยเรา การที่ได้แต่งตำราเพื่อเป็นวิทยาทานก็เป็นสิ่งที่มีค่า คนไทยเรามีความรู้ความสามารถแต่บางทีการแต่งตำราก็ไม่มีการเผยแพร่มากเท่าที่ควร มีแต่แปลตำราฝรั่งมา บางทีคนไทยเราโดยเฉพาะในอาชีพนี้ก็มีความเก่ง มีความปราณีต และไม่ด้อยกว่าชาวต่างประเทศ และอาชีพวิชานี้นับว่าเกี่ยวข้องกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นวิศวกรฝ่ายโยธา เครื่องกล ไฟฟ้า หรือก่อสร้าง ศาสตร์นี้ล้วนเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการอยู่แล้ว สามารถทำประโยชน์ในภาคของราชการ ในภาคเอกชน เป็นครูบาอาจารย์ก็ทำประโยชน์ได้มาก ขอแสดงความยินดี ปลื้มปิติ และขอให้กำลังใจ ทุกท่านให้มีกำลังใจดี มีงานในหน้าที่ที่ดี สามารถเอาความรู้ที่เราเรียนมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์กับสภาพปัจจุบัน ของบ้านเมือง และสร้างสรรความเจริญ หรือความสะดวก ความมั่นคงให้กับประเทศชาติต่อไป”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ